svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

เปิด"ร่างกม.เอ็นเตอร์เทนเมนต์ฯ" ฉบับกฤษฎีกา ผุด"กาสิโน"ต้องฟัง ปชช. 

17 กุมภาพันธ์ 2568
เกาะติดข่าวสาร >> NationTV
logoline

ชำแหละ "ร่างกม. เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์" ฉบับกฤษฎีกา ร่างแรก 9 หมวด 79 มาตรา รื้อออกพรฎ. กำหนดสถานที่ตั้ง"กาสิโน" ต้องเปิดรับฟังความเห็น

18 กุมภาพันธ์ 2568  ภายหลัง ครม.เมื่อวันที่ 13 ม.ค.2568 มีมติเห็นชอบในหลักการ "ร่างพ.ร.บ การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร" หรือ "ร่างกม.เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์" โดยส่งให้กฤษฎีกา ตรวจพิจารณา ภายในกรอบเวลา 50  วัน

ต่อมากฤษฎีกา ได้ตั้งคณะกรรมการกฤษฎีกาคณะพิเศษ โดยรัฐบาลส่งผู้แทนร่วมพิจารณา 2 คน คือ นายศึกษิษฏ์ ศรีจอมขวัญ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง และนายฉัตริน จันทร์หอม รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง เพื่อเสนอแนวคิดของเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์

ล่าสุดเมื่อวันที่ 15 ก.พ.ที่ผ่านมา คณะกรรมการกฤษฎีกาปรับปรุงร่างกฎหมายแล้วเสร็จและได้เปิดรับฟังความเห็นประชาชน ครั้งที่ 3 ตั้งแต่ วันที่ 15 ก.พ. - 1 มี.ค. 2568 ซึ่งจะนำความคิดเห็นไปปรับปรุงร่างกฎหมายก่อนเสนอ ครม.

คณะกรรมการกฤษฎีกาได้ปรับปรุงร่างกฎหมายล่าสุดมีประเด็นสำคัญ คือ กฎหมายบัญญัติ มี 9 หมวด  79 มาตรา  ขณะที่ร่างกม. ที่ผ่าน ครม. โดยสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กระทรวงการคลัง จะมี 9 หมวด 65 มาตรา 

ร่างกม.เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์็ ฉบับกฤษฏีกา วาระแรก ร่างกม.เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์็ ฉบับกฤษฏีกา วาระแรก

โดยกำหนดเงื่อนไขอำนาจหน้าที่คณะกรรมการนโยบายสถานบันเทิงครบวงจรให้ "กำหนดสัดส่วนพื้นที่ของกาสิโนในสถานบันเทิงครบวงจร ทั้งนี้ ต้องไม่เกิน 10% ของที่ดิน ซึ่งเป็นที่ตั้งสถานบันเทิงครบวงจร

กรณีกาสิโนตั้งในอาคารใดให้นับสัดส่วนจากพื้นที่อาคารนั้นทั้งหมด" โดยกำหนดในมาตรา 18 (6)

ร่างกม.เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ มาตรา 18 ( 6 ) ร่างกม.เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ มาตรา 18 ( 6 )

นอกจากนี้ร่าง พ.ร.บ.กำหนดให้ควบคุมการขยายพื้นที่การให้บริการกาสิโนในพื้นที่ที่จะลงทุนเพิ่มเติมในกิจการอีก 4 ประเภทที่ลงทุนห้ามและให้มีการทำธุรกิจกาสิโนในพื้นที่ใหม่ที่จะลงทุนด้วย

นอกจากนี้ร่างกฎหมายเปิดกว้างถึงกรณีที่การลงทุนสถานบันเทิงครบวงจร อาจไม่มีกาสิโนก็ได้ โดย มาตรา 6 วรรคแรก บัญญัติว่า “การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร จะกระทำได้เฉพาะที่ได้รับอนุญาต ตามพระราชบัญญัตินี้"

 

การกำหนดที่ตั้งให้ออกเป็นพระราชกฤษฎีกา

สำหรับการกำหนดพื้นที่ตั้งสถานบันเทิงครบวงจรให้ตราเป็นพระราชกฤษฎีกาโดยสอดคล้องการให้อำนาจในการบริหารพื้นที่กับคณะกรรมการสถานบันเทิงครบวงจร โดยพระราชกฤษฎีกาต้องกำหนดรายละเอียด ดังนี้

1.แนวเขตที่ดินที่จะอนุญาตให้ตั้งสถานบันเทิงครบวงจรโดยชัดเจน

2.แผนที่หรือแผนผังบริเวณพื้นที่ที่จะอนุญาตให้ตั้งสถานบันเทิงครบวงจร

เปิด\"ร่างกม.เอ็นเตอร์เทนเมนต์ฯ\" ฉบับกฤษฎีกา  ผุด\"กาสิโน\"ต้องฟัง ปชช. 

สำหรับการกำหนดพื้นที่ลงทุนให้คณะกรรมการนโยบายสถานบันเทิงครบวงจรแต่งตั้งคณะกรรมการเฉพาะกิจมาศึกษาความเหมาะสมของพื้นที่และทางการเงิน ตลอดจนผลกระทบหรือมาตรการป้องกัน แก้ไข หรือเยียวยา และความคุ้มค่าที่ประชาชนในพื้นที่และรัฐได้รับ

เปิด\"ร่างกม.เอ็นเตอร์เทนเมนต์ฯ\" ฉบับกฤษฎีกา  ผุด\"กาสิโน\"ต้องฟัง ปชช. 

ผุดสถานที่กาสิโน ต้องเปิดรับฟังความเห็น

โดยต้องรับฟังความคิดเห็นผู้มีส่วนได้เสียผู้มีกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองในที่ดินข้างเคียง และหน่วยงานของรัฐที่ใช้ประโยชน์หรือดูแลที่ดินข้างเคียงหรือทางเข้าออกของที่ดินที่อาจได้รับผลกระทบจากการอนุญาตให้มีการตั้งสถานประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจรและนำผลการรับฟังความคิดเห็นเสนอคณะกรรมการนโยบายสถานบันเทิงครบวงจรนำไปประกอบการพิจารณา


ส่วนการดำเนินการเพื่อจัดตั้งสถานบันเทิงครบวงจรภายในบริเวณพื้นที่ที่กำหนดในพระราชกฤษฎีกา ต้องจัดทำรายงานการประเมินผล กระทบสิ่งแวดล้อม สุขภาพของประชาชนหรือชุมชนตามที่มีกฎหมายกำหนด

รวมทั้งให้คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติแต่งตั้งคณะกรรมการผู้ชำนาญการเป็นการเฉพาะเพื่อพิจารณารายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม โดยดำเนินการให้เสร็จภายใน 120 วันนับแต่วันที่ได้รับรายงานถูกต้องและมีข้อมูลครบ

ขณะที่การดำเนินการเพื่อจัดตั้งสถานบันเทิงครบวงจรภายในบริเวณพื้นที่ที่กำหนดในพระราชกฤษฎีกาซึ่งเป็นที่ดินของรัฐต้องดำเนินการตามกฎหมายว่าด้วยการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน

นอกจากนี้ มาตรา 12 บัญญัติว่า “ในการดำเนินการเพื่อจัดตั้งและประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจรหากคณะกรรมการนโยบายเห็นว่ากฎหมาย กฎ ระเบียบ ข้อบังคับ ประกาศ หรือคำสั่งใดก่อให้เกิดความไม่สะดวกหรือล่าช้า มีความซ้ำซ้อนหรือเป็นการเพิ่มภาระการดำเนินการโดยไม่จำเป็น หรือมีปัญหาหรืออุปสรรคอื่นใดให้คณะกรรมการนโยบายเสนอ ครม.พิจารณาให้ปรับปรุงกฎหมาย กฎ ระเบียบข้อบังคับ ประกาศ หรือคำสั่งดังกล่าว หรือมีกฎหมายขึ้นใหม่ เพื่อให้การดำเนินการจัดตั้งและประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจรมีประสิทธิภาพ สะดวก และรวดเร็ว”

ภาพประกอบเรื่อง ภาพประกอบเรื่อง

ตั้งคณก.นโยบายสถานบันเทิง

สำหรับการบริหารกำหนดให้มี "คณะกรรมการนโยบายสถานบันเทิงครบวงจร"  มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน และรองนายกรัฐมนตรีที่ได้รับมอบหมายเป็นรองประธาน พร้อมคณะกรรมการอีก 15 คน ซึ่งจะกำหนดนโยบายการบริหารจัดการ การออกใบอนุญาต การกำหนดพื้นที่ สัดส่วนการจัดตั้งกาสิโน หลักเกณฑ์การขออนุญาต และการควบคุมด้านความปลอดภัย รวมถึงการออกระเบียบและคำสั่ง

รวมทั้งกำหนดให้มี"คณะกรรมการบริหาร"โดยมีบุคคลที่นายกรัฐมนตรีแต่งตั้งเป็นประธาน ร่วมด้วยกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ และผู้แทนหน่วยงานรวม 15 คนเพื่อกำหนดอนุมัติแผนยุทธศาสตร์ แผนงบประมาณ การจัดเก็บค่าธรรมเนียม และการพิจารณาข้อร้องเรียน

ส่วนสำนักงานที่จัดตั้งขึ้นจะตั้งพนักงานเจ้าหน้าตรวจสอบสถานที่และเอกสาร ยึดทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิด ตลอดจนสั่งหยุดการเล่นหรือพนันที่ไม่เป็นไปตามกฎหมาย และรายงานต่อเลขาธิการ

ใบอนุญาตห้ามมีพนันออนไลน์ 


ขณะที่การอนุญาตต้องตั้งในพื้นที่กำหนดและประกอบธุรกิจอย่างน้อย 4 ประเภท รวมถึงกาสิโน โดยต้องมีทุนจดทะเบียนไม่ต่ำกว่า 10,000 ล้านบาท ใบอนุญาตมีอายุ 30 ปี และประเมินผลการดำเนินงานทุก 5 ปี ทั้งนี้ หากไม่ปฏิบัติตามแผนอาจเพิกถอนใบอนุญาต

ทั้งนี้ การควบคุมการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจรต้องเป็นไปตามกฎหมายและข้อกำหนด ห้ามมีพนันออนไลน์หรือโฆษณาเกี่ยวกับกาสิโน และกำหนดข้อห้ามสำหรับบุคคลที่อายุต่ำกว่า 20 ปี หรือผู้ไม่ได้ลงทะเบียนตามที่กำหนด

ส่วนกรณีผู้รับใบอนุญาตไม่ปฏิบัติตามกฎหมายต้องแก้ไขในเวลาที่กำหนด หากฝ่าฝืนต้องชำระค่าปรับและอาจถูกเพิกถอนใบอนุญาตโดยรัฐบาลมุ่งให้อยู่ภายใต้การกำกับดูแลอย่างเป็นระบบ สร้างความโปร่งใสและป้องกันผลกระทบเชิงลบต่อสังคม

logoline