นายกรวีณ์ ปริศนานันทกุล สส.อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย ในฐานะประธานกรรมาธิการปกครอง สภาผู้แทนราษฎร แถลงภายหลังเชิญกระทรวงมหาดไทย, กระทรวงสาธารณสุข, สำนักงานตำรวจแห่งชาติ, กรมศุลกากร, สภาคุ้มครองผู้บริโภค และสภายุวทัศน์แห่งประเทศไทย ชี้แจงแนวทางในการควบคุมและแก้ไขปัญหาบุหรี่ไฟฟ้า โดยได้เสียงสะท้อนจากหน่วยงานต่าง ๆ ว่า กฎหมายที่ควบคุมเรื่องบุหรี่ไฟฟ้าไม่ได้เฉพาะเจาะจงเหมือนกับยาเสพติด การที่หน่วยงานต่าง ๆ จะจับกุม จะต้องอาศัยกฎหมายของศุลกากรในการนำเข้าสิ่งผิดกฎหมายเข้าประเทศ และกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภคในเรื่องการจำหน่ายสิ่งผิดกฎหมาย ซึ่งหมายความว่า ถ้าไม่จำหน่ายก็จับไม่ได้ จึงเห็นช่องว่างของกฎหมายที่ตามไม่ทัน
ส่วนการทำให้บุหรี่ไฟฟ้าถูกกฎหมาย และมีกฎในการควบคุมอย่างเข้มงวดเหมือนกับบุหรี่ทั่วไปนั้น นายกรวีร์ ระบุว่า ทุกหน่วยงานพูดตรงกันว่า มีความกังวลที่จะนำบุหรี่ไฟฟ้าขึ้นมาบนดิน เพราะจะยิ่งทำให้เข้าถึงได้ง่ายขึ้น จะส่งผลกระทบต่อประชาชน แม้จะมีกฎหมายควบคุมอย่างเข้มวดก็ตาม ซึ่งฝ่ายบังคับใช้กฎหมายก็มีความกังวล เพราะขณะนี้บุหรี่ทุกชิ้นที่อยู่ในประเทศถือว่าผิดกฎหมาย และยากที่จะปราบปรามอยู่แล้ว ถ้าหากทำให้ขายได้เฉพาะกลุ่มจะทำให้การควบคุมยากขึ้น
ส่วนกรณีที่บุหรี่ไฟฟ้าเข้าไปในโรงเรียนมากขึ้น รวมถึงมีร้านที่วางจำหน่ายอยู่ใกล้กับสถานศึกษาเป็นจำนวนมากนั้น นายกรวีร์ ระบุว่า ผู้แทนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้รับปากว่าจะไปปราบปราม และเข้มงวดกับการบังคับใช้กฎหมายมากขึ้น และเชื่อว่า จะได้เห็นการปราบปราม จับกุมจากเจ้าหน้าที่มากขึ้นอย่างแน่นอน
นายกรวีร์ ยังกล่าวถึงกรณีที่ปรากฏภาพ สส.สูบบุหรี่ไฟฟ้าภายในรัฐสภานั้น นายกรวีร์ ระบุว่า ได้มีการสอบถาม และพูดคุยกัน แต่ไม่ได้เฉพาะเจาะจงแค่กรณีที่เป็น สส.ว่า คนที่สูบบุหรี่ไฟฟ้าจะมีความผิดหรือไม่อย่างไร เนื่องจาก กฎหมายมีเพียงห้ามครอบครองสิ่งที่ห้ามนำเข้าประเทศ จึงต้องมีการปรับปรุงแก้ไขกฎหมายเข้มงวดต่อไปมากขึ้น สำหรับเรื่อง สส.ก็เป็นเรื่องส่วนบุคคลไป หากมีการแจ้งความดำเนินคดี ก็ต้องว่ากันไปตามกฎหมาย