8 พฤศจิกายน 2567 ท่ามกลางสถานการณ์ทางการเมือง ที่มีหลายปมร้อนกำลังเข้ามารุมเร้า "แพทองธาร ชินวัตร" นายกรัฐมนตรี ชนิดที่ นายกฯวัย 38 ปี รายนี้ ถึงกับต้องระดมความคิดเห็นจากแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล ในการแก้ปมปัญหาอันหลากหลาย จนทำให้คอการเมืองต่างออกมาวิพากษ์วิจารณ์ว่า รัฐบาลภายใต้การนำของ "แพทองธาร" จะอยู่ครบวาระหรือไม่
ล่าสุด "เนชั่นทีวี" ได้มีโอกาสสนทนากับ "หมอกอล์ฟ-ตงฟางซินแซ" หรือ "ซินแสตงฟาง" หมอดูฮวงจุ้ย โหงวเฮ้ง และโหราศาสตร์จีน ได้วิเคราะห์โหงวเฮ้งของ "อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร" นายกรัฐมนตรี ไว้อย่างน่าสนใจ โดย"ซินแสตงฟาน" เริ่มต้นจากพิจารณารูปลักษณ์ท่านผู้นำรายนี้ก่อนว่า "คุณแพทองธาร"นั้น "มีจมูกมังกร ตามังกร มีจริตผู้ชาย เป็นคนที่คิดไวทำไว ชัดเจน เหมาะกับการเป็นผู้นำ"
พร้อมทำนายว่า "รัฐบาลชุดนี้ มีแนวโน้มจะอยู่ครบวาระ แต่จะมีอุปสรรคเข้ามาสั่นคลอนบัลลังก์ค่อนข้างเยอะ อยากให้ "คุณอุ๊งอิ๊ง" อดทน โดยเฉพาะช่วงเดือนพฤศจิกายน ( เดือนนี้ ) และเดือนพฤษภาคม ( ปี 2568) เนื่องจากจะมีเรื่องเศรษฐกิจและปัจจัยภายนอกต่างๆจะเข้ามากระทบท่าน ดังนั้นนายกฯจะต้องใช้สติปัญญาในการบริหารและคัดคน ส่วนปี 2569 เรียกว่าปีม้าไฟศึก แนวโน้มประเทศไทยเศรษฐกิจจะดีขึ้น ไม่ว่าทั่วโลกเกิดสงครามแต่ไทยจะเจริญกลับมาเป็นเสือติดปีกครั้ง
" ซินแสตงฟาง"ยังทำนายผู้นำประเทศไทยในอนาคตเอาไว้ว่า ถ้าหากมีการเลือกตั้งในปี 2569 ประเทศไทยมีแนวโน้มจะได้ผู้นำเป็นผู้ชาย โครงหน้าเหลี่ยม ปลายตาเชิ่ด คิ้วสวย
แต่ถ้าเลือกตั้งในปี 2570 ปีแพะไฟ มีโอกาสได้นายกฯผู้หญิงอีกครั้ง หรือ ผู้หญิง มีอำนาจเรืองรองอีกครั้งหนึ่ง แต่ต้องเป็นผู้หญิงที่มีปลายตาเชิด
ชมคลิป >>> ซินแสตงฟาน ดูโหวเฮ้ง "แพทองธาร ชินวัตร" นายกรัฐมนตรี
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบความเคลื่อนไหวการเมืองในรัฐบาลตั้งแต่สุดสัปดาห์นี้ ไปจนถึงสัปดาห์หน้า นับว่ามีหลากหลายประเด็นร้อนที่น่าสนใจ ดังนี้
9 พ.ย.67 เริ่มตั้งแต่ปลายสัปดาห์นี้กันเลย "ภูมิธรรม เวชยชัย" รองนายกฯและรมว.กลาโหม ขึ้น ฮ. ลงสำรวจเกาะกูด ตามสไตล์รัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง เป็นการเรียกขวัญสร้างความมั่นใจให้หน่วยงานพื้นที่รับรู้ เกาะกูดเป็นของไทย ท่ามกลางการเคลื่อนไหวฝ่ายการเมือง มวลชนต้านรัฐบาล เรียกร้องให้ล้มเอ็มโอยู 2544
10-18 พ.ย. 67 นายกฯแพทองธารเดินทางต่างประเทศ รอบนี้ทริปยาวหนึ่งสัปดาห์ เครื่องลงจอดที่ลอสแอลเจลิส 11-13 พ.ย. เป็นประธานประชุมเอกอัครราชทูตไทย และกงสุลใหญ่ไทย ประจำภูมิภาคอเมริกา พร้อมมีนัดพบนักธุรกิจ แฟนคลับเสื้อแดงในอเมริกา จากนั้น ออกเดินทางต่อร่วมประชุมเอเปคที่ นครลิมา ประเทศเปรู ระหว่างวันที่ 14-16 พ.ย.
11 พ.ย.67 โรคเลื่อนเลือกประธานบอร์ดแบงก์ชาติ ถึงคราวน่าจะยุติได้แล้ว เมื่อคณะกรรมการสรรหาประธานบอร์ดแบงก์ชาติ เรียกประชุม เคาะรายชื่อผู้เหมาะสม เป็นประธานบอร์ดธปท. ท่ามกลางข่าวใหม่ กระทรวงคลัง จะมีการเสนอชื่อ"นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์" อดีตปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา แทนที่ "กิตติรัตน์ ณ ระนอง" เพื่อหวังสยบแรงกดดัน?
13 -14 พ.ย.67 ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เห็นที คอการเมืองซีดปาก เมื่อ อดีตนายกฯทักษิณ มีกำหนดการเดินทางไปอุดรธานี ซึ่งไม่มีวาระใดสำคัญเท่าการช่วยหาเสียงเลือกตั้งนายกอบจ.อุดร ให้ผู้สมัคร ของพรรคเพื่อไทย ศราวุธ เพชรพนมพร หรือ "สส.ป๊อบ" หมุดหมาย 3 พื้นที่ 3 เวที ภายในสองวัน แบบจุกๆ ด้วยการระดมมวลชน มาฟังการปราศรัยนายใหญ่ ไม่ต่ำกว่าหมื่นถึงสองหมื่นคน
15-17 พ.ย. 67 พลันนายใหญ่จันทร์ส่องหล้าเดินทางกลับ แต่ทว่า ขุนพลแถวหน้าค่ายสีส้มก็กำลังมา งานนี้เป็นคิว"พิธา ลิ้มเจริญรัตน์" "ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ" หัวหน้าเท้ง "ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ" ยกทัพใหญ่ไม่น้อยหน้า ทัพจันทร์ส่องหล้า ยาตรา แผนดาวกระจายหาเสียงช่วย "คณิศร ขุริรัง" ด้วยเสียงคำรามลั่นสมรภูมิเลือกตั้ง ขอปักธง นายก อบจ.อุดร เช่นกัน
18 พ.ย. 67 ต่อเนื่องสู่โหมดเตรียมความพร้อมเลือกตั้งนายกอบจ. เมื่อพรรคประชาชน แถลงเปิดตัวผู้สมัครรับเลือกตั้ง นายกอบจ.ทั่วทุกภูมิภาค ที่อาคารอนาคตใหม่ พรรคประชาชน เป็นการโหมโรงให้รู้ว่า นับจากนี้ไป นี่คือตัวจริง ที่พรรคประชาชนส่งชิงชัย
18 พ.ย. 67 ระเบิดเวลาว่าด้วยปมปัญหาพื้นที่ทับซ้อนทางทะเล ไทย-กัมพูชา เริ่มกลับมาร้อนระอุ เป็นไปตามการให้สัมภาษณ์ของนายกฯแพทองธารจะได้รายชื่อ"คณะกรรมการร่วมด้านเทคนิค (JTC) "ในวันดังกล่าว หลัง ฮุน มาเนต นายกฯกัมพูชา ทวงถามมา รายชื่อคณะเจรจาเป็นไปตามไฟท์บังคับ ระดับรองนายกฯฝ่ายความมั่นคง "ภูมิธรรม เวชยชัย" เป็นประธานแน่นอน
23 พ.ย. 67 อย่างที่กล่าวข้างต้นเลือกตั้งนายกอบจ.นอกฤดูกาล ทยอยมาต่อเนื่อง โดยวันดังกล่าว จะเป็นวันเลือกตั้งนายกอบจ.สุรินทร์ เป็นการแข่งขันระหว่าง พรชัย มุ่งเจริญพร กับ ธัญพร มุ่งเจริญพร ทั้งคู่สังกัดพรรคภูมิใจไทย
24 พ.ย. 67 การเลือกตั้งนายกอบจ.ถึงสามจังหวัด พร้อมกัน นอกจาก ไฮไลท์อยู่ที่ อุดรธานี ยังมีการเลือกตั้งนายกอบจ. เพชรบุรี และ นครศรีธรรมราช เป็นต้น