svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

"นายกฯ"แพลม ตั้ง"กก.JTC ไทย-กัมพูชา" กลางพ.ย. หลัง "ฮุน มาเนต" ทวงถามคืบหน้า

"นายก​รัฐมนตรี​" ควง​ "ภูมิธรรม​" เคลียร์ปม  "MOU​ 2544"​  ลั่น​ เรื่องเดียวที่ต้องเร่ง ตั้งคณะกรรมการ​ JTC ให้เสร็จ​ กลางพ.ย.​ หลัง​ "ฮุน​ มาเนต"  ทวงถาม ยัน  กัมพูชาพร้อมหนุนทุกเรื่อง​ 

8 พฤศจิกายน 2567 "นางสาวแพทองธาร​ ชินวัต"​ นายก​รัฐมนตรี​ พร้อมด้วย"นายภูมิ​ธรรม​ เวชชย​ชัย"​  รองนายก​รัฐมนตรี​และ​รัฐมนตรี​ว่าการ​กระทรวง​กลาโหม​  ให้​สัมภาษณ์​ถึงกรณี"MOU​ 2544"​ จำเป็นต้องนำเข้าสภาเพื่อหาข้อยุติ ก่อนจะเดินหน้าแบ่งผลประโยชน์พื้นที่ทับซ้อนทางทะเล ไทย- กัมพูชา​ หรือไม่​ ว่า​ ตัว"MOU 2544" ยอมรับว่า​ ยังไม่เคยเข้าสภาฯ​ เพียงแต่ยึดหลักการเจรจา ภายใต้ "MOU 2544"  ซึ่งเป็นหลักที่เสรี เพราะทั้งไทยและกัมพูชาตกลงร่วมกันที่จะเจรจา

ส่วนกรณีที่ตนเคยระบุว่า จะโดนกัมพูชาฟ้อง หากใครยกเลิก "MOU 44" นั้น ขอชี้แจงว่า เรื่องฟ้องหรือไม่ฟ้องเกิดขึ้นได้ หากมีการยกเลิกฝ่ายเดียว เพราะฉะนั้นการที่เราพูดคุยกันระหว่างประเทศสำคัญมาก หากจะยกเลิก ยกเลิกเพื่ออะไร และยกเลิกทำไม และหากยกเลิกแล้ว ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศจะเป็นอย่างไร คนไทยต้องคิดในเรื่องนี้ ซึ่งไม่ควรจะมายกเลิกฝ่ายเดียว และทำให้เกิดปัญหาระหว่างประเทศ ต้องมีการพูดคุยกันก่อน จึงอยากขอเวลาเพื่อที่จะไปพูดคุยกัน

แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี

"นายกรัฐมนตรี" ​ ยืนยันว่า​ ไม่ได้มีปัญหาอะไรและได้มีโอกาส พูดคุยกับผู้นำกัมพูชา ซึ่งทางผู้นำกัมพูชาได้ถามว่า มีอะไรที่จะให้ทางกัมพูชาสนับสนุนประเทศไทยหรือไม่ ก็ให้แจ้งมา ซึ่งตนบอกว่าเป็นเรื่องที่เราต้องสื่อสาร ให้ประชาชนได้เข้าใจมากกว่า ว่าเรายังไม่ได้เสียเปรียบอะไร ถึงแม้ว่าการขีดเส้นของ 2 ประเทศจะไม่เหมือนกัน จึงกลายเป็นที่มาของ "MOU 2544" แล้วให้ไปเจรจากัน นี่คือสิ่งที่เราต้องทำต่อ และเชื่อว่าหลังจากกลับมาจากการประชุมเอเปค ในวันที่ 18 พฤศจิกายนนี้การจัดตั้งคณะกรรมการทางเทคนิค ก็จะเรียบร้อยแล้ว ซึ่งตนได้แจ้งไปทางกัมพูชาแล้วว่า การแต่งตั้งคณะกรรมการ ทางเทคนิคฝ่ายไทย​ จะเสร็จสิ้นประมาณกลางเดือนพฤศจิกายนนี้​ และจะพูดคุยกันผ่านคณะกรรมการชุดนี้

แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี

เมื่อถามว่า เมื่อ"MOU"  ดังกล่าวยังไม่เข้าสภาฯถือว่ายังไม่สมบูรณ์ใช่หรือไม่ โดย"นายกรัฐมนตรี"ได้หันไปสอบถาม​ "นายภูมิธรรม" ว่าสมบูรณ์แล้วหรือไม่​ ซึ่ง"นายภูมิธรรม"​ ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมยืนยันว่า​ "MOU"ดังกล่าวสมบูรณ์แล้ว​ เรื่อง "MOU" เป็นการพูดคุยกัน เพื่อให้ได้ข้อตกลงเรื่องไหล่ทวีป​ จึงไม่จำเป็นต้องเข้าสภาฯ​ ซึ่งมีความสมบูรณ์ในตัวมันเองอยู่แล้ว แต่หากได้ผลการเจรจาและมีอะไรที่เป็นสนธิสัญญาจะต้องเข้าสภาฯ คำว่าสมบูรณ์หมายถึงข้อตกลงร่วมกัน เพราะต่างฝ่ายต่างประกาศเขตแดนซึ่งไม่เหมือนกัน ต่างฝ่ายต่างมีเส้นเป็นของตัวเอง "MOU 2544" ให้ทั้ง 2 ประเทศ มาพูดคุยกัน ว่าเส้นตรงนี้จะยึดเส้นใด​ เรื่องอธิปไตยมันยังไม่จบ 

ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีกล่าวเสริมว่า"MOU"ไม่ใช่ตัวชี้ว่าพื้นที่นี้เป็นของใคร เพียงแต่เมื่อเส้นของสองฝ่ายไม่ตรงกันจึงต้องพูดคุยกัน และไม่จำเป็นต้องเข้าสภาฯ เป็นข้อตกลงทั้งสองประเทศเรียบร้อยแล้วและเข้าใจตรงกัน

ส่วนกรณีที่ตั้งข้อสังเกตว่ากัมพูชาเป็นประเทศเดียวที่ไม่ได้ร่วมในสนธิสัญญา​เจนีวา​จะส่งผลกระทบอะไรหรือไม่ "นายภูมิธรรม" กล่าวว่า สนธิสัญญาเจนีวา เขาประกาศกฎหมายทางทะเล ไม่ว่าคุณจะเข้าหรือไม่เข้า ก็ต้องยอมรับสนธิสัญญานี้ และการเจรจาทั้งหมดก็ต้องยึดกรอบกฎหมายดังกล่าว เนื่องจากมีผลครอบคลุมทุกประเทศทั่วโลก มองว่าไม่ใช่ปัญหา และในสนธิสัญญาได้ระบุชัดเจน เป็นสนธิสัญญาที่เป็นข้อตกลงร่วมกันของทั้งสองฝ่าย เพื่อมาเจรจาเรื่องเขตแดนโดยสันติ และหลังจากคุยกันแล้วได้ข้อสรุปอย่างไรค่อยมาพูดคุยกันอีกครั้ง พร้อมยืนยันว่าจะต้องรีบจัดตั้งคณะกรรมการด้านเทคนิคฝ่ายไทยก่อน เนื่องจากฝ่ายกัมพูชามีอยู่แล้ว ก่อนที่จะเริ่มการเจรจา ซึ่งผูกพันอยู่ 2 ส่วนคือผลประโยชน์ทางทะเล และเขตแดนที่ชัดเจน

โดย"นายกรัฐมนตรี"กล่าวยืนยันว่า การเจรจาแบ่งผลประโยชน์พื้นที่ทับซ้อนทางทะเล สามารถชะลอได้​ เพื่อให้ข้อท้วงติงอื่นๆได้ข้อยุติ​ เพียงแต่การจัดตั้งคณะกรรมการด้านเทคนิคฝ่ายไทยจะต้องมีขึ้น หากไม่มี​ ฝ่ายกัมพูชาก็จะไม่รู้ว่าจะพูดคุยอะไรกัน ยืนยันว่าเป็นเรื่องสำคัญเพียงเรื่องเดียวที่ต้องรีบเร่ง ส่วนเนื้อหาภายในไม่ต้องเร่ง ซึ่งตนได้พูดคุยกับทางกัมพูชา พูดตรงกันว่า เรื่องนี้ไม่มีอะไรเลย เพียงแต่ต้องพูดคุยให้ประชาชนเข้าใจ ซึ่งทางฝ่ายกัมพูชาก็เป็นเช่นนี้เหมือนกัน และมองว่าหากการจัดตั้งคณะกรรมการทางเทคนิคเสร็จ ทุกอย่างจะง่ายขึ้น มีการตรวจสอบได้ การพูดคุยของทั้ง 2 ประเทศก็จะเกิดขึ้น ข้อมูลที่ประชาชนอยากได้ก็จะครบถ้วนมากขึ้น

ทั้งนี้"นายกรัฐมนตรี" ระบุว่า จะให้เจ้าหน้าที่ส่งข้อมูล เกี่ยวกับแผนที่การขีดเส้นให้กับสื่อมวล ซึ่งเส้นที่กัมพูชาขีดนั้นเขาอ้อมเกาะกูด​ ดังนั้นเกาะกูดไทย ไม่ได้อยู่ในเงื่อนไขตรงนี้ และทางกัมพูชาก็ไม่ได้มีปัญหาเรื่องนี้ และเขาก็ไม่ได้อยากมีปัญหากับเรา และเขาก็ถามอยู่เรื่องเดียว คณะกรรมการเทคนิคฝ่ายไทยจะแล้วเสร็จเมื่อใด​