นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม พร้อมด้วย พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม นำคณะผู้บริหารส่วนราชการ และสื่อมวลชน เดินทางถึงท่าอากาศยานเมืองคาซือ เขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ สาธารณรัฐประชาชนจีน ในเวลา 09.40 น. ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งเร็วกว่าไทย 1 ชั่วโมง โดยมีนายชู ต้าถง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงความมั่นคงสาธารณะ (ลำดับ 4) ให้การต้อนรับ
โดย นายภูมิธรรมและคณะ เริ่มภารกิจแรกด้วยการพบปะหารือกับ นายฉี หยานจุน รองเลขาธิการคณะกรรมการพรรค และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงความมั่นคงสาธารณะ พร้อมรับฟังบรรยายสรุปเกี่ยวกับการดำเนินการและการดูแลกลุ่มบุคคลที่ส่งกลับของจีน โดยเฉพาะชาวอุยกูร์ 40 คน ซึ่งถูกส่งตัวกลับเมื่อวันที่ 27 ก.พ. 68
จากนั้น คณะผู้แทนไทยจะเข้ารับฟังการบรรยายสรุปเกี่ยวกับ การดำเนินการและการดูแลกลุ่มบุคคลที่ไทยส่งกลับประเทศจีน และจะหารือร่วมกับ นายฉี หยานจุน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงความมั่นคงสาธารณะของจีน ลงพื้นที่เยี่ยมชาวอุยกูร์ที่เดินทางกลับบ้านเกิด
ในช่วงบ่าย คณะผู้แทนไทยจะแบ่งออกเป็น 2 คณะ เพื่อลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมชาวอุยกูร์ที่เดินทางกลับจากประเทศไทย ไปยังบ้านพักซึ่งอยู่ห่างจาก เมืองคาซือ มณฑลซินเจียง-อุยกูร์ ประมาณ 150 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง
คณะที่ 1 นำโดยนายภูมิธรรม พร้อมสื่อมวลชน โดยมี นายฉี หยานจุน(Mr. Qi Yanjun) รมช.กระทรวงความมั่นคงฯ เป็นผู้แทนฝ่ายจีน
คณะที่ 2 นำโดย พันตำรวจเอก ทวี , รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ , รองผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง , รองผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมสื่อมวลชน โดยมี นายซู ต้าถง (Xu Datong) รมช.กระทรวงความมั่นคงสาธารณะของจีน อำนวยความสะดวก
สำหรับช่วงค่ำ นายภูมิธรรม และคณะ จะประชุมหารือร่วมกับ ทีมแพทย์ที่ดูแลชาวอุยกูร์ และหารือร่วมกับตัวแทน ชาวอุยกูร์ที่เดินทางกลับภูมิลำเนา ผ่านการประชุมวิดีโอคอลจากห้องประชุมโรงแรมที่พัก
จากนั้น เวลาประมาณ 20.00 น. คณะฝ่ายไทย มีกำหนดหารือกับ นายหม่า ซิงรุ่ย สมาชิกคณะกรรมการกรมการเมืองกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์ เขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์
ส่วนภารกิจสุดท้ายของวัน ฝ่ายจีนได้พาคณะฝ่ายไทย เยี่ยมชมพื้นที่สำคัญทางวัฒนธรรมเมืองโบราณคัชการ์
นายภูมิธรรม เน้นย้ำว่า ประเทศไทยมีความตั้งใจในการรักษาสิทธิมนุษยชนอย่างเต็มที่ มีเจตนารมณ์ในการดำเนินการตามหลักสิทธิมนุษยชน เพื่อให้ชาวอุยกูร์ได้กลับสู่บ้านเกิด แทนการถูกกักขังอยู่ในห้องแคบๆ มานานกว่า 10 ปี โดยไม่มีอนาคตที่แน่นอน