นายแก้วสรร อติโพธิ นักวิชาการด้านกฎหมาย เปิดเผยผ่าน "เนชั่นทีวี" ถึงความพยายามของกรมราชทัณฑ์ ในการออกระเบียบคุมขังนอกเรือนจำให้มีผลบังคับใช้ภายในต้นปี 2568 ว่า เรื่องนี้ ตนขอพูดภาพรวมของกรมราชทัณฑ์ก่อน โดยเมื่อครั้งที่เดินทาไปยื่นหนังสือต่อ ป.ป.ช.กรณีเร่งตรวจสอบกรมราชทัณฑ์ส่งตัวคุณทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เข้ารักษาตัว รพ.ตำรวจ ชั้น 14
"ผมได้เสนอ ป.ป.ช.ว่า ถ้าปล่อยให้ราชทัณฑ์ ทำอะไรต่อมิอะไรโดยไม่มีใครรู้เรื่องว่า เป็นการบริหารโทษ เป็นอำนาจของราชทัณฑ์ ไม่มีใครทำอะไรราชทัณฑ์ได้ ต้องรื้อ ทั้งการพักโทษ อภัยโทษ ต้องรื้อใหม่หมด ที่สำคัญโครงการพาน้อง (ยิ่งลักษณ์) กลับบ้าน ที่กำลังมีความพยายามสร้างประตูใหม่ ออกระเบียบคุมขังนอกเรือนจำ ถ้าทำ ติดคุกนะจะบอกให้" นายแก้วสรร เตือน
โดยอาจารย์แก้วสรร ขยายความว่า เรื่องการคุมขังนอกเรือนจำนั้น เช่น ต้องการให้เด็กหนุ่มสาวที่ติดยา ไม่ควรถูกคุมขังในคุก เราจะเอาไปไว้ในพื้นที่ทหาร หรือ วัดรั้วรอบขอบชิด มาอยู่แทนเรือนจำ เช่น กรมทหารราบที่ 11 นำทหารอยู่จำนวนหนึ่ง นำลูกหลานติดยาเข้าไป ทำเรื่องวินัย อย่างนั้นเป็นการหาสถานที่แทนเรือนจำ มีกลุ่มใดโดยเฉพาะที่เราออกแบบให้เขาอยู่ หรือพวกใกล้ออกจากโทษต้องปรับตัวกับโลกภายนอก ถ้าคุณมีพื้นที่แบบนี้ ยินดีช่วยผู้ต้องโทษ เสนอตัวมา เนื้อที่ 4-5 ไร่ รั้วรอบขอบชิดพอสมควรเอาไปอยู่ที่บ้านได้ ประกาศเป็นที่คุมขังประกาศแทนเรือนจำ คัดนักโทษใกล้พ้นโทษมาอยู่ ไม่ใช่เรื่องใครช่วยใคร
"แต่ถ้าอยู่ดี ๆ ประกาศบ้านจันทร์ส่องหล้า เป็นสถานที่คุมขังนอกเรือนจำ ให้นางสาวยิ่งลักษณ์เข้าไปอยู่ ทำกันอย่างนั้น ติดคุกหมดนะครับ มันไม่ใช่เรื่อง โดนคดีกันอีก สถานที่คุมขังนอกเรือนจำเป็นแบบนี้ ทำสถานที่คุมขังสำหรับกลุ่มเป้าหมายที่มีเหตุมีผล และให้อยู่กันตามเงื่อนไขที่กำหนด ไม่ใช่ทำให้นางสาวยิ่งลักษณ์มาแล้วให้ไปนอนบ้านจันทร์ส่องหล้า โลกไหนเขาทำกัน?" นายแก้วสรร กล่าวทิ้งท้าย