22 พฤศจิกายน 2567 "นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร" ทนายความอิสระ ในฐานะผู้ร้อง ขอให้ "ศาลรธน." พิจารณา นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และพรรคเพื่อไทย มีพฤติการณ์เข้าข่ายล้มล้างการปกครองฯขอให้หยุดการกระทำ เปิดเผยกับเนชั่นทีวี โดยยืนยัน แม้"ศาลรธน."ยกคำร้อง ทั้ง 6 ประเด็น แต่อย่างไรก็ตาม ตนก็ยังคงเดินหน้าต่อ ในการติดตามตรวจสอบพฤติการณ์ ของ"นายทักษิณ" และ "พรรคเพื่อไทย"
เบื้องต้น จะขอ"ศาลรธน." คัดสำเนา มติทั้งหมดก่อน และ ความเห็นส่วนตน โดยเฉพาะความเห็นส่วนตน ของตุลาการศาลรธน. เสียงข้างน้อย 2 ท่าน ที่มีความเห็นต่อประเด็นที่ 2 ( กรณีพื้นที่เอ็มโอยู 2544 ) ว่ามีความเห็นอย่างไร เพื่อนำมาคิดทบทวนต่อสิ่งที่ตนเขียนคำร้อง
"เท่าที่ผมอ่านความเห็นจากเอกสารข่าวของศาลรธน. มีเนื้อหาน่าสนใจ โดยเฉพาะ ผลการพิจารณาคำร้องประเด็นที่สอง ที่ระบุทำนอง เรื่องนี้ยังไกลกว่าเหตุ เพราะตอนที่ผมยื่นคำร้อง เป็นเหตุการณ์ช่วงที่ สมเด็จฮุนเซน อดีตนายกฯกัมพูชา มาพบคุณทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่บ้านพักจันทร์ส่องหล้า จากนั้นมีข่าวตามมา เรื่องความพยายามฟื้นการเจรจาปัญหาพื้นที่ทับซ้อน ทางทะเล จริงอยู่อาจเป็นเรื่องไกลกว่าเหตุในตอนนั้น เพราะยังไม่มีการกระทำใดเลย แต่สถานการณ์ปัจจุบัน ท่านนายกฯ แพทองธาร ก็ยังจะมีการเตรียมตั้งคณะกรรมการเจทีซี ขึ้นมาเพื่อหารือ"
"ท่านนายกฯบอกว่า เอ็มโอยู 44 ยกเลิกไม่ได้ จะถูกฟ้อง ฉะนั้น เอ็มโอยู จะเข้าข่ายหนังสือ สนธิสัญญาระหว่างประเทศ ยกเลิกไม่ได้หรือไม่ และท่านกำลังจะตั้งคณะกรรมการ JTC เพื่อไปเจรจายินยอม ลงนาม ทำตามเอ็มโอยู นั้น โดยไม่เห็นชอบจากรัฐสภาก่อน พฤติการณ์ลักษณะนี้ จะถือว่าใกล้ชิดกับเหตุมาก ตรงนี้ จึงขอไปศึกษาความเห็นส่วนตนของศาลรธน. ก่อนว่า อาจมีอะไรซ่อนอยู่ มีการชี้ทางอะไรไว้บ้าง" นายธีรยุทธ กล่าว
"นายธีรยุทธ" เปิดใจว่า ทันทีที่มีข่าว"ศาลรธน." ลงมติ "ไม่รับคำร้อง" ผมก็เสียใจเล็กๆ แต่เมื่อมี ผู้หลักผู้ใหญ่ ครูบาอาจารย์ ที่สอนกฎหมาย สื่อมวลชน โทรมาให้กำลังใจ ก็ตั้งสติได้ให้กำลังใจตนเองที่จะดำเนินการต่อ แม้ทั้ง 6 ประเด็น ที่ "ศาลรธน."เห็นว่ายังห่างไกลกว่าเหตุ แต่หลายวันมานี้ "ผู้ถูกร้อง"อาจสบายตัวมากขึ้น การ์ดตก อาจทำให้ผมมีข้อมูลต่อพฤติการณ์ทั้งหลาย มากขึ้น หลายพฤติการณ์ก็จะใกล้กว่าเหตุแล้ว
"คนอย่างธีรยุทธ ไม่หยุดหรอกครับ" นายธีรยุทธ ย้ำถึงการเดินหน้าต่อ