นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน กล่วถึงการจัดการของภาครัฐต่อการจัดการปัญหาแอปพลิเคชัน ในโทรศัพท์มือถือรุ่น OPPO และ Realme ว่า ถือเป็นความไม่รับผิดชอบของบริษัทเอกชน เพราะทั้ง 2 แบรนด์ ถือเป็นแบรนด์ใหญ่ แต่เหตุใดถึงปล่อยให้มีแอปพลิเคชัน ที่เข้าถึงข้อมูลของประชาชน จนนำไปสู่การดูดเงิน คล้าย Scam และภาครัฐ ควรถามหาความรับผิดชอบจาก OPPO และ Realme และไม่ควรจบที่การลบแอปทิ้ง เพราะยังไม่ทราบว่า แอปพลิเคชันอื่น ๆ ยังมีอีกหรือไม่ และช่องโหว่ที่ทำให้เกิดเหตุการณ์นี้ จะเป็นบทเรียนอย่างเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาซ้ำอีก ดังนั้น ภาครัฐ จะต้องจัดการกับบริษัทเอกชน และบริษัทเอกชน ควรจะรับผิดชอบกับประชาชน หรือหากไม่ปลอดภัยจริง ๆ รัฐควรมีมาตรการ เพื่อทำให้ประชาชนมั่นใจได้ว่า ข้อมูลส่วนบุคคล ตกอยู่กับการหลอกลวง
นายรังสิมันต์ ยังเห็นว่า จะต้องไปพิจารณาว่า มีประชาชนที่ตกเป็นเหยื่อของแอปพลิเคชันนี้แล้วหรือไม่ และบริษัทเอกชนทั้ง 2 แห่ง จะรับผิดชอบอย่างไร ซึ่งภาครัฐจะต้องหาผู้เสียหาย เพื่อเป็นคนกลางในการประสาน
ส่วนกระทรวงมหาดไทย หรือกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม จะเป็นเจ้าภาพในการดำเนินการนั้น นายรังสิมันต์ แนะนำว่า ทั้ง 2 กระทรวง ควรจะมีนั่งคุยกับ แม้รัฐมนตรีเจ้ากระทรวงจะคนละพรรคการเมือง ก็จะต้องทำงานร่วมกัน และควรให้ประชาชนที่ได้รับความเสียหายเข้าไปให้ข้อมูลด้วย รวมถึงแบรนด์ย่อยอื่น ๆ ใน OPPO และ Realme ด้วย รวมถึงบริษัทอื่น ๆ ในทำนองเดียวกัน เพื่อให้เกิดความปลอดภัย และทราบจาก นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะกรรมาธิการการสื่อสาร โทรคมนาคม และดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม สภาผู้แทนราษฎร จำนำเรื่องดังกล่าวเข้าสู่การพิจารณาของกรรมาธิการฯ
นายรังสิมันต์ ยังตั้งข้อสังเกตถึงการใช้โทรศัพท์มือถือ ที่มีโฆษณายิงเข้ามา ซึ่งถือเป็นเรื่องประหลาด ที่ข้อมูลส่วนบุคคลควรได้รับการป้องกัน ดังนั้น จึงควรใช้โอกาสนี้ ไปไล่ดูว่า ยังมีโทรศัพท์มือถือยี่ห้ออื่น ๆ อีกหรือไม่ที่เกิดเหตุในลักษณะเดียวกัน
ส่วนที่บริษัทอ้างแอปพลิเคชันนี้ ถูกติดตั้งจากโรงงานผลิตที่ประเทศจีน จะทำให้บริษัทในไทยไม่ต้องชดใช้ค่าเสียหายหรือไม่นั้น นายรังสิมันต์ เห็นว่า ไม่เกี่ยวข้องกับการติดตั้งจากโรงงานใด เพราะ ROM เป็น ROM ของ OPPO และ Realme โดยหลักการ จะต้องมีการปกป้องความปลอดภัย ซึ่งหากสร้างแอปฯ ขึ้นมา และนำโทรศัพท์มาขายให้กับประชาชน ก็จะต้องรับผิดชอบ จะโยนเป็นบริษัทอื่นไม่ได้ และที่สุดแล้ว จะต้องเป็นเจ้าของยี่ห้อโทรศัพท์มือถือ ซึ่งเมื่อมีตัวแทนจากบริษัทแม่ มาจำหน่ายในประเทศไทยแล้ว ก็ต้องสร้างความปลอดภัยให้กับประเทศไทยด้วย พร้อมระบุว่า ตนเองยังไม่อยากรีบเสนอมาตรการในเร็ว ๆ นี้ แต่ถ้าเป็นประเทศอื่นที่เจริญแล้ว ประชาชน จะไม่เจอเหตุการณ์นี้ ดังนั้น จึงให้กำลังใจเจ้าหน้าที่รัฐ และควรรีบหาเจ้าภาพในการพูดคุยกันให้รู้เรื่อง หามาตรฐานเพื่อเป็นเยี่ยงอย่างให้บริษัทผู้ผลิตโทรศัพท์ในยี่ห้ออื่น ๆ ให้ความสำคัญกับข้อมูลส่วนบุคคลของประชาชนด้วย