svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

"แจกเงินหมื่น" กลุ่มเปราะบาง -คนพิการ มีเงื่อนไข รับอย่างไร เช็กที่นี่

"ครม." ไฟเขียว "โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจแจกเงินหมื่น" พิชัย นำทีมแจกแจง ตอบหมดครบทุกประเด็น"แจกเงินหมื่น" กลุ่มเปราะบาง - คนพิการ 14.9 ล้านคน เตรียมพร้อมรับอย่างไร เช็กที่นี่

17 กันยายน 2567 "นายพิชัย ชุณหวชิร"  รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง พร้อมด้วย "นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์" และ "นายเผ่าภูมิ โรจนะสกุล" 2 รมช.คลัง , "นายลวรณ แสงสนิท"ปลัดกระทรวงการคลัง และ "นายพิชัย ฐีระเวช" ผู้อำนวยการสำนักเศรษฐกิจการคลัง ร่วมกันแถลงรายละเอียดโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจตามนโยบายรัฐบาล ที่ต้องการให้เกิดความรวดเร็ว ครม.ได้เห็นชอบโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจปี 2567 ผ่านผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และคนพิการ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ โดยใช้งบประมาณวงเงินรวม 145,552.40 ล้านบาท ใช้แหล่งเงินจากแหล่งเงิน 2 แห่งเงินได้แก่ 

1.งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปี พ.ศ.2567 งบกลาง รายการค่าใช้จ่ายเพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างความเข้มแข็งของระบบเศรษฐกิจ วงเงิน 1.22 แสนล้านบาท 

 

2.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2567 งบกลางรายการสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นวงเงินไม่เกิน 23,552.40 ล้านบาท 

 

\"แจกเงินหมื่น\" กลุ่มเปราะบาง -คนพิการ  มีเงื่อนไข รับอย่างไร เช็กที่นี่

ทั้งนี้ วงเงินที่มีการโอนเงินจะครอบคลุมประชาชนที่เป็นกลุ่มเปราะบาง 2 ส่วน "รวมผู้ที่ได้รับเงิน 14.5 ล้านคน"  แบ่งเป็น กลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐประมาณ 12.4 ล้านราย และผู้พิการอีกประมาณ 2.1 ล้านราย โดยโครงการนี้มีประโยชน์คือเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในปี 2567 ซึ่งจะจ่ายเงินให้กับกลุ่มผู้มีรายได้น้อย ทำให้เกิดการหมุนเวียนของเงินในระบบเศรษฐกิจ ส่งผลให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ขยายตัวได้ 0.35% เมื่อเทียบกับกรณีไม่มีโครงการ

นอกจากนี้ ที่ประชุม ครม.ยังเห็นชอบในหลักการ ในการยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา สำหรับกลุ่มเป้าหมายที่ได้รับเงินในโครงการนี้ โดยกรมสรรพากรจะมีการเสนอให้ ครม. ยกร่างกฎหมายในส่วนนี้และเสนอให้ ครม. พิจารณาต่อไป


ทั้งนี้ ภายหลังจากที่ ครม.เห็นชอบแล้ว กรมบัญชีกลางจะดำเนินจ่ายเงินให้กับประชาชนที่อยู่ในกลุ่มเป้าหมายตั้งแต่วันที่ 25 ก.ย. เป็นต้นไปคนละ 10,000 บาท ด้วยการโอนเงินให้ครั้งเดียว โดยกลุ่มเปราะบาง คนพิการ บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ผูกพร้อมเพย์ "กรมบัญชีกลาง" โอนเงินเข้าบัญชีที่เชื่อมกับเลขบัตรประชาชน ดังนี้

 

วันที่ 25 ก.ย. 2567 


• กรมบัญชีกลาง โอนเข้าบัญชีผู้พิการ 2.6 ล้านคน 


• โอนเข้าบัญชี ผู้รับสิทธิสวัสดิการแห่งรัฐ ที่เลขหลังบัตรประชาชน 0

 

วันที่ 26 ก.ย. 2567 


• กรมบัญชีกลาง โอนเข้าบัญชีผู้รับสิทธิสวัสดิการแห่งรัฐ ที่เลขหลังบัตรประชาชน 1, 2 ,3

 

วันที่ 27 ก.ย. 2567 


• กรมบัญชีกลาง โอนเข้าบัญชีผู้รับสิทธิสวัสดิการแห่งรัฐ ที่เลขหลังบัตรประชาชน 4, 5, 6, 7

 

วันที่ 30 ก.ย. 2567 


• กรมบัญชีกลาง โอนเข้าบัญชีผู้รับสิทธิสวัสดิการแห่งรัฐ ที่เลขหลังบัตรประชาชน 8, 9

 

อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่กรมบัญชีกลาง ไม่สามารถจ่ายเงินได้ เนื่องจากไม่ได้มีการผูกบัญชีพร้อมเพย์ กรมบัญชีกลางจะโอนเงินภายหลัง หรือจ่ายเงินซ้ำ (Retry) อีก 3 ครั้ง ได้แก่ วันที่ 22 ต.ค. 2567 , 
วันที่ 22 พ.ย. 2567 และ วันที่ 22 ธ.ค. 2567 ซึ่งหากโอนไปครบทั้ง 3 ครั้งแล้วไม่สำเร็จ รัฐจะหยุดการจ่ายเงินซ้ำและถือว่ากลุ่มเป้าหมายไม่ประสงค์จะรับเงินในโครงการ

\"แจกเงินหมื่น\" กลุ่มเปราะบาง -คนพิการ  มีเงื่อนไข รับอย่างไร เช็กที่นี่

นอกจากนี้ ครม. ยังมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการในโครงการนี้ โดยมอบหมายให้กรมบังคับคดีกำหนดแนวปฏิบัติเพื่ออนุญาตให้บุคคลล้มละลายหรือถูกพิทักษ์ทรัพย์ เปิดบัญชีเงินฝากธนาคาร และถอนเงินเป็นกรณีพิเศษ เพื่อรับเงินตามโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ปี 2567 ผ่านผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและคนพิการ และเบิกถอนเงินดังกล่าวเพื่อใช้จ่าย รวมทั้งมอบหมายให้ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กรุงเทพมหานคร และเมืองพัทยา รวบรวมและนำส่งข้อมูลที่เกี่ยวข้องของคนพิการให้แก่กรมบัญชีกลาง เพื่อประโยชน์ในการจ่ายเงินให้แก่

 

คนพิการตามโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ปี 2567 ผ่านคนพิการ อีกทั้งมอบหมายให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ รวบรวมและนำส่งข้อมูลที่เกี่ยวข้องของผู้สูงอายุ คนไร้ที่พึ่ง เด็ก และคนพิการให้แก่กรมบัญชีกลาง เพื่อประโยชน์ในการจ่ายเงินตามโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจปี 2567 ผ่านผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและคนพิการ 

\"แจกเงินหมื่น\" กลุ่มเปราะบาง -คนพิการ  มีเงื่อนไข รับอย่างไร เช็กที่นี่

รวมทั้งมอบหมายให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กรุงเทพมหานคร และเมืองพัทยา รวบรวม ตรวจสอบ และรายงานผลการดำเนินการจ่ายเงินโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ปี 2567 ผ่านคนพิการให้แก่คนพิการในพื้นที่ต่อสำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง และมอบหมายให้ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมันคงของมนุษย์ โดย กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมันคงของมนุษย์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการทำบัตรประจำตัวคนพิการ หรือต่ออายุบัตรประจำตัวคนพิการให้แก่คนพิการ เพื่อให้กรมบัญชีกลางสามารถจ่ายเงินให้แก่กลุ่มเป้าหมายได้ภายในกำหนดเวลาการจ่ายเงินตามโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ปี 2567 ผ่านคนพิการด้วย 

 

\"แจกเงินหมื่น\" กลุ่มเปราะบาง -คนพิการ  มีเงื่อนไข รับอย่างไร เช็กที่นี่

แนะตรวจบัญชีธนาคารผูกพร้อมเพย์

 

อย่างไรก็ตาม  ขอให้กลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการและคนพิการตามเป้าหมายของโครงการดำเนินการตรวจสอบบัญชีธนาคารที่ผูกพร้อมเพย์กับเลขประจำตัวประชาชนว่ายังสามารถใช้งานได้หรือไม่ หรือหากมีบัญชีธนาคารเดิมอยู่แล้วแต่ยังไม่ได้ผูกพร้อมเพย์ ขอให้ดำเนินการผูกพร้อมเพย์ด้วยเลขประจำตัวประชาชน และสำหรับคนพิการที่ไม่มีบัตรประจำตัวคนพิการ หรือบัตรประจำตัวคนพิการหมดอายุ ขอให้ทำบัตรหรือต่ออายุบัตรให้เรียบร้อยภายในวันที่ 3 ธ.ค.2567 เพื่อรับสิทธิตามโครงการดังกล่าว

 

ส่วนการลงทะเบียนสำหรับผู้มีสิทธิรับเงินโครงการดิจิทัล วอลเล็ต 10,000 บาท แต่ไม่มีโทรศัพท์สมา์ทโฟนนั้น จะมีการตั้งคณะกรรมการเพื่อหารือและกำหนดรายละเอียดให้มีความชัดเจนหลังจากการจ่ายเงินกลุ่มเปราะบางเสร็จเรียบร้อยแล้วอีกครั้ง พร้อมยืนยันว่าโครงการดิจิทัล วอลเล็ต เฟส 2 ยืนยันจะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน เพราะนอกจากจะเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจแล้ว ยังเป็นการสร้างเศรษฐกิจดิจิทัล ซึ่งเป็นเป้าหมายหลักของรัฐบาล เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในระยะยาว

\"แจกเงินหมื่น\" กลุ่มเปราะบาง -คนพิการ  มีเงื่อนไข รับอย่างไร เช็กที่นี่

เตือนอย่าหลงเชื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ช่วยลงทะเบียนเงินหมื่น  

 

นายจิรายุ  ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี  แถลงว่า  หลังจากที่มีข่าวว่า รัฐบาลเตรียมแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท ให้กับกลุ่มเปราะบางนั้น ล่าสุดพบว่า มีแก๊งคอลเซ็นเตอร์ อ้างตนเองว่าเป็นเจ้าหน้าที่รัฐโทรสอบถามข้อมูลส่วนตัวและช่วยเหลือในการลงทะเบียนแล้วนั้น นางสาวแพทองาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ขอแจ้งเตือนประชาชนว่า วิธีการลงทะเบียนต้องทำด้วยตนเองไม่มีหน่วยงานราชการใดไปทำให้กับประชาชนเพราะถือเป็นความลับของแต่ละบุคคลดังนั้นใครก็แล้วแต่โทรไปและอ้างว่ามาจากส่วนราชการ หรือ ข้าราชการ ขอเป็นตัวแทนในการลงทะเบียนและเลขบัตรประชาชน ไม่เป็นความจริง

จึงขอเตือนให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อ เพราะเรื่องนี้เป็นหน้าที่ของประชาชนและลูกหลานที่จะช่วยเหลือเพราะถือว่าเป็นข้อมูลความลับ