svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

สภาสูง ยืนกราน กม.ประชามติ รธน.ใช้เสียงข้างมาก 2 ชั้น-ส่อยื้ออีก 180 วัน

สภาสูง ยืนกรานร่าง พ.ร.บ.ประชามติ รธน.ใช้เสียงข้างมาก 2 ชั้น-ส่อยื้ออีก 180 วัน – สว.พันธุ์ใหม่ชี้เป็นใบสั่งเกมการเมือง-ความบังเอิญร้ายกาจลากยาวแก้ รธน. เปรียบโจรถีบบันไดไม่ให้เจ้าของบ้านมี รธน.ฉบับประชาชน

ที่ประชุมวุฒิสภา มีมติเสียงข้างมาก 153 เสียง ต่อ 24 เสียง งดออกเสียง 13 เสียง ยืนยันร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการออกเสียงประชามติ ตามการปรับแก้ของวุฒิสภาก่อนหน้านี้ ในเกณฑ์การออกเสียงประชามติที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ จะต้องใช้เสียงข้างมาก 2 ชั้น หรือ Double Majority หลังสภาผู้แทนราษฎร ไม่เห็นชอบกับการปรับแก้ดังกล่าว และยังคงยืนยันหลักการเสียงข้างมากชั้นเดียว หรือ Simple Majority จนตั้งกรรมาธิการร่วมขึ้นมาพิจารณาร่วมกัน และกรรมาธิการร่วม ก็ยังคงยืนยันตามการปรับแก้ของวุฒิสภา 

อย่างไรก็ตาม ในการอภิปรายของสมาชิกวุฒิสภา ครั้งนี้ส่วนใหญ่เป็นการอภิปรายของ สว.พันธุ์ใหม่ เพื่อแสดงความไม่เห็นด้วยกับการใช้หลักการเสียงข้างมาก 2 ชั้น หรือ Double Majority 

 

นายนรเศรษฐ์ ปรัชญากร สมาชิกวุฒิสภา ยังคงเห็นว่า การออกเสียงประชามติข้างมากชั้นเดียว เป็นที่นิยมในหลายประเทศ เพราะมีไม่กี่ประเทศที่ใช้กรออกเสียงประชามติ 2 ชั้นที่สร้างปัญหา มากกว้าข้อดี และรูปแบบรัฐเป็นสหพันธรัฐ เพื่อไม่ให้รัฐใหญ่ใช้พวกมาลากไป ดังนั้น ประเทศไทยเป็นรัฐเดียว จึงควรใช้เสียงข้างมากชั้นเดียว พร้อมอ้างตัวอย่าง การใช้เสียงข้างมาก 2 ชั้น เหมือนการออกเสียงประชามติรัฐธรรมนูญ 2560 ในปี 2559 ที่กฎหมายเดิมใช้เกณฑ์เสียงข้างมาก2 เดียว ก่อนมีการเปลี่ยนเป็นเสียงข้างมากชั้นเดียว เพราะเสียงข้างมาก 2 ชั้น ถูกรณรงค์ให้คว่ำง่ายมาก เมื่อ คสช.อยากให้รัฐธรรมนูญฉบับ กรธ.ผ่าน ก็มีการแก้ไขกฎหมาย กลับมาใช้เสียงข้างมากชั้นเดียว เมื่อประชาชน อยากมีรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนบ้าง ก็มีการแก้ไขกฎหมายประชามติ กลับไปใช้เสียงข้างมาก 2 ชั้น เสมือนเวลาโจรอยากมาขึ้นบ้าน ก็เอาบันไดมาพาก พอโจรขึ้นไปแล้ว ไม่อยากให้เจ้าของปีนตามขึ้นไป ก็ถีบบันไดทิ้ง 

ขณะที่ นางนันทนา นันทวโรภาส สมาชิกวุฒิสภา เห็นว่า ร่างกฎหมายประชามติ ถูกนำมาใช้เป็นเกมการเมือง เพื่อยืดเยื้อการแก้ไขรัฐธรรมนูญออกไป จนไม่เห็นอนาคต เพราะหากสภาผู้แทนราษฎร ไม่เห็นชอบกับการปรับแก้ของวุฒิสภาในครั้งนี้ ก็จะต้องใช้เวลาพักร่างกฎหมาย 180 วัน หรือนานไปถึงกลางปี 2568 พร้อมมองว่า เป็นความบังเอิญอย่างร้ายกาจ หลังมีหัวหน้าพรรคการเมืองพรรคหนึ่ง ให้สัมภาษณ์ว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญ ไม่ใช่เร่งด่วน จนทำให้การลงมติของวุฒิสภา ยืดเยื้อไปด้วย จึงตั้งข้อสังเกตว่า เป็นไปตามใบสั่งหรือไม่ 

 

สำหรับขั้นตอนหลังจากนี้ จะต้องรอการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร ในวันที่ 19 ธันวาคมนี้ว่า จะเห็นชอบตามการปรับแก้ของวุฒิสภาหรือไม่ ซึ่งหากไม่เห็นชอบกับการใช้หลักการเสียงข้างมาก 2 ชั้น หรือ Double Majority ก็จะส่งผลให้ต้องพักการพิจารณาร่างกฎหมายฉบับนี้ไว้ 180 วันตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด ก่อนที่จะนำกลับมาพิจารณาใหม่ เพื่อยืนยันมติของสภาผู้แทนราษฎรในการกลับไปใช้หลักการเสียงข้างมากชั้นเดียว หรือ Simple Majority ได้