อัครแสนคีรี โล่ห์วีระ สส.ชัยภูมิ เขต 7
นายอัครแสนคีรี โล่ห์วีระ สส.ชัยภูมิ เขต 7 ตั้งกระทู้ถามแยกเฉพาะถึงการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำประปาจังหวัดชัยภูมิทั้งระบบ ถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย หลังมีสถิติอัตราการเข้าไม่ถึงน้ำประปาในเขตเมือง 3.3%, เขตชนบท 12.8% ซึ่งสูงกว่ากันถึง 4 เท่า และข้อเท็จจริงปัญหาการขาดแคลนน้ำประปาในชัยภูมิยังมีพื้นที่เกินครึ่ง ที่ไม่ได้รับการจัดสรร ซึ่งตนทราบว่าในปี 2567 การประปาได้รับการจัดสรรงบลงทุน 10,000 ล้านบาท แต่ต้องการขยายเขตน้ำประปาทั้งระบบ ต้องใช้งบประมาณกว่า 100,000 ล้านบาท ดังนั้น รัฐบาลจะใช้แหล่งเงินใดมาลงทุนตามที่ปรากฏเป็นข่าวถึงการลงทุนระบบน้ำประปาทั้งประเทศ รวมถึงกระบวนการสำรวจออกแบบได้สั่งการให้การประปาในแต่ละพื้นที่ออกแบบโครงการไว้แล้วหรือไม่
ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย
โดยนางสาวซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะผู้แทนรัฐมนตรีว่าการฯ ระบุว่า การลงทุนน้ำประปาภาพรวมทั่วประเทศ ทุกหน่วยงานสามารถใช้เงินของหน่วยงานตัวเองในแต่ละพื้นที่ เมื่อได้รับการประสานงานจากหน่วยงานท้องถิ่นได้ เช่น การที่ประปาจะเข้าไปขยายเขต จะต้องดูเจตจำนงขององค์กรปกครองท้องถิ่น (อปท.) ด้วย เพื่อเข้าไปสำรวจออกแบบ ทำแผนศึกษาโครงการ เพื่อนำเข้าสู่แผนประจำปีปฏิทินงบประมาณ และขอรับการจัดสรรงบประมาณจากรัฐบาล
ส่วนแผนที่จะมีในทุกอำเภอนั้น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ยอมรับว่า ตนเติบโตมากับท้องถิ่นต่างจังหวัด จึงเข้าใจสภาพปัญหาการขาดแคลนน้ำประปา แต่ปัญหาที่พบบางพื้นที่ เมื่อ อปท.ยื่นเจตจำนงไปยังการประปาส่วนภูมิภาค จะต้องทำประชาพิจารณ์ ต้องผ่านสภาท้องถิ่นว่าจะอนุมัติได้หรือไม่ แต่บ่อยครั้งที่ไม่ผ่าน 2 ขั้นตอนนี้ ทำให้การประปาส่วนภูมิภาค ไม่สามารถเข้าไปขยายเขตในพื้นที่นั้นได้
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ยังย้ำว่า ามีแผนตั้งใจจะขยายระบบประปาให้ครอบคลุมทั้งหมด 878 อำเภอ ซึ่งได้มีการพูดคุยและตกลงกันแล้วว่า จะขอเพิ่มวงเงินงบประมาณในปี 2569 เพิ่มเส้นเลือดฝอยใน 443 อำเภอเดิมที่ขยายเขตประปาอยู่แล้ว ในวงเงิน 19,000 ล้านบาท โดยมีอำเภอใหม่ 7 อำเภอกว่า 400 ล้านบาท ขณะนี้ อยู่ระหว่างการทำ MOU ระหว่างการประปาส่วนภูมิภาค กับกรมการปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อให้มีความร่วมมือ 4 ข้อ คือ การให้คำปรึกษาทางวิชาการแก่ประปาหมู่บ้าน หรือประปาท้องถิ่น, การขยายเขตน้ำประปาให้ครอบคลุมมากขึ้นทั้งส่วนภูมิภาค และองค์กรปกครองท้องถิ่น, การให้ อปท.รับน้ำ กปภ.ไปบริการ หรือจำหน่าย และการโอนกิจการประปาจาก อปท. ให้ กปภ.
นายอัครแสนคีรี ได้ถามการงบการลงทุนสร้างแหล่งผลิตน้ำประปา และการขยายเขตประปาในอัตราเฉลี่ยต่อกิโลเมตรซึ่ง รัฐมนตรีว่าช่วยว่าการกระทรวงมหาไทย ชี้แจงว่า ต้องใช้งบก่อสร้างระบบประปา เช่น การสูบน้ำดิบผลิตน้ำ ระบบจ่ายน้ำ ซึ่งค่าก่อสร้างวางระบบจะมากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น สภาพแหล่งน้ำดิบในพื้นที่ สภาพพื้นที่ก่อสร้าง ระยะทางระหว่างสถานีการกระจายตัวของผู้ใช้น้ำ และรูปแบบวิธีการก่อสร้างที่เหมาะสม รวมถึงการวางท่อ โดยพื้นที่ราบกับพื้นที่สูง การประเมินงบประมาณจะแตกต่างกันขึ้นอยู่กับภูมิประเทศ ดังนั้น การประมาณการลงทุนก่อสร้างจึงจะต้องสำรวจออกแบบพื้นที่ก่อสร้างก่อน จึงจะสามารถบอกได้ว่า ใช้วงเงินงบประมาณที่เท่าไร แต่ปกติหากเป็นหมู่บ้านจัดสรร ในพื้นที่ที่อยู่ใกล้กัน หรือมีภูมิประเทศที่เอื้ออำนวย ก็จะลงทุนเฉลี่ยต่อ 20,000 บาทต่อราย หากเป็นพื้นที่สภาพภูมิประเทศ ไม่เอื้ออำนวยก็จะมีวงเงินที่ค่อนข้างสูงกว่า
นายอัครแสนคีรี ได้เสนอให้การประปาส่วนภูมิภาค จัดหาเงินกู้เพื่อมาลงทุนในการขยายเขตประปา เนื่องจากการประปาเป็นรัฐวิสาหกิจที่มีกำไร ก่อนจะชี้ให้เห็นถึงปัญหาการขาดแคลนน้ำประปาของจังหวัดชัยภูมิ โดยเฉพาะ 7 ตำบล ในอำเภอแก้งคร้อ และ 5 ตำบลในอำเภอคอนสวรรค์ ที่ยังไม่มีท่อไหล และระบบส่งน้ำของการประปา จึงขอให้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และกระทรวงฯ ได้พิจารณา เพื่อประชาชนในพื้นที่ พร้อมยังได้ยื่นปัญหาความเดือดร้อนของชาวชัยภูมิต่อรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยด้วย