"พ.ต.อ.ทวี" หวั่น ตรา พ.ร.ก.ยืดคดีตากใบส่อขัดรัฐธรรมนูญ

พันตำรวจเอกทวี​ สอดส่อง​ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม​ กล่าวถึงกรณีที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ระบุรัฐบาลกำลังศึกษาการตราพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) ยืดอายุความคดีตากใบว่า ขณะนี้ ยังไม่มีข้อสรุป และขอให้ไปติดตามจากรองนายกรัฐมนตรีที่กำกับดูแลด้านความมั่นคง แต่ตามปกติการจะออก พ.ร.ก.จะมีกระบวนการการออกกฎหมาย ซึ่งการออกเพื่อเฉพาะกลุ่ม หรือเฉพาะเรื่อง จะต้องมีการศึกษาว่าทำได้หรือไม่ได้

พันตำรวจเอกทวี ยังย้ำว่า ในระยะเวลาที่เหลือ 2 วันก่อนที่คดีจะหมดอายุความในวันที่ 25 ตุลาคมนี้นั้น ทุกหน่วยงาน ยังทำงานอย่างเต็มที่ ซึ่งตนเองก็มีความกังวล แต่ผู้ที่ไปสืบสวนหลายคน ก็ยังไม่ได้รับการติดต่อใด ๆ กลับมา ซึ่งการตรวจสอบเมื่อคดีใกล้ขาดอายุ ความทุกคนจะกังวล และหาทางออกว่า จะทำอย่างไรให้กระบวนการยุติธรรมเดินหน้าก่อนขาดอายุความ ส่วนผู้กระทำความผิด เป็นธรรมดาถ้าจะต่อสู้คดี ก็ต้องใช้เวลา 10 - 20 ปี​ หากเห็นว่า มีช่องทางเรื่องอายุความ​ ก็จะต้องหลบหนีเป็นธรรมดา พร้อมย้ำว่า เป็นความรับผิดชอบของรัฐบาล ที่ต้องช่วยกันจับกุมให้ได้

ส่วนหากไม่สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ ความรับผิดชอบของรัฐบาลจะอยู่ในระดับใดนั้น พันตำรวจเอกทวี​ ระบุว่า​ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นผ่านมาหลายรัฐบาล แต่สิ้นสุดในรัฐบาลนี้ และรัฐบาลไม่ต้องการทำให้คดีขาดอายุความ รวมถึงพยายามคืนความเป็นธรรมให้ผู้เสียหายในคดีตากใบ ตั้งแต่เริ่มเกิดเหตุ

ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตกรณีการส่งผู้ร้ายข้ามแดน ระหว่างคดีตากใบที่ต้องหาหลบหนีไป สปป.ลาว กับคดีแป้งนาโหนด ที่หลบหนีไปอินโดนีเซีย แต่ยังนำตัวมาดำเนินคดีได้นั้น พันตำรวจเอกทวี ชี้แจงว่า ข้อกำหนดของแต่ละประเทศต่างกัน ซึ่งคดีแป้งนาโหนดนั้น กระทรวงยุติธรรมเป็นผู้เสียหาย แต่คดีตากใบนี้ กระทรวงฯ ไม่ได้เป็นผู้เสียหาย แต่มอบให้อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ DSI ไปช่วยสนับสนุนข้อมูล

พันตำรวจเอกทวี ยังชื่นชมกรณีที่จะมีกลุ่ม NGOs เตรียมร้องเรียนต่อศาลระหว่างประเทศ ที่สนับสนุนเรื่องนี้ เพราะความยุติธรรม เป็นหน้าที่ของทุกคนที่ต้องมีส่วนร่วม พร้อมยืนยันว่า รัฐบาลไม่ได้กังวล เพราะรัฐบาลไม่ได้ให้การช่วยเหลือใคร และไม่มีอคติที่จะช่วยเหลือใคร และอยากให้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม โดยคิดใช้กระบวนการยุติธรรมเป็นเป้าหมายสุดท้ายเสมอ