13 มีนาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานจากรัฐสภาว่า ภายหลัง นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาฯ ได้หยิบยกประเด็น การแก้ไขญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายกรัฐมนตรี ขึ้นหารือกับ นายวันมูหะมัด นอร์ มะทา ประธานสภา กลางที่ประชุม สภา โดยมีการอภิปรายแสดงความคิดเห็นกันอย่างกว้างขวางไปแล้วนั้น โดย ประธานสภาฯ นัดหมายผู้นำฝ่ายค้าน ประชุมเพื่อหาข้อสรุปการแก้ไขญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจในช่วงบ่ายอีกครั้ง
วันมูหะมัด นอร์ มะทา ประธานสภาฯ
มีรายงานว่า ฝ่ายค้าน ยอมที่จะแก้ไขญัตติไม่ใส่ชื่อ นายทักษิณ แต่จะระบุคำว่า "พ่อ" เท่านั้น และจะขอเวลาอภิปราย 2 วัน ซึ่งหากตกลงกันได้ วิป 3 ฝ่ายทั้งรัฐบาล ฝ่ายค้าน และคณะรัฐมนตรี จะประชุมทันทีในช่วงบ่ายวันนี้ (13 มี.ค.)ในช่วงบ่ายของวันเดียวกันอีกครั้ง
ขณะที่ นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร ยอมรับว่า ในช่วงเวลาประมาณ 15:00 น วันนี้ (13 มี.ค.) ตนเองจะเป็นประธานการประชุมวิป 3 ฝ่าย ซึ่งจะมีตัวแทน สส.ฝ่ายค้าน ฝ่ายรัฐบาล และตัวแทนของคณะรัฐมนตรี หารือเพื่อหาข้อสรุปเรื่องกรอบเวลาในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ
ส่วนที่มีกระแสข่าวฝ่ายค้าน ยอมตัดชื่อนายทักษิณออก แต่จะขอเวลาการอภิปราย 2 วันนั้น นายพิเชษฐ์ ระบุว่า ไม่น่าจะมีปัญหา และมีความเป็นไปได้ ซึ่งทุกอย่างน่าจะจบภายในวันนี้ (13 มี.ค.)
"ภูมิธรรม" ขอรอวิป3 ฝ่ายเคาะแก้ญัตติฝ่ายค้านซักฟอก
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีวิป 3 ฝ่ายยังหารือแก้ไขญัตติที่มีชื่อนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โดยใช้คำว่า"พ่อ"แทน และขอเวลาการอภิปราย 2 วัน ว่า อาจมองว่าเป็นเรื่องที่ดี เป็นกระบวนการที่ควรจะเป็นอย่างนั้น โดย 3 ฝ่ายต้องไปพูดคุยหารือกับนายวันมูฮัมหมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งเป็นผู้ที่มีอำนาจในการตัดสินใจ
ส่วนมองว่าการอภิปราย 2 วัน ทางฝ่ายรัฐบาลเห็นด้วยหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า อยู่ที่ 3 ฝ่ายคุยกัน ว่ามีเรื่องอะไรที่เกี่ยวข้องมากน้อยแค่ไหน หากไม่มีอะไรมาก
"วันก็วัน ครึ่งวันก็ครึ่งวัน แต่หากมีอะไรมาก 2 วัน ก็ต้องให้เขาถ้ามันมีมากพอ"
แต่ที่สำคัญคืออภิปรายนายกรัฐมนตรีเพียงคนเดียว และเรื่องที่อภิปรายก็ไม่ได้มีอะไรมาก เนื่องจากเข้ามาทำงานไม่ได้นาน และมีน้อยเรื่องที่เกี่ยวข้องกับนายกรัฐมนตรีโดยตรง แต่หากจะตีว่าเกี่ยวพันกับรัฐมนตรี ก็ได้ แต่ต้องไปดูว่าต้องมีอะไรจริงๆ แต่การที่ไม่เลือกมาอภิปราย ก็แสดงว่า ไม่มีอะไรมากกับรัฐมนตรี หากมีมากก็คงจะขึ้นมาอภิปรายแล้ว
เมื่อถามว่าหากใช้คำว่า"พ่อ" ในญัตติในการอภิปรายยังสามารถพูดถึงนายทักษิณได้ใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า การใช้คำว่า"พ่อ"ในญัตติ เป็นอำนาจของประธานสภาผู้แทนราษฎร จริงๆ มีกติกาอยู่แล้ว ว่าจะอธิบายอะไร หากโยงบุคคลภายนอก ปกติไม่ควรเกี่ยว แต่หากคิดว่าเขาทำลายอะไรและมีหลักฐานชัดเจนจะเอาผิดเขา ก็อภิปรายได้อยู่แล้ว เพียงแต่ต้องรับผิดชอบทุกคนภายนอก ที่ควรมีสิทธิ์มีสิทธิ์ปกป้องตนเอง แต่หากเปิดมาแล้ว มีข้อมูลชัดเจนเขาจะฟ้องอะไรก็ฟ้องไม่ได้ เพราะมันคือข้อเท็จจริง แต่หากเป็นการพูดลอยๆ ก็สามารถฟ้องได้
ก่อนกล่าวต่อว่า มันพูดได้อยู่แล้ว จริงๆ การอภิปรายไม่ไว้วางใจเปิดช่องให้ทำได้ทุกอย่างอยู่แล้ว ถ้าเป็นการอภิปรายยังสร้างสรรค์ และช่วยกันแก้ไขปัญหาของประเทศ ไม่ใช่เกมการเมือง แต่ถ้าเป็นเกมการเมืองเขาป้องกันไม่ให้ไปพูดถึงคนอื่นไปแต่เขานู่นนี่พูดให้เขาเสียหาย มันอาจจะไม่ใช่อย่างนั้น เขาไม่มีสิทธิ์จะมาตอบ คนอื่นจะไปตอบแทนก็ไม่รู้จะไปตอบอย่างไร อันนี้ต่างหาก หมายถึงบอกว่า คุณอภิปรายคนนอกไม่ได้เพราะ เพราะคนที่ถูกอภิปรายเขาไม่มีสิทธิ์ที่จะแก้ไข ตนมองว่า เป็นไปตามกฎ ระเบียบ ที่มีอยู่ก็แก้ไขปัญหาได้แล้ว ถ้าไม่คิดเรื่องเกมการเมือง ตนคิดว่าอย่าคิดเลย ขอใช้คำเก่า"ประเทศบอบช้ำมานานแล้ว" ตนว่า ให้เป็นเรื่อง 3 ฝ่ายและประธานสภาผู้แทนราษฎรหารือกัน ส่วนเราพร้อม