กรณี เมื่อวันที่ 8 มกราคม 2568 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ นายอู๋ เว่ยตง ชาวจีน เดินทางมายื่นหนังสือถึง พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร.เพื่อขอความช่วยเหลือให้ช่วยติดตามตัวลูกสาว น.ส.อู๋ เจียฉี อายุ 21 ปี หลังจากเดินทางมาประเทศไทย และขาดการติดต่อไป ตั้งแต่วันที่ 6 ม.ค.2568 โดยมีความกังวล และเกรงว่าลูกจะเป็นอันตราย หรือถูกหลอกคล้ายกรณีของดารานักแสดงหนุ่มจีน "หวังซิง" หรือ "ซิงซิง" โดย ก่อนหน้านี้ นายอู๋ เว่ยตง ได้เดินทางมาที่ไทย และเข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
นายอู๋ เล่าเหตุการณ์ผ่านเพื่อนชาวไทยว่า น.ส.อู๋ เจียฉี ลูกสาวเดินทางมากับเพื่อน 1 คน โดยไม่ได้บอกพ่อกับแม่ว่าจะเดินทางมา แต่เมื่อมาถึงประเทศไทยแล้วถึงได้มีการติดต่อกับแม่ผ่านทาง Wechat
โดยบอกว่า มาถึงที่เมืองไทยตอนประมาณตี 4 และจะเข้าไปพักที่โรงแรมแห่งหนึ่งย่านดอนเมือง โดยมีการแชร์โลเคชั่นให้กับแม่ และแม่ได้บอกว่า ไม่ต้องไปเมียนมานะ
ลูกสาวตอบว่าไม่ได้โง่นะ และบอกว่า ไม่กล้าไปหรอกเมียนมา และในช่วงสายๆ ยังมีการส่ง WeChat พูดคุยกับแม่ จากนั้น 4 โมงเย็น ก็ไม่ได้มีการพูดคุย หรือติดต่อกับแม่อีก เมื่อติดต่อลูกไม่ได้ครบ 24 ชม.
ครอบครัวจึงร้อนใจ ทางพ่อจึงเดินทางมาที่ประเทศไทยเมื่อคืนนี้( 7 ม.ค.68) และเข้าแจ้งความที่ สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
ทั้งก่อนที่ นายอู๋ เว่ยตง จะบินมาไทยจากนั้นเข้าแจ้งความ และได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิด ที่สนามบินสุวรรณภูมิ โดยพบรถตู้อัลพาร์ดสีขาว มารับจากสนามบินไปส่งที่โรงแรม แต่ปรากฏว่าไม่ได้ไปพักโรงแรมตามที่ส่งโลเคชั่นให้กับแม่ แต่ไปพักแถวโรงแรมย่านลาดกระบัง โดยทางโรงแรมให้ข้อมูลว่า น.ส.อู๋ เจียฉี เช็กอินตอน 05:00 น.และเช็กเอาท์ออกไปตอน 09:00 น.ก่อนที่จะขาดการติดต่อไป
สำหรับ น.ส.อู๋ เจียฉี พบว่าเพิ่งเรียนจบมหาวิทยาลัย และไม่เคยเดินทางออกนอกประเทศ เพิ่งจะมาที่ประเทศไทยเป็นครั้งแรก โดยมากับเพื่อนชาวจีนอีก 1 คน ที่เพิ่งจะรู้จักกันได้ไม่ถึงเดือนผ่านทางโซเชียล โดยครอบครัวก็ไม่รู้จัก หรือมีเบอร์ติดต่อกับเพื่อนคนดังกล่าว ซึ่งทราบว่าขณะนี้ทางตำรวจอยู่ระหว่างแกะรอยกล้องวงจรปิดโรงแรมที่พักย่านลาดกระบัง เพื่อดูว่ามีรถคันไหนมารับออกจากโรงแรม แต่ปรากฏว่ากล้องวงจรปิดบางตัวไฟดับไม่สามารถมองเห็นได้
โดยนาย อู๋ เว่ยตง กล่าวด้วยเสียงสั่นเครือว่า ก่อนหน้านี้ลูกสาวไม่เคยพูดเรื่องอยากเป็นนักแสดงมาก่อน และอยากขอความช่วยเหลือให้ทางการไทยช่วยตามหาลูกสาว โดยขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกคนที่พยายามในการช่วยติดตามลูกสาวของตนเอง
14 มกราคม 2568 ด้าน พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ และภาคประมง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศพดส.ตร.) เผยถึงกรณีดังกล่าวว่า น.ส.อู๋ เจียฉี บุตรสาว และ น.ส.หลิว ลู่อิง เพื่อนของบุตรสาว ได้เดินทางมาประเทศไทยเมื่อวันที่ 6 มกราคม 2568 แต่ไม่สามารถติดต่อได้
หลังรับแจ้งเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ตำรวจท่องเที่ยว ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงประสานงานกับทางการจีน เร่งติดตามตัวหญิงสาวทั้งสองทันที จนทราบว่าทั้งคู่ได้เดินทางต่อไปยังประเทศที่สาม
ถึงแม้ น.ส.อู๋ เจียฉี จะไม่ได้เป็นดารานักแสดง แต่ตำรวจก็ให้ความสนใจเช่นกันเมื่อได้รับแจ้งความ และทำงานอย่างเต็มที่เพื่อจะได้ให้ น.ส.อู๋ เจียฉี กลับมา ซึ่งขณะนี้ตำรวจได้รายละเอียดเกี่ยวกับคนขับรถตู้อัลพาร์ดที่ไปส่ง น.ส.อู๋ เจียฉีกับเพื่อนแล้วหลังจากมารับที่สนามบินสุวรรณภูมิแล้วนำไปส่งที่โรงแรมแห่งหนึ่งที่ลาดกระบัง ก่อนที่ช่วงเช้าวันรุ่งขึ้นจะมีรถยนต์มารับ ซึ่งกำลังตรวจสอบกล้องตามจุดต่าง ๆ พร้อมทั้งนำผู้ที่เกี่ยวข้องมาสอบปากคำ ซึงขณะนี้พบรถยนต์คันที่รับ น.ส.อู๋ เจียฉีแล้ว โดยกล้องจับภาพได้ขณะมุ่งหน้าไปทางภาคตะวันออก และเจ้าหน้าที่กำลังเร่งติดตามตัวมาให้ได้โดยเร็ว
และต่อมาทางการจีนได้เดินทางไปรับตัวทั้ง 2 คน กลับประเทศจีนเป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 13 ม.ค.ที่ผ่านมา ล่าสุด นายอู๋ เหว่ยตง บิดาของ น.ส.อู๋ เจียฉี ได้เดินทางไปยัง สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพื่อถอนแจ้งความ โดยกรณีดังกล่าวสร้างความโล่งใจให้กับครอบครัวและผู้เกี่ยวข้อง
เหตุการณ์ครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการสื่อสารและประสานงานระหว่างหน่วยงานต่าง ๆ ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในการเร่งติดตามตัวบุคคลสูญหาย ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลที่ให้ความสำคัญในการป้องกันปราบปรามอาชญากรรม
และยกระดับความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติในทุกมิติ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในการเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทย
ต่อมา นายอู๋ เว่ยตง พ่อของ น.ส.อู๋ เจียฉี ได้ขอบคุณตำรวจไทย และทางการไทย โดยเผยว่า ขณะนี้ลูกสาวได้รับการช่วยเหลือและกลับประเทศจีนแล้ว พบถูกจับไปอยู่ที่เดียวกับซิงซิง พร้อมขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจไทย
พร้อมขอบคุณ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ต.พงษ์สยาม มีขันทอง รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว เจ้าหน้าที่ทหาร ที่ช่วยแกะรอย ตั้งแต่เป็นข่าว ตลอดจนรัฐบาลไทยคนไทยทุกคนที่สนใจและช่วยกันติดตามตัวตนเองรู้สึกซาบซึ้งใจเป็นอย่างมาก