18 พฤศจิกายน 2567 ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) "นายนพรุจ วรชิตวุฒิกุล" อดีตแกนนำกลุ่มพิราบขาว 2006 เข้ายื่นเอกสารเพิ่มเติมต่อ "คณะกรรมการการเลือกตั้ง" (กกต.) ซึ่งเป็นเนื้อหาถอดเทปการปราศรัยของ "นายทักษิณ ชินวัตร" อดีตนายกรัฐมนตรี ระหว่างลงพื้นที่ช่วยหาเสียง "ผู้สมัครนายกอบจ.อุดรธานี" ของพรรคเพื่อไทยหลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้ยื่นคำร้องยุบ 6 พรรคการเมือง ที่ไปพบนายทักษิณที่บ้านจันทร์ส่องหล้า กับทางกกต.ไปแล้ว
โดย "นายนพรุจ" กล่าวว่ากรณีที่ "นายทักษิณ" เคยให้สัมภาษณ์ งานทอดกฐิน วัดทุ่งครุและอีกหลายกรณี อาจเชื่อมโยงกับขอบเขตการครอบงำและ เรื่องของผู้ช่วยหาเสียง ว่าทำได้แค่ไหน ซึ่งไม่ได้มีการขัดขวางจากกรรมการพรรคเพื่อไทย ที่จะไม่ให้อดีตผู้ต้องหาไปช่วยหาเสียง เท่ากับว่าพรรคเพื่อไทย ปล่อยปละละเลยไม่ตรวจสอบตำแหน่งต่างๆทางการเมือง
ไม่ว่าจะเป็นทางการถูกต้องชอบด้วยกฎหมายหรือไม่เนื่องจากการเป็นผู้ช่วยหาเสียง พรรคเพื่อไทยต้องพิจารณาอย่างรอบคอบในการส่งผู้สมัครและตำแหน่งทางการเมืองต่างๆ แต่ปรากฏว่าพรรคเห็นชอบ จากการให้สัมภาษณ์ "นางสาวแพทองธาร ชินวัตร" นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และ นายสรวงศ์ เทียนทองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย รวมถึงนายภูมิธรรม เวชยชัย และกรรมการพรรคต่างๆ ก็เห็นด้วยหมด
ดังนั้น การปราศรัยของ "นายทักษิณ" ในวันที่ 13 และ 14 พฤศจิกายนมีพฤติกรรมที่แสดงให้เห็นชัดเจนว่าเป็นเจ้าของพรรคเพื่อไทย มีคณะกรรมการพรรคเพื่อไทยมานั่งอยู่ข้างหลัง เท่ากับว่าเป็นคนสำคัญที่สุดในการหาเสียงครั้งนี้ และยังมีการพูดนโยบายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นค่าแรง 700 บาท ที่ยังไม่เคยปรากฏในการหาเสียงของพรรคเพื่อไทย และมีการประกาศลักษณะว่าจะสั่งการรัฐบาล ยังไม่ได้มรการพูดถึงนโยบายการหาเสียงอบจ.แต่อย่างใด การกล่าวถ้อยคำของอดีตนายกทักษิณ เหมือนเป็นการครอบงำมติพรรค และมีการคิดนโยบายออกนอกกรอบไม่เกี่ยวข้องกับการหาเสียงอบจ.
ดังนั้น จึงเห็นว่าเวทีดังกล่าวเป็นเวทีหาเสียงของ "อดีตนายกทักษิณ" และส่อว่ามีอิทธิพลเหนือรัฐบาล ในการกำหนดนโยบายต่างๆที่ไม่ได้มีการกำหนดขึ้นมา
" คนไทยทั้งประเทศไม่ได้กินหญ้า พรรคเพื่อไทยเป็นของอดีตนายกรัฐมนตรีไม่ใช่ครอบงำแต่ครอบครองพรรคเพื่อไทย และมีอิทธิพลเหนือนายกรัฐมนตรี รวมถึงกรรมการบริหารพรรคทุกคนถ้าใครไม่เชื่อว่าพรรคเพื่อไทยเป็นของนายทักษิณให้ไปสาบานที่วัดพระแก้วหรือคำชะโนดที่จังหวัดอุดรก็ได้ ที่นายทักษิณบอกว่าคนอยู่ส่วนคนหมาคนหมาอยู่ส่วนหมาถือเป็นการเหยียดหยาม คนไทยด้วยกัน" นายนพรุจ กล่าว
"นายนพรุจ" กล่าวว่า ประเทศไทยแปลว่าสยาม สยามแปลว่าเสือ หยามไม่ได้ ท่านเป็นคนไทยหรือเปล่า ที่หยามคนไทยด้วยกัน การที่มาร้องเรียนเกิดมาจากท่านทำตัวเหนือกฎหมาย ตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข ท่านเคยศึกษาหลักเสรีภาพ ความเสมอภาคบ้างหรือไม่ ในเมื่อเราเกิดเป็นลูกหลานแผ่นดินสยามทุกคน คือเสือหยามกันไม่ได้ พรรคเพื่อไทยไม่ใช่เจ้าของแผ่นดิน ทำตัวเหนือกฎหมาย เหนือความถูกต้อง ถ้าไม่มีพฤติกรรมให้ร้องเรียนใครจะมาร้องได้ ไม่กลัวจะถูกฟ้องร้องกลับ เราทำสิ่งถูกแม้จะตายก็ยอมหลักฐานเกิดจากท่านทั้งสิ้นทุกอย่างต้องอยู่ภายใต้หลักนิติรัฐนิติธรรม ถ้าคิดว่าผมก้าวก่าย ก็ขอให้ฟ้องร้องโดยจะได้สู้กันในศาล ให้รู้ว่าอะไรถูกหรือผิด ตราบใดที่มีกฎหมายฉบับเดียวกัน " นายนพรุจ กล่าว
ชมคลิป >>> ยื่นกกต.สอบ"ทักษิณ" ครอบงำเพื่อไทย