นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงประเด็น MOU 44 ว่า ตนยังยึดหลักเดิม เพราะควรใช้ความอดทนอดกลั้นและความเข้าใจ โดยรัฐบาลยังไม่ได้ทำอะไรที่แตกต่างจากรัฐบาลในอดีต แต่ขณะนี้เรื่องถูกปลุกขึ้นมาโดยอะไรไม่รู้ จนกลายเป็นเรื่องใหญ่โต พอพยายามอธิบายก็กลายเป็นเรื่องเกิดขึ้นแล้ว และพยายามแก้ตัว ซึ่งเรื่องนี้กรมสนธิสัญญาและกฎหมาย กระทรวงการต่างประเทศ รู้ดีที่สุด ไม่มีใครรู้กฎหมายระหว่างประเทศและเรื่องดินแดน ดีเท่ากับกรมนี้ โดยมีนักกฎหมายเป็นผู้เชี่ยวชาญและเป็นที่ยอมรับของนานาประเทศ จึงให้กรมนี้มาชี้แจง แต่กลับมีการแตกประเด็น เช่น เกาะกูดอาจถูกยึด แต่จากที่ตนไปลงพื้นที่มาชาวบ้านมีความสุขดี ไม่มีปัญหาอะไร และไม่เคยมีใครมาอ้างสิทธิ์ว่าเกาะกูดว่าเป็นของใคร ขณะเดียวกัน การไปตรวจเยี่ยมกองทัพเรือที่เกาะกูด ก็พบว่าเจ้าหน้าที่ยังคงตั้งมั่นและดูแลพื้นที่
“ที่จริงแล้วผมไม่ควรจะพูด หรือตอบเรื่องนี้ เพราะไม่ใช่ภารกิจโดยตรง แต่ในช่วงนั้นปรากฏข่าวว่า จะมีการตั้งคณะกรรมการร่วมด้านเทคนิคฝ่ายไทย หรือ JTC และจะตั้งผมเป็นประธาน สื่อก็มาถามที่ผมมากหน่อย ผมก็พยายามที่จะอธิบาย มันเป็นแค่สัญญาที่ว่าอะไรที่ยังไม่สามารถตกลงกันได้ ก็ให้สองฝ่ายมาเจรจา มีเงื่อนไขสำคัญก็คือต้องเป็นเรื่องที่ประชาชนและรัฐสภาทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องต้องกัน และเป็นเรื่องที่ต้องอิงหลักกฎหมายทั่วไป แล้วก็สรุปออกมาว่า มีอะไรที่เห็นต่างบ้าง อีกทั้งยังเป็นเรื่องที่ไม่เกิดขึ้น แต่ก็ปั่นกันไปจนไกลมาก จะออกนอกอวกาศอยู่แล้ว ซึ่งผมคิดว่าไม่ใช่ประเด็น และขณะนี้ที่ช้าก็เพราะว่ามีการรับฟังความเห็น” นายภูมิธรรม อธิบาย