svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

“ธนาธร” โยน ปชช.ตัดสิน พท.แจกเงินหมื่นสูงวัยก่อนวันกาบัตร อบจ.

“ธนาธร” โยน ปชช.ตัดสิน พท.แจกเงินหมื่นสูงวัยก่อนวันกาบัตร อบจ. – ยอมรับห่วงเลือกตั้งวันเสาร์มากกว่าวอนผู้ประกอบการหยุดให้ลูกจ้างไปใช้สิทธิ

นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ในฐานะผู้ช่วยหาเสียงพรรคประชาชน ปฏิเสธที่จะให้ความเห็นกรณีที่รัฐบาลจะแจกเงิน 10,000 บาท ให้กลุ่มผู้สูงอายุในวันที่ 27 มกราคมนี้ จะสร้างความได้เปรียบการเลือก นายก อบจ.ในวันที่ 1 กุมภาพันธ์นี้หรือไม่ โดยขอให้ประชาชนตัดสินเอง แต่ยอมรับว่า ตนเองมีความกังวลถึงวันเลือกตั้ง ที่ย้ายจากวันอาทิตย์ มาเป็นวันเสาร์มากกว่า ซึ่งเรื่องนี้นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะโฆษกพรรคฯ เคยพูดและทำหนังสือถึงคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต.ให้ทบทวนแล้ว เพราะประเทศไทย ไม่ได้หยุดงานวันเสาร์ และยังมีบริษัทต่าง ๆ จำนวนมาก ที่ทำงานในวันเสาร์ และลูกจ้างรายวัน อาจจะไม่อยากทิ้งรายได้ เพื่อมาใช้สิทธิ์เลือกตั้ง แต่ก็ขอเชิญชวนผู้ประกอบการ สภาอุตสาหกรรม สภาหอการค้า และผู้ประกอบการทุกคนให้หยุดวันเสาร์ ช่วงเช้า หรือบ่ายก็ได้ เพื่อให้พนักงาน และลูกจ้างไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งนายก อบจ.

นายธนาธร ยังย้ำถึงการหาเสียงเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด หรือ นายก อบจ. ว่า พรรคฯ ในฐานะผู้ช่วยหาเสียงของพรรคประชาชน ตนตั้งใจทำเต็มที่ ซึ่งตนเพิ่งเดินทางกลับมาจากภาคใต้ ที่พรรคฯ ส่งผู้สมัคร อบจ.ทั่วประเทศ 17 จังหวัด ซึ่งในภาคใต้พรรคส่งผู้สมัครที่จังหวัดสงขลา พังงา ภูเก็ต สุราษฎร์ธานี โดยได้รับการตอบรับจากประชาชนเป็นอย่างดี และต้องการชนะเพื่อแสดงฝีมือในจังหวัดภาคใต้ในการขับเคลื่อนจัดสรรงบประมาณในระดับจังหวัด และแม้งบประมาณจะไม่มาก แต่จะจัดสรรให้มีประสิทธิภาพ ซึ่งเชื่อว่า จะทำให้จังหวัดต่าง ๆ มีระบบบริการสาธารณะดีขึ้น เพื่อให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตเป็นอยู่ที่ดีขึ้น พร้อมยังย้ำว่า ชัยชนะสำหรับพรรคฯ เป็นเรื่องสำคัญ และการเลือกตั้ง เป็นโอกาสในการสร้างทีม ทำให้ประชาชนเข้าใจถึงแนวคิดของพรรคฯ มากขึ้น และการเลือกตั้งทุกครั้งเป็นโอกาสของการเรียนรู้ เติบโตสร้างเครือข่าย

ส่วนที่มีการวิจารณ์ผู้ช่วยหาเสียงของแต่ละพรรค พูดถึงนโยบายระดับประเทศ แต่ในข้อเท็จจริงนายก อบจ.เป็นนโยบายเฉพาะพื้นที่นั้น นายธนาธร เห็นว่า แล้วแต่สไตล์ แต่ก็มีความเชื่อมโยงกัน ไม่สามารถแยกออกจากกันอย่างสิ้นเชิงได้ แต่สำหรับพรรคประชาชน มองว่า สิ่งที่เชื่อมโยงคือ การกระจายอำนาจ ในวาระการเลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัด ซึ่งพรรคก้าวไกลเดิมในการรณรงค์หาเสียงปี 2566 มีนโยบายเหมือนกับพรรคเพื่อไทย คือ ผู้ว่าราชการจังหวัดมาจากการเลือกตั้ง เพียงแต่วิธีแตกต่างกัน โดยพรรคเพื่อไทย ให้เลือกทีละจังหวัดที่มีความพร้อม แต่พรรคประชาชน ให้เลือกทุกจังหวัดพร้อมกัน ซึ่งผู้สมัครของพรรคประชาชนทุกจังหวัด สนับสนุนนโยบายนี้อยู่แล้ว และถ้าได้รับความไว้วางใจจากประชาชนได้รับเลือกเป็นนายก อบจ. ก็จะผลักดันให้จังหวัดนั้น ๆ เลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัด