svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

“ชูศักดิ์” จ่อดำเนินคดีกลับนักร้อง ขอดูข้อกฎหมายให้แน่น ชี้จุกจิกไร้สาระ

“ชูศักดิ์” จ่อดำเนินคดีกลับนักร้อง ขอดูข้อกฎหมายให้แน่น ชี้ เสียเวลาทำงานให้ประเทศ กับเรื่อง ไร้สาระ ขณะสัปดาห์หน้าเตรียมยื่นเสนอร่างแก้ รธน. รายประเด็น กำหนดชัดเจนความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ และเสียงศาล รธน.สั่งยุบพรรค-สั่งให้นักการเมืองพ้นตำแหน่ง

ที่อาคารรัฐสภา นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ยื่นร้องเรียนให้องค์กรอิสระตรวจสอบนางสาวแพทองธาร ชินวัตรนายกรัฐมนตรีในหลายเรื่องว่า ได้มีการประชุมฝ่ายกฎหมายของพรรค คำร้องล่าสุดได้รองนายกรัฐมนตรีฝ่าฝืนจริยธรรมที่ได้มีการตั้ง นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ซึ่งเมื่อสื่อดูคำร้องเสร็จก็ได้มีการพาดหัว ว่านายกตั้งคนที่ถูกพิพากษาให้จำคุก ฉะนั้นก็เป็นการฝ่าฝืนจริยธรรมโดยไม่ได้ดูรายละเอียด แต่ความเป็นจริงนายสุรพงษ์ไม่เคยต้องคำพิพากษาใดๆว่ากระทำความผิดกฎหมายเลือกตั้ง

ฉะนั้นจากการตรวจสอบนายสุรพงษ์ไม่มีคดีใดๆ แต่การร้องเช่นนี้ทำให้คนเข้าใจผิดว่า มีความบกพร่องในการแต่งตั้งรัฐมนตรีและฝ่าฝืนจริยธรรมซึ่งตรงคิดว่าต้องระมัดระวัง อย่างน้อยสื่อเอาไปพลาดรัฐมนตรีก็เสียหาย และเท่าที่ทราบรัฐมนตรีก็จะดำเนินคดีทางกฎหมาย ที่มีการทำการหมิ่นประมาท

ทั้งนี้ ตนได้ตั้งข้อสังเกตว่าคำร้องเหล่านี้สื่อใช้คำว่าเป็นนิติสงคราม ที่มีการหยิบยกประเด็นกฎหมายต่างๆ แล้วก็ร้องกันไป ล่าสุดก็เป็นเรื่องการทำท่ามินิฮาร์ท ซึ่งตนมองว่าเสียเวลาทำงานให้ประเทศต้องมาจุกจิกกับเรื่องที่ไม่มีสาระ จึงขอฝากไปยังองค์กรอิสระทั้งหลายเวลารับเรื่องพวกนี้ ซึ่งในคำร้องพวกนี้ จะไม่มีการยืนยันข้อเท็จจริงว่าผิดหรือไม่ผิด โดยเป็นการขอให้หน่วยงานนั้นวินิจฉัยว่าเป็นอย่างนั้นหรือไม่เป็นอย่างนี้หรือไม่ ทำไมเขาไม่ยืนยันเพราะก็กลัวถูกฟ้องกลับ แต่ขณะนี้ฝ่ายกฎหมายดูแล้วก็เห็นว่ามีความจำเป็นที่จะต้องดำเนินการตามที่จะสามารถกระทำได้

"โดยสรุปคือเสียเวลาทำงานให้ประเทศจุกจิกกวนใจกับเรื่องไม่เป็นเรื่องถ้ารัฐบาลหรือใครต่อใครกระทำผิดทุจริตคอรัปชั่นประพฤติผิดร้ายแรงถึงขนาดไม่ควรดำรงตำแหน่งก็ว่ากันไปแต่นี่ไม่ใช่เรื่องอะไรเลย ผมว่าสาระมันไม่มี"นายชูศักดิ์กล่าว 

ส่วนคำร้องต่างๆจะไม่ซ้ำรอยกับกรณีของนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี ใช่หรือไม่ นายชูศักดิ์กล่าวว่า เราระมัดระวังกันอย่างเต็มที่ เรื่องของอดีตนายกที่ผ่านมาก็เป็นบทเรียน รัฐบาลของนางสาวแพทอง ธารชินวัตร จึงตรวจสอบคุณสมบัติอย่างเข้มข้นเพราะเอาบทเรียนนั้นมา ตนคิดว่ารัฐบาลนี้ระมัดระวังอย่างเต็มที่ แต่ไม่อยากให้เรามาใช้วิธีสู้กันแบบ "ไร้สาระ" จนน่าเบื่อน่ารำคาญ

นายชูศักดิ์ ยังกล่าวด้วยว่า การดำเนินคดีกลับ ก็คงต้องดำเนินการจริงจังแต่ก็ต้องดูข้อกฎหมายให้แน่น เพราะคำร้องที่ปรากฏอยู่ในตอนนี้ไม่ได้มีการยืนยันข้อเท็จจริง เพราะมองว่าเรื่องนี้เป็นการเมืองแน่นอน แต่ถ้าเราจะทำงานการเมืองก็ควรจะรู้เรื่องบ้าง ไม่ใช่อะไรก็จะสู้กันแบบไม่เปิดดูดุลพินิจว่าควรจะเป็นอย่างไร ถูกต้องสมควรมากน้อยแค่ไหน

ส่วนที่หลายคนมองว่าการเดินเกมฟ้องร้องกันด้านกฎหมายเป็นการสู้กันระหว่างคนบ้านป่าฯกับคนบ้านจันทร์ฯนั้น นายชูศักดิ์ กล่าวว่า ไม่รู้บ้านไหนก็ไม่รู้แต่ท้ายที่สุดก็ถึงเวลาที่ต้องทบทวน ว่าควรจะทำยังไง บ้านเมืองเป็นอย่างนี้ก็ไม่ต้องทำงานทำการกันอย่างนั้นหรือ และคงจะต้องดำเนินการในสิ่งที่คิดว่าสมควรเพื่อให้การเมืองมันเดินได้ ไม่ต้องพะว้าพะวงกันแบบนี้บางทีไร้สาระจนเกินไป

นายชูศักดิ์ ยังกล่าวถึงการประชุมคณะทำงานด้านกฎหมายของพรรคเพื่อไทย ว่าในสัปดาห์หน้าจะยื่นร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญปี 2560 รายมาตรา คู่ขนานไปกับการทำรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับตามนโยบายของรัฐบาล เพื่อให้บ้านเมืองขับเคลื่อนต่อไปได้ ซึ่งการแก้ไขเพิ่มเติมบางประเด็น ที่จะต้องมีการทบทวน เช่นประเด็นเกี่ยวกับจริยธรรม โดยจะต้องมีข้อความที่ชัดเจน แก้ปัญหาถ้อยคำที่สับสน หรือมีการตีความได้หลายทาง แก้ให้ถูกต้อง ตามที่ได้หารือกันไว้คือเรื่องที่กำหนด ความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์จะต้องกำหนดให้ชัดเจน หรือพฤติกรรมการฝ่าฝืน ต้องกำหนดให้ชัดเจนว่ามีอะไรบ้าง และมีแนวคิดที่จะกำหนดเสียงของตุลาการที่จะลงมติในคดียุบพรรคการเมือง หรือคดีการให้ผู้ดำรงตำแหน่งพ้นจากตำแหน่งทางการเมือง

“ เท่าที่ที่พรรคของเราคิดอยู่และจะนำเสนอด้วย บางเรื่องบางกรณีที่กฎหมายเขียนไว้ เสียงข้างมากของศาลรัฐธรรมนูญ บางเรื่องมีความสำคัญ เช่นการยุบพรรค การกำหนดให้คนออกจากตำแหน่งเป็นไปได้หรือไม่จะกำหนดว่าต้องใช้เสียง 2 ใน 3 หรือใช้เสียง 4 ใน 5
ให้เกิดความชอบธรรมขึ้นพอสมควร  คุณจะเอาคนออกจากตำแหน่งแต่ท้ายที่สุดชนะกัน 5 ต่อ 4 นายกรัฐมนตรีพ้นจากตำแหน่งไปด้วยเสียง 5ต่อ4 มองว่าความถูกต้องชอบธรรมก็น่าคิด พยายามจะแก้ตรงนี้ด้วย“ นายชูศักดิ์กล่าว

นายชูศักดิ์ กล่าวต่อว่าในประเด็นนี้เห็นต่างกันกับพรรคประชาชน ที่เสนอให้ยกเลิกแต่พรรค เพื่อไทยแก้ไข กำหนดให้เกิดความชัดเจนขึ้น หากเพื่อไทยเสนอยกเลิกจะถูกครหาว่าเป็นการเขียนรัฐธรรมนูญเพื่อตนเอง จึงดำเนินการในทางที่สมเหตุสมผล นอกจากนี้เมื่อจะปรับปรุงแก้ไขรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับ คุณสมบัติ สิทธิสมัครรับเลือกตั้งซึ่งที่กำหนดไว้ในปัจจุบันมีความเข้มเกิน 

“ บางคนถูกตัดสินหมิ่นประมาท เราก็รู้เป็นความผิดยอมความได้ ล่าสุดต้องรอไปถึง 20 ปีกว่าจะสมัครรับเลือกตั้งได้ มองว่าเกินไป”นายชูศักดิ์กล่าว

นายชูศักดิ์ ยังกล่าวเพิ่มเติมเกี่ยวกับการจัดทำรัฐธรรมนูญทั้งฉบับว่าจะต้องรอพระราชบัญญัติว่าด้วยการออกเสียงประชามติผ่านความเห็นชอบจากวุฒิสภาและมีผลบังคับใช้จากนั้นจึงจะดำเนินการถามความเห็นประชาชนในครั้งแรก  ว่าประชาชนเห็นสมควรให้มีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่