20 มีนาคม 2568 สถานการณ์ทางการเมืองในสภากำลังเป็นไปอย่างเข้มข้น โดยสัปดาห์หน้า ที่ประชุมสภาได้ฤกษ์เปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี ระหว่างวันที่ 24-26 มีนาคม ทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน ต่างเตรียมพร้อมจัดขุนพล สู้ศึก นอกจากพรรคประชาชน เตรียมขุมกำลังอภิปรายไว้ 20 คน
ดูจะไม่ต่างกับ พรรคเพื่อไทย ได้มีการแถลงออกมาล่าสุดวันนี้ ( 20 มี.ค.68 ) โดย นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย สส.ของพรรคฯแถลงว่า ได้เตรียม 20 ขุนพล ในการ จัดตั้งคณะทำงานชุดพิเศษ "ทีมพิทักษ์ข้อบังคับประชุมสภาฯ" ซึ่งหนึ่งในนั้น มี นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว สส. น่าน พรรคเพื่อไทย ร่วมหัวขบวน
นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว สส. น่าน พรรคเพื่อไทย
ทั้งนี้ นพ.ชลน่าน เคยสวมบทผู้นำฝ่ายค้านในสภาฯ สมัยอภิปรายไม่ไว้วางใจรมต. รายบุคคล ยุครัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ดำรงตำแหน่งนายกฯ ได้ถ่ายทอดประสบการณ์การจัดทำญัตติซักฟอก และประเมินศักยภาพของฝ่ายค้านชุดปัจจุบัน ต่อการอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายกฯแพทองธาร ที่กำลังจะมีขึ้น ในวันที่ 24 มีนาคมนี้ ผ่านเนชั่นทีวี ว่า ถ้าจะประเมินศักยภาพฝ่ายค้าน ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจคราวนี้ ต้องดูข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น และสิ่งที่เป็นข้อเท็จจริงคือ ตัวญัตติ และเป้าหมายการอภิปรายพอจะมองออกว่า ฝ่ายค้านมีวัตถุประสงค์อย่างไรในการอภิปราย
"ตัวญัตติ พุ่งเป้าอภิปรายนายกฯคนเดียว ถึงพฤติการณ์ พฤติกรรม ความรู้ความสามารถ ถูกครอบงำ ชี้นำ ที่เขียนมา 17 ประเด็น พุ่งเป้านายกฯคนเดียว และในญัตติ มีประเด็นถกเถียงกันอยู่ เกี่ยวกับชื่อบุคคลภายนอก พอประเมินวิธีการทำงานผู้นำฝ่ายค้านได้บ้าง ในแง่เทคนิค วิธีการ "
นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว สส. น่าน พรรคเพื่อไทย
ซักฟอกนายกฯคนเดียว งานยากฝ่ายค้าน
"นพ.ชลน่าน" ตั้งคำถามว่า การเลือกอภิปรายนายกฯคนเดียว มีข้อจำกัดหรือไม่ เพราะการกล่าวหานายกฯ ความรู้ความสามารถ พฤติการณ์ เรื่องของกำกับดูแลหน่วยงานต่างๆ ถ้าไม่มีรัฐมนตรี มารองรับนี่ยากมากนะ ที่จะอภิปรายลึกลงในรายละเอียด เพราะถ้าลงลึกในรายละเอียด เปิดโอกาสให้ รมต.เกี่ยวข้องมาชี้แจงได้เลย เป็นการอภิปรายที่ไม่ลงมติ ตรงนี้จะเป็นประโยชน์กับใครไม่รู้ แต่รมต.ที่มาชี้แจงถูกพาดพิงเขาสามารถชี้แจงสิ่งที่เขาทำได้ในสภาได้อย่างเต็มที่ เพราะถูกพาดพิงอาจเป็นมุมหนึ่ง ตรงนี้การยื่นอภิปรายนายกฯคนเดียว จะมีข้อจำกัด"
จุดเด่นฝ่ายค้าน สร้างกระแสปชส.
"อดีตผู้นำฝ่ายค้านในสภาฯ" วิเคราะห์ต่อไปว่า พิจารณาจากตัวญัตติ การเติมชื่อ "บุคคลในครอบครัว" เป็นบุคคลภายนอก สามารถมองได้สองมุม มุมหนึ่งเป็น การโฆษณาประชาสัมพันธ์ได้ดีมาก ต้องยอมรับว่า ทำให้คนสนใจ คนติดตาม ไม่มีใครไม่รู้ว่าฝ่ายค้านอภิปราย สำหรับคนที่สนใจ เป็นเทคนิคอย่างหนึ่ง
“ผมเองก็นั่งคิดถ้าเป็นผม ผมเห็นญัตติการที่จะบรรจุคนภายนอกลงไป เราถกกันก่อนนะ ตกผลึกว่าอย่าใส่ จะมีปัญหา มีประเด็น ทำให้การอภิปรายไม่ราบรื่น ทำให้ประธานไม่บรรจุ อันนี้เราจะถกกันก่อน เราเชี่อว่า ฝ่ายค้านก็ถกเหมือนกัน แต่เขาสามารถบรรจุและสร้างเงื่อนไขประเด็น ก็เป็นประโยชน์ ในเรื่องประชาสัมพันธ์ ถ้าประเมินศักยภาพอย่างนี้ในบางมุม เขาเด่นนะ ทำให้ญัตติอภิปรายน่าสนใจ"
นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว สส. น่าน พรรคเพื่อไทย
เบื้องหลัง "หัวเขียง-สุทิน" นำทัพ
อย่างที่ทราบกันไปแล้วว่า พรรคเพื่อไทย ได้จัดตั้งคณะทำงานชุดพิเศษ “ทีมพิทักษ์ข้อบังคับประชุมสภาฯ” จำนวน 20 คน โดยนายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ยืนยันว่า ไม่ใช่ องครักษ์พิทักษ์นายกรัฐมนตรี แต่จะ "พิทักษ์ข้อบังคับการประชุม" และจะไม่เน้นการประท้วง ถ้าฝ่ายค้านอภิปรายตรงไปตรงมา เคารพซึ่งกันและกันจะไม่มีการประท้วง สามารถอภิปรายได้ต่อเนื่อง เพราะฝ่ายค้าน ก็เห็นว่า เวทีการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้เป็นโอกาสที่รัฐบาลสามารถชี้แจงผลงานได้เช่นเดียวกัน
สามขุนพลแถวหน้า พรรคเพื่อไทย ร่วมอยู่ในทีมพิทักษ์ข้อบังคับการประชุมสภาฯ
สำหรับ "ทีมพิทักษ์ข้อบังคับประชุมสภาฯ" จำนวน 20 คน ประกอบด้วย "นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว" สส.น่าน, "นายสุทิน คลังแสง" สส.บัญชีรายชื่อ, "นายประยุทธ์ ศิริพานิชย์" สส.บัญชีรายชื่อ, นายก่อแก้ว พิกุลทอง สส.บัญชีรายชื่อ, นายไชยวัฒนา ติณรัตน์ สส.มหาสารคาม, นายเทอดชาติ ชัยพงษ์ สส.เชียงราย, นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.บัญชีรายชื่อ, ทันตแพทย์หญิงศรีญาดา ปาลิมาพันธ์ สส.บัญชีรายชื่อ, นางนุชนาถ จารุวงษ์เสถียร สส.ศรีสะเกษ,
นายวัชระพล ขาวขำ สส.อุดรธานี, นายวรวงศ์ วรปัญญา สส.ลพบุรี, นางสาวสุดารัตน์ พิทักษ์พรพัลลภ สส.อุบลราชธานี, นายมนัสนันท์ หลีนวรัตน์ สส.ปทุมธานี, นายธีระชัย แสนแก้ว สส.อุดรธานี, นายระวี เล็กอุทัย สส.อุตรดิตถ์ นายอดิศร เพียงเกษ สส.บัญชีรายชื่อ นายพชร จันทรรวงทอง สส.โคราช นายวิรัตน์ พิมพ์พนิต สส.กาฬสินธุ์, นายพลากร พิมพ์นิต และนางชนก จันทาทอง สส.หนองคาย
ข้อน่าสังเกต การจัด "ทีมพิทักษ์ข้อบังคับประชุมสภาฯ" จำนวน 20 คน สอดคล้องกับ พรรคฝ่ายค้านอย่างพรรคประชาชน ที่เตรียมผู้อภิปรายไว้ ประมาณ 20 คน เช่นกัน เหมือนทั้งสองพรรคต่างเช็กข้อมูลรู้เขารู้เรา จัดทีมตามประกบติด ฝ่ายค้านแบบ 1 ต่อ 1 กันทีเดียว
นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว สส. น่าน พรรคเพื่อไทย
หากพิจารณาจากรายชื่อ ดังกล่าว เห็นได้ว่า หัวแถวนำทัพ นอกจาก "นพ.ชลน่าน" ยังมี "นายประยุทธ์ ศิริพานิชย์" สส. 8 สมัย และ "สุทิน คลังแสง" อดีตประธานวิปฝ่ายค้าน
"หมอชลน่าน" บอกกับ"เนชั่นทีวี"ว่า ทั้งสองท่าน เป็นนักการเมืองอาวุโส มีประสบการณ์งานสภา แม่นข้อบังคับ และกฎหมาย โดยเฉพาะคุณสุทิน เคยเป็นประธานวิปฝ่ายค้าน เปิดซักฟอก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกฯ จนได้รับการกล่าวขานถึงการทำงานซักฟอกอย่างมีประสิทธิภาพ
มีรายงานเพิ่มเติมว่า "พรรคเพื่อไทย" ยังแบ่งทีมทำงาน มีทั้งทีมประท้วง ฝ่ายค้าน / ประธานสภา กรณีผิดข้อบังคับที่ประชุม พาดพิงบุคคลนอก ส่อเสียด หมิ่นเหม่ อภิปรายวกวน อภิปรายประเด็นซ้ำซาก สอดแทรกเกมขัดจังหวะฝ่ายค้านให้ต่อไม่ติดในการอภิปราย
ขณะที่ "องครักษ์พิทักษ์นายกฯ" จะเป็นอีกทีมหนึ่ง มีสส.หญิงร่วมแจม
มีการมอบหมายลูกพรรค มอนิเตอร์ การอภิปรายฝ่ายค้าน ติดตามห้องแชทไลน์ขอความช่วยเหลือจากนายกฯ สนับสนุนข้อมูลให้นายกฯตอบ
เพื่อไทย เก็งข้อสอบ 17 ประเด็น
1.ไม่มีคุณสมบัติและไม่มีความเหมาะสม ในการเป็นผู้นำ
2.ขาดภาวะผู้นำ ขาดวุฒิภาวะ ขาดความรู้ ความสามารถ
3.ขาดเจตจำนงในการบริหารราชการแผ่นดิน ในการแก้ปัญหาประเทศชาติและประชาชน
4.ทำลายภาพลักษณ์และความเชื่อมั่น ของประเทศ
5.จงใจลอยตัวอยู่เหนือปัญหาและไม่รับผิดชอบต่อตำแหน่งหน้าที่
6.เห็นแก่ผลประโยชน์ตนเอง บิดา ครอบครัวและพวกร้องอยู่เหนือผลประโยชน์ส่วนรวม
7.ไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์
8.เอาเปรียบประชาชน เอาเปรียบสังคม
9.โกหกหลอกลวง ไม่ทำตามนโยบายที่สัญญาประชาชน
10.เป็นนั่งร้านช่วยเหลือต่างตอบแทนกลุ่มบุคคลที่เป็นปฏิบัติต่อระบอบประชาธิปไตย
11.บริหารบ้านเมืองผิดพลาดล้มเหลวอย่างร้ายแรง
12.ทำลายนิติรัฐ ทำลายระบอบประชาธิปไตยระบบรัฐสภา
13.เจตนาปล่อยปละละเลยให้เกิดการทุจริตคอร์รัปชัน
14.ทุจริตเชิงนโยบาย เอื้อผลประโยชน์พวกพ้อง กลุ่มทุน
15.แต่งตั้งบุคคลที่ขาดความเหมาะสม ขาดความรู้ และไม่ซื่อสัตย์ดำรงตำแหน่ง รมต. และตำแหน่งสำคัญ
16.สมัครใจ ยินยอมให้ “บุคคลในครอบครัว” ชี้นำ ชักใย ให้กระทำการ หรืองดเว้นเรื่องสำคัญของชาติ
17.ประพฤติตนเสมือนนายกฯ หุ่นเชิด โดยบุคคลในครอบครัวเป็นนายกฯตัวจริง
17 ประเด็นเป็นไปตามการเปิดเผย จาก นพ.ชลน่าน ที่สกัดออกมาจากเนื้อหาญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ พร้อมกับมอบให้ทีมงานพรรคสังเคราะห์และถอดรหัสออกมาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการบริหารราชการแผ่นดินภายใต้การนำของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อย่างไรบ้าง เพื่อนำไปสู่การเตรียมข้อมูลสนับสนุนนายกฯชี้แจงต่อสภา
การเก็งข้อสอบจากพรรคเพื่อไทย ครั้งนี้ จะตรงตามที่ฝ่ายค้านเตรียมเปิดประเด็นอภิปรายหรือไม่ คงต้องติดตามกันตั้งแต่วันที่ 24 มีนาคมนี้เป็นต้นไป