svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

"ครูหยุย"จับพิรุธ รัฐบาลหิวเงิน เร่งผลักดัน"พนันออนไลน์"ให้ถูกกม.

"ครูหยุย" ฟาดรัฐบาลหิวเงิน จับพิรุธ เร่งออกกฎกระทรวง "พนันออนไลน์" มาแรงแซง "กม.เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์" ระวังใช้นโยบายโจรจับโจรจะเพิ่มโจร เตือน"นายกฯอิ๊ง"จะส่งต่อมรดกบาปให้ลูก

15 มกราคม 2568  จากการที่นายประเสริฐ  จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบข้อเสนอแนะแก้ปัญหาพนันออนไลน์ ด้วยการนำขึ้นบนดินให้ถูกต้อง โดยจะแก้กฎหมายลำดับรอง เพื่อให้เกิดความรวดเร็ว และให้แล้วเสร็จภายใน 1 เดือนนั้น  

"ครูหยุย" นายวัลลภ  ตังคณานุรักษ์ อดีตสมาชิกวุฒิสภา กล่าวแสดงความเห็นว่า น่าสังเกตว่า เรื่องนี้ไม่อยู่ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่นายกรัฐมนตรีแถลงผลเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา  แต่กลับออกมาจากปากของพ่อนายกฯ ที่ไปพูดเมื่อคืนก่อน  แล้วต่อมา ถึงออกมาให้ข่าวว่าคณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบในเรื่องนี้แล้ว ทำให้ดูเหมือนมีเงื่อนงำแอบแฝงอะไรบางอย่าง ดูเป็นการลักหลับและซ่อนแอบเอากาสิโนมาหลอกให้คนสนใจ

"แต่แอบเอาเรื่องพนันออนไลน์แทรกเข้ามาแบบด่วนๆ ดูเป็นความเร่งรีบร้อนรนอย่างน่าสงสัย และจะมาแรงแซงทางโค้งเรื่องเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ที่แอบซุกกาสิโนไว้ข้างใต้ กลายเป็นหายนะเรื่องใหม่ของสังคมไทยเลยทีเดียว  เพราะจะพลิกโฉมสังคมไทยให้เปลี่ยนไปจากเดิมอย่างมิอาจเรียกกลับมาได้  เพราะจะมีผลกระทบต่อวิธีคิดของเด็กเยาวชน และคนรุ่นใหม่อย่างมาก " 

​นอกจากนี้ การทำให้การ"พนันออนไลน์"ถูกกฎหมายในประเทศไทย ยังจะส่งผลให้ต่อไปนี้ค่านิยมของสังคมไทยต่อการเล่นพนันจะเปลี่ยนไป สิ่งที่คนรุ่นเก่าพยายามพร่ำสอนให้เห็นโทษภัยของการพนัน  สิ่งที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชได้พระราชทานแนวทางของปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง จะถูกล้มล้างไปทั้งหมดด้วยนโยบายนี้   เพราะการพนันขัดต่อหลักการดังกล่าว คือไม่พอเพียง ไม่มีเหตุผล ไม่มีภูมิคุ้มกัน ไม่รู้จักพอประมาณ

"ครูหยุย"  วัลลภ ตังคณานุรักษ์  อดีตสมาชิกวุฒิสภา

"รัฐบาลดูเหมือนหิวเงิน อ้างทุกอย่างเพื่อเงิน โดยไม่สนใจว่าเป็นการเอาสิ่งผิดมาทำให้เป็นถูก  แล้วกลายเป็นการทำที่ย้อนแย้งกับสิ่งที่พูด  เช่น รมต.ดีอีเอสเคยประกาศปราบเว็บพนัน แต่ไม่ทันไร ก็กลับมาเสนอทำพนันออนไลน์ถูกกฎหมายเสียเอง กลายเป็นมือถือสากปากถือศีล"

ครูหยุย กล่าวต่อว่า นโยบายแบบนี้เขาเรียกว่า นโยบายใช้โจรจับโจร สุดท้ายมันจะกลายเป็นการเพิ่มโจรให้มากขึ้นแทน  แล้วโจรพวกนี้จะกลายมาเป็นผู้มีอิทธิพลเหนือสังคม จะมาเป็นผู้เอาเงินบาปมาบริจาคเพื่อสร้างบุญคุณต่อสังคม สุดท้ายไม่มีใครกล้าแตะกลุ่มคนพวกนี้ และเขาก็จะกินอยู่สบายอย่างลอยนวล ท่ามกลางความหายนะของครอบครัว หนี้สิน และสภาพสังคมที่มอมเมาผู้คนด้วยการพนัน และเกิดอาชญากรรมอื่นๆ ตามมาอย่างมิอาจคาดการณ์ได้" 

ทั้งนี้ อยากให้นายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นคุณแม่ลูกสองที่ยังเล็กอยู่ คิดดูให้ดี ๆ ว่าท่านจะสร้างสังคมที่เต็มไปด้วยอบายมุขอย่างนี้ส่งต่อเป็นมรดกบาปที่ตกทอดให้แก่ลูกหลานของท่านอย่างนั้นหรือ