9 มกราคม 2568 เมื่อวันที่ 8 มกราคมที่ผ่านมา สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เผยแพร่เอกสารข่าว "การประกาศบัญชีรายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็น"สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด" และ "นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด"
ตามที่ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำองค์การบริหารส่วนจังหวัด ได้ประกาศให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดและนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดในวันเสาร์ที่ 1 กุมภาพันธ์ 2568 และได้ดำเนินการรับสมัครระหว่างวันที่ 23 - 27 ธันวาคม 2567 เสร็จสิ้นแล้ว นั้น
การพิจารณาสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเมื่อเสร็จสิ้นการรับสมัคร ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำองค์การบริหารส่วนจังหวัด ได้ตรวจสอบความถูกต้องของการสมัครของผู้สมัคร และตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามว่าผู้นั้นมีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งหรือไม่ เมื่อเห็นว่าถูกต้องและผู้นั้นมีสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง
จึงประกาศรายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็น "สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด" และ "นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด" ภายใน 7 วันนับแต่วันปิดรับสมัคร (วันที่ 3 มกราคม 2568 )
ทั้งนี้ หากผู้สมัครผู้ได้ไม่มีชื่อในประกาศบัญชีรายชื่อผู้สมัครให้ยื่นคำร้องขอให้รับสมัครต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง ภายใน 3 วันนับแต่วันที่ ประกาศรายชื่อผู้สมัคร ( วันที่ 6 มกราคม 2568 ) ตามมาตรา 52 และมาตรา 55 แห่งพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2562 โดยมีการประกาศบัญชีรายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดและนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด ดังนี้
ข้อมูลการรับสมัคร "สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด"และ "นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด" (ข้อมูล ณ วันที่ 7 มกราคม 2568)
จำนวนผู้สมัคร"สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด" จำนวน 6,815 คน ขาดคุณสมบัติและมีลักษณะต้องห้าม 92 คน ยื่นคำร้องขอให้รับสมัคร (ม.55 ) 17 คน
จำนวนผู้สมัคร"นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด" 192 คน ขาดคุณสมบัติและมีลักษณะต้องห้าม 3 คน ยื่นคำร้องขอให้รับสมัคร (ม.55 ) 2 คน
อนึ่ง ผู้สมัครที่ขาดคุณสมบัติและมีลักษณะต้องห้ามเกิดจากกรณีอยู่ระหว่างถูกจำกัดสิทธิสมัครไม่รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น / เป็นเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นสื่อในกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชน / เป็นพนักงาน หรือลูกจ้างของหน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ รัวิสาหกิจ หรือราชการส่วนท้องถิ่น เป็นต้น
ในการยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง ให้ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดเป็นผู้รับคำร้อง เพื่อให้คณะกรรมการพิจารณาสิทธิสมัครรับเลือกตั้งพิจารณาคำร้อง พยานหลักฐานหรือความปรากฏว่าผู้สมัครไม่มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง เพื่อเสนอความเห็นให้คณะกรรมการการเลือกตั้งมีคำวินิจฉัยโดยเร็ว และให้ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำองค์การบริหารส่วนจังหวัด องค์การบริหารส่วนจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามคำวินิจฉัย
สามารถดูประกาศบัญชีรายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดและนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดได้ ณ ที่เลือกตั้ง หรือบริเวณใกล้เคียงกับที่เลือกตั้ง หรือสถานที่อื่นที่ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำองค์การบริหารส่วนจังหวัดกำหนด
ทั้งนี้ สำนักงาน "คณะกรรมการการเลือกตั้ง" ขอประชาสัมพันธ์ผู้ที่สนใจจะลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาเทศบาลหรือนายกเทศมนตรี และสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบลหรือนายกองค์การบริหารส่วนตำบล ที่จะมีการเลือกตั้งในครั้งถัดไป ให้ตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของตนเองก่อนที่จะสมัครรับเลือกตั้งให้ครบถ้วน ถูกต้องตามที่กฎหมายกำหนด
เพราะถ้าผู้สมัครรับเลือกตั้งขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามในการสมัคร มีโทษตามมาตรา 120 แห่งพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2562 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2566 กำหนดว่า ผู้โดลงสมัครรับเลือกตั้งโดยรู้อยู่แล้วว่า ตนเป็นผู้ขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามในการสมัครรับเลือกตั้ง ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1 - 10 ปี และปรับตั้งแต่ 20,000 - 200,000 บาท และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นมีกำหนด 20 ปี
สามารถตรวจสอบสิทธิการสมัครรับเลือกตั้งได้ที่ Application Smart Vote หรือ เว็บไซต์ https://stat.bora.dopa.go.th/Election/enqelectloc/#/ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้คณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัด และติดตามข้อมูลข่าวสารได้ที่ www.ect.go.th
อ่านรายละเอียดทั้งหมด คลิกที่นี่
สำหรับ การเลือกตั้งสมาชิกอบจ.และนายกอบจ. วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2568 นั้น จะมีการเลือกทั้งสิ้น 47 จังหวัด
ภาคกลาง
จ.นครนายก
จ.นครปฐม
จ.นนทบุรี
จ.พิจิตร
จ.ลพบุรี
จ.สมุทรปราการ
จ.สมุทรสงคราม
จ.สมุทรสาคร
จ.สระบุรี
จ.สิงห์บุรี
จ.สุพรรณบุรี
ภาคเหนือ
จ.เชียงราย
จ.เชียงใหม่
จ.น่าน
จ.แพร่
จ.แม่ฮ่องสอน
จ.ลำปาง
จ.ลำพูน
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
จ.นครพนม
จ.นครราชสีมา
จ.บึงกาฬ
จ.บุรีรัมย์
จ.มหาสารคาม
จ.มุกดาหาร
จ.ศรีสะเกษ
จ.สกลนคร
จ.หนองคาย
จ.หนองบัวลำพู
จ.อำนาจเจริญ
ภาคใต้
จ.กระบี่
จ.ตรัง
จ.นราธิวาส
จ.ปัตตานี
จ.พังงา
จ.พัทลุง
จ.ภูเก็ต
จ.ยะลา
จ.สงขลา
จ.สตูล
จ.สุราษฎร์ธานี
ภาคตะวันออก
จ.จันทบุรี
จ.ฉะเชิงเทรา
จ.ชลบุรี
จ.ตราด
จ.ปราจีนบุรี
จ.ระยอง
ภาคตะวันตก
จ.ประจวบคีรีขันธ์