คดีการสังหาร "นายลิม กิมยา" อดีต สส.ฝ่ายค้าน กัมพูชาจากพรรคกู้ชาติกัมพูชา (CNRP) เมื่อวันที่ 7 ม.ค. ที่ผ่านมานั้น แม้สามารถจับกุมมือยิง คือ "จ่าเอ็ม กองเรือ" นายเอกลักษณ์ แพน้อย อายุ 41 ปี ได้แล้ว แต่อีกหนึ่งตัวละครสำคัญที่จะช่วยให้คดีนี้มีความชัดเจนขึ้น คือ "คนชี้เป้า" ล่าสุด ตำรวจเตรียมคุมตัวจ่าเอ็ม ไปฝากขังที่ ศาลอาญาแล้ว ขบวนคุมตัวก็ใช้อรินทราช 26 คุมเข้ม เช้าวันที่ 13 ม.ค.ที่ผ่านมา
14 มกราคม 2567 พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. , พล.ต.ต.วสันต์ เตชะอัครเกษม รอง ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. , พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. , พล.ต.ต.อัฎธพร วงศ์ศิริปรีดา ผบก.น.1 , พ.ต.อ.วิชัย แดงประดับ รอง ผบก.สส.บช.น. ,พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง รอง ผบก.สส.บช.น. , พ.ต.อ.สนอง แสงมณี ผกก.สน.ชนะสงคราม ,พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.บช.น. , พ.ต.อ.วิชัย สนสกุล ผกก.สส.บก.น.1 และเจ้าหน้าที่ บก.สส.บช.น.
ร่วมกันจับกุมตัว นายชาคิต บัวปลี หรือชำนาญ อายุ 47 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ ลงวันที่ 13 ม.ค.68 จับกุมตัวได้ที่ หน้าบ้านน็อคดาวน์ไม่มีเลขที่ ม.10 ต.เขาคันทรง อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี
ข้อหา “กระทำด้วยประการใดๆอันเป็นการช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกในการที่ผู้อื่นกระทำความผิดก่อนหรือขณะกระทำความผิดแม้ผู้กระทำความผิดจะมิได้รู้ถึงการช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกนั้นก็ตามผู้นั้นเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดในฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน”
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. เผยว่า น.1 ขยายผลรวบเพิ่ม ผู้สนับสนุน "จ่าเอ็ม" หลังจากที่มีการสืบสวนสอบสวนขยายผลการจับกุม อย่างละเอียดจนวินาทีสุดท้ายก่อนส่งตัวฝากขังต่อศาล
ตำรวจพบพยานหลักฐานถึง “ผู้สนับสนุน” รายหนึ่ง ซึ่งมีหลักฐานบ่งชี้ไปถึงการวางแผนกับจ่าเอ็มตั้งแต่ก่อนเกิดเหตุ ไปจนถึงหลังเกิดเหตุยังได้เป็นผู้ขับขี่รถกระบะ โตโยต้า 4 ประตูสีเทา พาจ่าเอ็มหลบหนีไปยังจุดข้ามแดนทางช่องทางธรรมชาติชายแดนไทย-กัมพูชา บริเวณด่านเขาดิน ต.คลองหาด อ.คลองหาด จ.สระแก้ว เมื่อวันที่ 7 ม.ค. 68 เวลาประมาณ 23.45 น.
ซึ่งจากการขยายผลทราบว่าผู้สนับสนุนรายนี้คือ นายชาคิต บัวปลี หรือ “ชำนาญ” อายุ 47 ปี พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. จึงได้สั่งการให้คณะพนักงานสอบสวนนำโดย พ.ต.อ.สนอง แสงมณี ผกก.สน.ชนะสงคราม นำชุดพนักงานสอบสวนขอหมายจับต่อศาลอาญาในทันที หลังหมายจับได้รับการอนุมัติ
พล.ต.ท.สยามฯ ได้ส่งชุดสืบนครบาลออกติดตามตัวในทันที โดยสืบทราบว่า นายชาคิตฯ ได้หลบหนีไปอยู่ในพื้นที่ จ.ชลบุรี (13 ม.ค. 68) เวลาประมาณ 18.00 น.พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. นำกำลังชุดสืบนครบาลเข้าจับกุมตัว นายชาคิตฯ ได้ที่บริเวณหน้าบ้านน็อคดาวน์ไม่มีเลขที่ ม.10 ต.เขาคันทรง อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี
โดยขณะจับกุมชุดจับกุมพบรถกระบะ โตโยต้า 4 ประตูสีเทาหมายเลขทะเบียน 3ขก 83XX กรุงเทพฯ จอดอยู่บริเวณหน้าที่กบดาล ซึ่งตรวจสอบแล้วพบว่ามีตำหนิรูปพรรณตรงกับภาพจากกล้องวงจรปิดขณะที่จ่าเอ็มกำลังหลบหนีข้ามชายแดนด้วยช่องทางธรรมชาติ
โดย นายชาคิตฯ ก็ยอมรับว่าเป็นรถที่ใช้ขับพาจ่าเอ็มไปที่ชายแดนในวันเกิดเหตุจริงๆ และชายเสื้อเขียวในภาพจากกล้องวงจรปิดก็คือตนเองจริงๆ และจากการขยายผลพบข้อมูลในโทรศัพท์ของ นายชาคิตฯ ว่ามีการติดต่อสื่อสารกับจ่าเอ็มตั้งแต่เวลา 13.54 น. ซึ่งเป็นเวลาเกือบ 4 ชั่วโมงก่อนเกิดเหตุ ชุดสืบนครบาลจึงทำการจับกุมตัวตามหมายจับ
ในชั้นจับกุม นายชาคิตฯ ให้การ “ภาคเสธ” โดยให้การว่า “ตนเองรู้จักกับจ่าเอ็มมาได้ประมาณ 2 ปี ตั้งแต่สมัยที่จ่าเอ็มยังรับราชการอยู่ ตนเองทำอาชีพขับรถรับจ้าง โดยจะรับผู้โดยสารไปๆมาๆ ส่งระหว่างชายแดน เขาดิน , บ้านแหลม และ ผักกาด โดยคดีนี้ตนเองยอมรับว่าเป็นคนไปส่งจ่าเอ็มจริง และชายเสื้อเขียวที่เห็นในภาพกล้องวงจรปิดก็คือตนเองจริง ส่วนรถกระบะคันที่ขับไปส่งนั้น ตนได้ยืนมาจากพวกละแวกบ้าน ส่วนที่จ่าเอ็มไปก่อคดีมานั้นตนเองไม่ทราบ”
หลังการจับกุมได้นำตัวนายชาคิตฯส่งให้พนักงานสอบสวนสน.ชนะสงคราม
โดยมี พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. นำคณะพนักงานสอบสวนทำการขยายผลต่อไป