svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

เครือข่าย ปชช.ใต้ จับตาศึกซักฟอก วอนนึกถึงประโยชน์ชาวบ้านด้วย

23 มีนาคม 2568
เกาะติดข่าวสาร >> NationTV
logoline

เครือข่ายภาค ปชช.ใต้ จับตาศึกซักฟอก เผย อยากให้นึกถึงประโยชน์ประชาชน พูดเรื่องปัญหาชาวบ้านบ้าง ไม่ว่าจะเป็นปากท้อง ราคาสินค้าเกษตร เครื่องมือประมงผิดกฎหมาย ฯลฯ มากกว่าเล่นเกมการเมือง

23 มีนาคม 2568 นายชัยวุฒิ สวัสดิรักษ์ คณะกรรมาธิการธรรมมาภิบาลจังหวัดตรัง กล่าวถึงความคาดหวังในฐานะภาคประชาชน ต่อการอภิปรายไม่ไว้วางใจ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โดยฝ่ายค้าน ระหว่างวันที่ 24-25 มีนาคมที่จะถึงนี้ ว่า การที่พรรคฝ่ายค้านได้ยื่นญัตติขออภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯ เพียงคนเดียวนั้น ภาคประชาสังคมและประชาชนที่ติดตามการเมืองมองว่า การอภิปรายครั้งนี้จะสร้างบรรทัดฐานในเรื่องข้อมูลหลักฐานให้รัฐบาลนำไปปรับปรุงการบริหารบ้านเมืองให้ดีขึ้น

เพราะจากการติดตามข้อมูลพบว่า พรรคประชาชนในฐานะแกนนำพรรคฝ่ายค้าน ได้มีการเตรียมข้อมูลต่างๆ เป็นจำนวนมากมาโดยตลอด คาดว่าในการอภิปรายครั้งนี้จะมีเนื้อหาสาระในการอภิปรายมากกว่าการเล่นสำนวนโวหาร และคาดว่าฝ่ายรัฐบาลโดยนายกฯ ได้เตรียมข้อมูลมาตอบพอสมควร ผ่านการสั่งการให้ส่วนราชการต่างๆ เตรียมพร้อม

ส่วนการพุ่งเป้ามาที่ตัวนายกฯ คนเดียว ต่างจากในอดีตที่มีการอภิปราย ครม.รายบุคคล หรือทั้งคณะด้วยนั้น ขึ้นกับการบ้านที่พรรคแกนนำฝ่ายค้านเตรียมตัวมา เชื่อว่าจะไม่มีเกมการเมืองระหว่างฝ่ายค้านกับฝ่ายรัฐบาลอย่างเดียว อยากให้นึกถึงประโยชน์ประชาชนที่ได้รับด้วย ในการพุ่งเป้าที่นายกฯ คนเดียวก็อาจจะมีการอภิปรายที่เกี่ยวข้องไปถึงกระทรวงต่างๆ ได้ ซึ่งน่าจะเป็นการกระชับกว่าการอภิปรายแยกรายกระทรวง เพราะต้องมีการจัดสรรอภิปรายเวลาค่อนข้างมาก 

นายชัยวุฒิ กล่าวอีกว่า ในส่วนของพรรคประชาชนผู้นำอภิปรายจะสร้างน้ำหนักได้มากเพียงใดนั้น ในการทำงานของพรรคประชาชน ตั้งแต่อดีตพรรคอนาคตใหม่ พรรคก้าวไกล จนปัจจุบันเป็นพรรคประชาชน เมื่อติดตามพบว่ามีการพัฒนาการทำงาน จะทำให้การอภิปรายมีความชัดเจนและมีข้อมูลลึกซึ้งมากขึ้น 

ซึ่งล่าสุด สะท้อนจากการทำงานตรวจสอบของพรรคประชาชนในเรื่องประกันสังคม ในประเด็นการซื้ออาคารสำนักงานที่มีราคาสูงมาก ซึ่งภาคประชาชนโดยเฉพาะผู้ประกันตนไม่รู้เลยว่า สำนักงานประกันสังคมเอาเงินของประชาชนไปทำอะไรบ้าง ดังนั้น การที่พรรคประชาชนไปสืบค้นข้อมูลมาบอกกับประชาชน ทำให้เกิดประโยชน์ ทำให้เกิดการจับตาการบริหารราชการแผ่นดิน 

"เราในฐานะภาคประชาชนก็จะติดตามการทำหน้าที่ของฝ่ายค้าน และยินดีช่วยสนับสนุนข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่างๆ เพื่อประโยชน์ในการติดตามการใช้งบประมาณที่มาจากภาษีของประชาชน" นายชัยวุฒิ กล่าว

นายชัยวุฒิ บอกอีกว่า ส่วนประเด็นหลักที่พรรคฝ่ายค้านตั้งธงเรื่องบุคคลในครอบครัว ซึ่งหมายถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เข้ามาก้าวก่ายหรือมีบทบาทครอบงำรัฐบาลจะมีน้ำหนักเพียงใดนั้น การจะเอ่ยชื่อหรือไม่ไม่สำคัญ ขึ้นอยู่กับเนื้อหาสาระ หรือข้อมูลที่ฝ่ายค้านจะนำไปอภิปรายพาดพิงมากกว่าว่ามีข้อมูลมากน้อยแค่ไหน 

ส่วนผลการอภิปรายในครั้งนี้จะกระทบถึงขั้นต้องยุบสภาฯ หรือไม่นั้น จากภาพของการรับประทานอาหารร่วมกันของพรรคร่วมรัฐบาลล่าสุด ได้สะท้อนว่า ในประเด็นของการยุบสภาหรือไม่ยกมือไว้วางใจนายกฯ นั้นคงไม่มีผล

แต่เรื่องการปรับ ครม.น่าจะเกิดขึ้นหลังจากการอภิปราย เพราะเรามีปัญหาในการแต่งตั้ง ครม.จากโควต้าพรรคมากกว่าเอาคนเก่งและเชี่ยวชาญมาบริหาร หลายครั้งที่บุคคลที่ไม่มีความรู้เลยแต่ได้โควค้าพรรคมานั่งเป็นรัฐมนตรี ตรงนี้เป็นจุดอ่อนของประเทศไทยมาโดยตลอด ดังนั้นหากหลังอภิปรายแล้วจะมีการปรับ ครม.ที่มีความเหมาะสม ก็จะเกิดประโยชน์ต่อประชาชน 

ด้าน นายชัยพร จันทร์หอม เครือข่ายภาคประชาชนจังหวัดตรัง กล่าวว่า ในฐานะประชาชน อยากให้การอภิปรายครั้งนี้เกิดประโยชน์กับประชาชนด้วย มากกว่าการเล่นเกมการเมืองในสภา

"ประชาชนในภาคใต้ที่เฝ้าติดตามการเมือง จับตามองการอภิปรายครั้งนี้ จะเกิดประโยชน์กับชาวบ้านแค่ไหน โดยเฉพาะการแก้ปัญหาปากท้อง ปัญหาสินค้าเกษตรราคาตกต่ำ ปัญหาทรัพยากรทางทะเลของภาคใต้ที่มีการใช้เครื่องมือประมงที่อาจส่งผลต่อสัตว์น้ำวัยอ่อน เช่น อวนตาถี่ และเครื่องมือประมงผิดกฎหมายที่ยังคงมีอยู่" นายชัยพร ระบุ

logoline