กรณี "สจ.โต้ง" นายชัยเมศร์ สิทธิสนิทพงศ์ หรือชื่อเดิมคือ นายเต็มพงษ์ ฤทธิ์เดช อายุ 49 ปี ซึ่งเป็นผู้กว้างขวางในพื้นที่ปราจีนบุรี ถูกรัวยิงร่างพรุนดับ กลางบ้านพักของ "โกทร" นายสุนทร วิลาวัลย์ อายุ 86 ปี นายก อบจ.ปราจีนบุรี แล้ว อดีต รมช.สาธารณะสุข ถนนวัดโรมันอุทิศ ต.หน้าเมือง อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี เมื่อช่วงดึกวันที่ 11 ธ.ค.ที่ผ่านมา ก่อนตำรวจจับกุม "โกทร" พร้อมลูกน้องรวม 7 คน เข้าสอบปากคำ พร้อมแจ้งข้อหาเบื้องต้นไว้ก่อนคือ "ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา" และ "ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต"
ต่อมา "สจ.จอย" น.ส. ณภาภัช อัญชสาณิชมน ภรรยาของ "สจ.โต้ง" ได้มอบอำนาจให้ นายนิติศักดิ์ มีขวด ทนายความไปยื่นหนังสือถึง พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. ขอโอนสำนวนคดี ให้กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก) รับทำคดี เนื่องจากเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องร้ายแรงสะเทือนขวัญร้ายแรง
17 ธันวาคม 2567 พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผู้บังคับการปราบปราม (ผบก.ป.) เปิดเผยว่า หลังจากที่กองบังคับการปราบปรามได้ยื่นเรื่องขอรับทำคดี "สจ.โต้ง" ไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาตินั้น ขณะนี้อยู่ในขั้นพิจารณาว่า จะอนุญาตให้ทางกองบังคับการปราบปราม หรือ หน่วยงานไหนในสังกัดเป็นผู้ดำเนินการ ซึ่งเชื่อว่า ผลจะออกมาภายในวันนี้
"ตร.-พฐ.กลาง" ประชุมคดี พร้อมตรวจ "บ้านโกทร" ที่เกิดเหตุ เพื่อยืนยันวิถีกระสุนสังหาร "สจ.โต้ง"
ขณะเดียวกันที่ ที่สภ.เมืองปราจีนบุรี วันนี้ พล.ต.ต.ภูมินทร์ สิงหสุต ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปราจีนบุรี พร้อมด้วย พิสูจน์หลักฐานกลาง โดย พล.ต.ต.วาที อัศวุตมางกุร ผู้บังคับการกองพิสูจน์หลักฐานกลาง (ผบก.พฐก.) มีการประชุมติดตามความคืบหน้าทางคดี
โดย พล.ต.ต.ภูมินทร์ เปิดเผยว่า วันนี้มีการประชุม ร่วมกับเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน กลางและตำรวจ ภูธรจังหวัดปราจีนบุรี เพื่อรับทราบข้อมูล เรื่องการรวบรวมพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุและพื้นที่ใกล้เคียง พร้อมทั้งเข้ามาเก็บวิถีกระสุน อีกด้วย
ส่วนกรณี ที่มีรายงานว่า ก่อนหน้านี้พนักงานสอบสวนได้เข้าสอบปากคำผู้ต้องหา 4 คน ที่อยู่ในเหตุการณ์ขณะเกิดเหตุยิงกันเพิ่มเติม โดยมี 1 ในนั้น ที่รับสารภาพว่าเป็นอีกคนหนึ่งที่ร่วมยิง สจ.โต้ง ด้วย
พล.ต.ต.ภูมินทร์ ระบุว่า เบื้องต้นยังไม่พบรายงานของพนักงานสอบสวนว่าพบผู้ก่อเหตุยิงเพิ่ม แต่เชื่อว่า ทั้ง 7 คนมีส่วนร่วมกระทำผิด ที่เป็นเหตุให้ สจ.โต้ง เสียชีวิต ส่วน จะมีผู้ต้องหา ร่วมกันยิง สจ.โต้ง เพิ่มเติมอีกหรือไม่ ยังไม่สามารถตอบได้ทั้งหมดขึ้นอยู่กับพยานหลักฐาน
ส่วนกรณีลูกน้องคนสนิทของ "โกทร" 2 คน โดยคนแรก เป็นหัวคะแนนคนสำคัญในพื้นที่ และอีกหนึ่งคนเป็นเลขาส่วนตัว จะเดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน เพื่อให้ข้อมูลเพิ่มเติมกรณี พบข้อมูลว่า เข้า บ้านพักโกทร ก่อนเกิดเหตุยิง สจ.โต้ง เสียชีวิต
พล.ต.ต.ภูมินทร์ ตอบว่า ขณะนี้ทั้ง 2 คน ถือเป็นพยานแวดล้อมเท่านั้น ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับคดีแต่จำเป็นต้องเรียกมาสอบปากคำ เพื่อให้ครบถ้วนรอบด้าน ส่วนที่ว่า ทั้ง 2 คน จะมีส่วนรู้เห็นกับเหตุการณ์นี้หรือไม่ ต้องรอผลการสอบสวน ส่วนจะสอบปากคำประเด็นใดเป็นพิเศษนั้นก็ขึ้นอยู่กับพนักงานสอบสวน
ส่วนกรณีกระแสสังคมที่ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ ว่าทำไมตำรวจถึงไม่ออกหมายจับลูกเขยและหลานของโกทร ทั้งที่อยู่ในบ้านเกิดเหตุด้วย
พล.ต.ต.ภูมินทร์ ระบุว่า ทั้งสองคนอยู่ในบ้านหลังเกิดเหตุจริง แต่อยู่คนละโซน ไม่เห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ได้ยินเพียงเสียงปืนเท่านั้น การจะออกหมายจับใครเพิ่มเติมต้องมีพยานหลักฐานที่ชัดเจน เท่านั้นจะมาใช้สมมติฐานในการออกหมายจับไม่ได้
ด้าน พล.ต.ต.วาที อัศวุตมางกุร ผู้บังคับการกองพิสูจน์หลักฐานกลาง (ผบก.พฐก.) เผยว่า ก่อนหน้านี้ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานปราจีน และพฐ.2 ได้เก็บรวบรวมพยานหลักฐานไว้เรียบร่อยดี และเก็บหัวกระสุนปลอกกระสุน เก็ยลายนิ้วมือดีเอ็นเอ อาวุธปืนส่งตรวจตามขั้นตอนวันนี้ได้รับการประสานจาก ผบก.จ.ปราจียบุรี ให้ลงมา และ ผบ.ตร.ให้ พฐ.กลาง มาข่วยดูพยานหลักฐานกลางบางอย่าง เพื่อดูพยานหลักฐานบางอย่างเพิ่มเติม จึงเข้าไปทำการตรวจสอบที่บ้านอีกครั้ง
เพื่อตรวจสอบ กลุ่มวิถีกระสุน เป็นสิ่งที่ยังมีข้อสงสัย ทั้งร่องรอยและวิถีกระสุนที่ปรากฎ จึงนำกลุ่มงาน เชี่ยวชาญอาวุธปืน มาดูวิถีกระสุน ให้พยานหลักฐานแน่นหนามากขึ้น
โดยจะดูรูปแบบการยิง จากร่องรอยที่พบ เพื่อยืนยันให้สังคมเข้าใจว่าเราทำตามขั้นตอนการตรวจสอบ เพื่อให้สำนวนคดีแน่นหนา