svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

สภาฯ พิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ 2568 วาระที่ 2 ต่อเนื่องวันที่ 2 เริ่มงบฯ กษ.

สภาฯ พิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ 2568 วาระที่ 2 ต่อเนื่องวันที่ 2 เริ่มงบฯ กษ. - ขณะที่ การพิจารณาส่วนใหญ่ที่ประชุมฯ เห็นชอบการตามการปรับแก้ของ กมธ.เสียงข้างมาก - ปชป.หันสนับสนุนรัฐบาลเรียบร้อย - พปชร.แตกแบ่ง 2 ขั้ว

:: สภาฯ พิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบฯ 68 วาระที่ 2 ต่อเนื่องวันที่ 2 เริ่มงบฯ กษ. ::

 

การประชุมสภาผู้แทนราษฎร นัดพิเศษ ในวันนี้ (4 ก.ย.) มีวาระสำคัญในการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2568 วงเงิน 3,752,700 ล้านบาท ในวาระที่ 2 และ 3 ต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 ภายหลังคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2568 พิจารณาแล้วเสร็จ โดยในวันนี้ (4 ก.ย.) ที่ประชุม จะเริ่มพิจารณาต่อที่มาตรา 14 งบประมาณกระทรวงเกษตรและสหกรณ์

สภาฯ พิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ 2568 วาระที่ 2 ต่อเนื่องวันที่ 2 เริ่มงบฯ กษ.

ทั้งนี้ ในการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2568 ทั้ง 40 มาตรา เมื่อวานนี้ (3 ก.ย.) ที่ประชุม พิจารณางบประมาณฯ ไปแล้ว 13 มาตรา ซึ่งเป็นทั้งงบกลาง, งบประมาณสำนักนายกรัฐมนตรี, งบประมาณกระทรวงกลาโหม กระทรวงการคลัง, กระทรวงการต่างประเทศ, กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และกระทรวงการอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรม

:: สภาฯ เห็นชอบกรอบงบฯ 68 วงเงิน 3.75 ล้านล้าน - กมธ.เสียงข้างน้อยห่วงรัฐบาลตั้งงบขาดดุลทำประเทศเสี่ยงวิกฤตการคลัง - "ศิริกัญญา" ชงหั่นงบทิ้ง 2 แสนล้าน มั่นใจรัฐบาลใช้จ่ายไม่ทัน ::

 

การอภิปรายของ สส.ส่วนใหญ่ และกรรมาธิการเสียงข้างน้อย ยังคงแสดงความกังวลต่อการตั้งงบประมาณ 3,752,700 ล้านบาท แบบขาดดุลของรัฐบาลต่อเนื่อง

สภาฯ พิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ 2568 วาระที่ 2 ต่อเนื่องวันที่ 2 เริ่มงบฯ กษ.

อาทิ นายวีระ ธีระภัทรานนท์ กรรมาธิการฯ เสียงข้างน้อย สัดส่วนพรรคก้าวไกล เห็นว่า การตั้งงบประมาณขาดดุลของรัฐบาลอย่างเรื้อรัง จะกระทบต่อเงินการคลังของประเทศในอนาคตจากการกู้ชดเชยการขาดดุลทุกปี และอาจเป็นสัญญาณอันตราย ที่จะเกิดวิกฤติการคลังในอนาคต เพราะภายในงบประมาณ 2568 มีการตั้งค่าใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐสูงถึง 410,000 ล้านบาท แต่ชำระคืนเงินต้นเพียง 150,000 ล้านบาท และยังไม่นับรวมการชำระคืนหนี้ให้สถาบันการเงินของรัฐที่ออกเงินแทนรัฐบาลไปก่อน ซึ่งเป็นรายการงบประมาณที่มียอดคงค้างไม่น้อยกว่า 1,000,000 ล้านบาท ดังนั้น จึงเป็นการบ่อนทำลายสถานะการเงินการคลังของรัฐ เสี่ยงที่ต้องประสบวิกฤติการคลังในอนาคต และเป็นการเซาะกร่อนบ่อนทำลายสถานะการเงินการคลังของรัฐ ในปัจจุบัน และอนาคตอย่างแท้จริง และสุดท้ายนำไปสู่วิกฤติการคลังได้ในที่สุด

 

 

ขณะที่ นางสาวศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะกรรมาธิการฯ เสียงข้างน้อย ได้สงวนความเห็นปรับลดงบประมาณรายจ่ายในปี 2568 ลง 200,000 ล้านบาท เนื่องจาก เห็นว่า รัฐบาลไม่มีความสามารถ หรือกำลังมากพอ ที่จะใช้จ่ายเงินมากถึง 3,752,700 ล้านบาท เนื่องจากงบประมาณ และประมาณการรายได้ ถูกประมาณการตั้งแต่ปี 2566 ที่ประมาณว่า เศรษฐกิจจะเติบโต แต่เหตุการณ์เปลี่ยนแปลงไปตั้งแต่เดือนธันวาคม 2566 ที่เศรษฐกิจมีแนวโน้มชะลอตัวลง ซึ่งส่งผลกระทบต่อการจัดเก็บรายได้ได้ และการตั้งเป้าจัดเก็บภาษีของกรมสรรพสามิตในปี 2568 ในวงเงิน 609,700 ล้านบาท หากยังไม่มีการปรับเปลี่ยนท่าทีต่อการเปลี่ยนอัตราภาษีของบุหรี่ เพื่อทำให้จัดเก็บภาษีได้มากขึ้น ก็ไม่มีทางที่จะสามารถจัดเก็บรายได้ตามเป้าหมาย และเพื่อการระมัดระวัง และสถานการณ์ไม่แน่นอนในอนาคต จึงขอปรับลดงบประมาณรัฐบาลในปี 2568 ลง

 

แต่ท้ายที่สุด ที่ประชุมฯ ก็มีมติเสียงข้างมาก 267 เสียง ต่อ 147 เสียง เห็นชอบกรอบวงเงินงบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบประมาณ 2568 จำนวน 3,752,700 ล้านบาท ตามที่คณะรัฐมนตรีเป็นผู้เสนอมาในวาระแรก โดยกรรมาธิการฯ เสียงข้างมากไม่มีการปรับแก้

 

:: สภาฯ ไฟเขียวงบกลางฯ 1.87 แสนล้าน “ศิริกัญญา” ฉะ รัฐบาลเบี้ยวจ่ายหนี้รัฐ 3.5 หมื่นล้าน โยกอัดฉีดเศษฐกิจผ่านดิจิทัลวอลเล็ตทั้งที่ยังไม่รู้รายละเอียดโครงการ – “จุลพันธ์” แย้มเตรียมแจงรายละเอียด “ดิจิทัลวอลเล็ต” หลังรัฐบาลแถลงนโยบาย ::

 

นอกจากนั้น ที่ประชุมฯ ยังมีมติเสียงข้างมาก 265 เสียง ต่อ 154 เสียง ให้ความเห็นชอบในมาตรา 6 งบประมาณรายจ่ายงบกลางกว่า 842,000 ล้านบาท ตามที่คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบประมาณ 2568 เสียงข้างมากปรับแก้ โดยกรรมาธิการฯ ได้การเปลี่ยนแปลงงบประมาณสำหรับการชำระหนี้ จากธนาคารของรัฐ 5 แห่งราว 35,000 ล้านบาท ไปใส่ไว้ในงบกลางสำหรับการกระตุ้นเศรษฐกิจ ทำให้รัฐบาลมีงบกลางสำหรับการกระตุ้นเศรษฐกิจกว่า 187,700 ล้านบาท จากเดิมที่คณะรัฐมนตรีเสนอมาในวาระแรก 152,700 ล้านบาท

สภาฯ พิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ 2568 วาระที่ 2 ต่อเนื่องวันที่ 2 เริ่มงบฯ กษ.

อย่างไรก็ตาม นางสาวศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะกรรมาธิการงบประมาณฯ เสียงข้างน้อย เสนอให้ตัดลดงบกลางนายกรัฐมนตรีออก 152,700 ล้านบาท เนื่องจากงบประมาณส่วนหนึ่ง รัฐบาลนำมาจากการชักดาบ เบี้ยวหนี้ธนาคารของรัฐ 35,000 ล้านบาท มาใส่ในงบกลางฯ สำหรับการกระตุ้นเศรษฐกิจ โครงการดิจิทัลวอลเล็ต โดยให้นำกลับไปชำระหนี้ธนาคารรัฐตามเดิม เพราะเห็นว่า ปัจจุบันยังไม่มีคณะรัฐมนตรี และยังไม่มีการแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา จึงยังไม่มีความชัดเจนในรายละเอียดโครงการ ดังนั้น จึงไม่ทราบว่า เหตุใดสภาฯ จะต้องอนุมัติงบประมาณกระตุ้นเศรษฐกิจนี้ให้กับรัฐบาลที่ยังจัดตั้งไม่เสร็จสิ้น รวมถึงงบประมาณ 35,000 ล้านบาทที่รัฐบาลชักดาบหนี้ธนาคารรัฐ ก็ยังไม่เพียงพอสำหรับงบประมาณการแจกดิจิทัลวอลเล็ตในส่วนที่เหลืออีก จึงตั้งข้อสงสัยว่า เหตุใดรัฐบาลถึงต้องไปตัดงบชำระหนี้ของธนาคารรัฐมาก่อน และเสนอว่า ควรรอแถลงนโยบายฯ ให้จบก่อน แล้วค่อยออกเป็นพระราชบัญญัติโอนงบประมาณ ตัดลดงบประมาณจากกระทรวงต่าง ๆ มาจ่ายเข้าสู่โครงการจะดีกว่า

 

นางสาวศิริกัญญา ยังระบุอีกว่า งบประมาณ 35,000 ล้านบาท ที่รัฐบาลเบี้ยวหนี้ธนาคารรัฐ มาใส่ในงบกลางกระตุ้นเศรษฐกิจนี้ ในชั้นอนุกรรมาธิการ ไม่มีอนุฯ ใดเสนอตัดงบประมาณในการชำระหนี้ให้กับธนาคารรัฐ แต่หลังจากการพิจารณารายงานอนุกรรมาธิการเสร็จสิ้นแล้ว กลับมีมติคณะรัฐมนตรีเพิ่ม ขอเปลี่ยนแปลงงบประมาณ 35,000 ล้านบาทดังกล่าว จึงไม่ทราบว่า รัฐบาลจะรีบเปลี่ยนแปลงงบประมาณทำไม ทั้งที่ยังไม่ทราบว่าจะเดินหน้าโครงการอย่างไร

 

ขณะที่ นายวีระ ธีระภัทรานนท์ กรรมาธิการฯ เสียงข้างน้อย สัดส่วนจากพรรคก้าวไกล ได้ เสนอให้ตัดงบกลางออกทั้งหมด เพราะการเปลี่ยนแปลงงบประมาณจากการชำระหนี้ธนาคารรัฐวิสาหกิจ 5 แห่ง มาไว้ในงบกลางการกระตุ้นเศรษฐกิจนี้ ไม่สมเหตุผลและยังไม่มีความจำเป็น เพราะขณะนี้ เกิดความสับสนในเป้าหมาย และวิธีการของรัฐบาล ในการดำเนินโครงการดิจิตอลวอลเล็ต ซึ่งรัฐบาล จะมีการแจกเป็นเงินสดให้กับกลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐในเดือนกันยายนนี้ ดังนั้น หากจะต้องดำเนินการเป็นการจ่ายเงินสด นั่นหมายความว่า โครงการดิจิทัลวอลเล็ตถือว่า ยกเลิกไปโดยพฤตินัยแล้วหรือไม่ แม้จะยังไม่ได้มีการระบุว่า การกระตุ้นเศรษฐกิจสำหรับงบประมาณปี 68 จะออกมาในรูปแบบไหน จึงเห็นว่า สส.ควรทบทวนในการอนุมัติงบกลางนี้เพื่อให้สอดคล้องกับสิ่งที่รัฐบาลจะดำเนินการต่อ

 

ด้าน นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการฯ เสียงข้างมาก ชี้แจงกรณีที่กรรมาธิการเสียงข้างน้อย ตั้งข้อสังเกตการจัดตั้งรัฐบาลยังไม่เสร็จสิ้น และรายละเอียดโครงการดิจิทัลวอลเล็ตยังไม่ชัดเจน เหตุใดจึงจะต้องอนุมัติงบกลางการกระตุ้นเศรษฐกิจให้รัฐบาลก่อนว่า ในความชัดเจนการดำเนินโครงการดิจิทัลวอลเล็ตนั้น นางสาแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้ยืนยันแล้วว่า จะยังคงเดินหน้าโครงการต่อ แต่อาจมีการปรับเปลี่ยนในรายละเอียดโครงการ ดังนั้น เมื่อมีการแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภาเสร็จสิ้นแล้ว ก็จะมีการชี้แจงรายในรายละเอียดที่ชัดเจนต่อไป แต่ยืนยันว่า งบประมาณฯ 2567 เพิ่มเติม รวมถึงงบกลาง จากงบประมาณฯ 2568 จะได้ใช้ประโยชน์ และถึงมือประชาชนทั้งจำนวน เพื่อเป็นกลไกการกระตุ้นเศรษฐกิจ ผ่านโครงการดิจิทัลวอลเล็ตต่อไป

 

นายจุลพันธ์ ยังยืนยันด้วยว่า การเปลี่ยนแปลงงบประมาณก้อนนี้ ชอบด้วยกฎหมายทุกประการตามกฎหมายวินัยการเงินการคลังของรัฐ ซึ่งแม้ในขั้นตอนการรับหลักการของสภาผู้แทนราษฎรจะได้มีการเตรียมงบประมาณไว้สำหรับการชำระหนี้ให้กับธนาคารรัฐ 5 แห่ง แต่การเสนอเปลี่ยนแปลงงบประมาณนี้ ก็เป็นการเปลี่ยนแปลงตามความเห็นการทบทวนงบประมาณของธนาคารรัฐ ที่เห็นว่า สามารถชะลอได้ เพื่อให้รัฐบาลนำไปกระตุ้นเศรษฐกิจก่อน

 

:: มติสภาฯ เห็นชอบงบฯ รายกระทรวงตามการปรับแก้ของ กมธ.เสียงข้างมาก ::

ขณะที่ การพิจารณางบประมาณสำนักนายกรัฐมนตรี, งบประมาณกระทรวงกลาโหม กระทรวงการคลัง, กระทรวงการต่างประเทศ, กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และกระทรวงการอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรม ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ก็มีมติเสียงข้างมาก ให้ความเห็นชอบงบประมาณในวาระที่ 2 ตามการปรับแก้ของคณะกรรมาธิการฯ เสียงข้างมาก

 

:: เช็กมติงบฯ 68 - “พปชร.” แตก 2 ขั้วชัดเจน – “ปชป.” หันลงมติหนุนรัฐบาลเพื่อไทยเรียบร้อย ::

 

 

ทั้งนี้ ในการลงมติร่างงบประมาณฯ แต่ละมาตรา หลังพรรคเพื่อไทย มีมติขับพรรคพลังประชารัฐ ออกจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาล และดึงพรรคประชาธิปัตย์ เข้าร่วมรัฐบาลนั้น พบว่า ในการลงมติของ สส.พรรคพลังประชารัฐ ได้แบ่งออกเป็น 2 กลุ่มชัดเจน เช่น ในการลงมติร่างงบประมาณฯ มาตราที่ 4 กรอบวงเงินงบประมาณ ปี 2568 วงเงิน 3,752,700 ล้านบาทนั้น สส.กลุ่มของร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยาของพรรคฯ ในฐานะเลขาธิการพรรคฯ อาทิ นายจีรเดช ศรีวิลาส สส.พะเยา, นางบุญยิ่ง นิติกาญจนา สส.ราชบุรี, นางรัชนี พลซื่อ สส.ร้อยเอ็ด ได้ลงมติให้ความเห็นชอบกับกรอบวงเงินดังกล่าว นอกจากนั้น ร้อยเอกธรรมนัส ยังได้นำกลุ่ม สส.ในสังกัด ไปนั่งประชุมบริเวณที่นั่ง สส.ของพรรคเพื่อไทยด้วย 

สภาฯ พิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ 2568 วาระที่ 2 ต่อเนื่องวันที่ 2 เริ่มงบฯ กษ. สภาฯ พิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ 2568 วาระที่ 2 ต่อเนื่องวันที่ 2 เริ่มงบฯ กษ. สภาฯ พิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ 2568 วาระที่ 2 ต่อเนื่องวันที่ 2 เริ่มงบฯ กษ. สภาฯ พิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ 2568 วาระที่ 2 ต่อเนื่องวันที่ 2 เริ่มงบฯ กษ.

ภาพ NATION PHOTO : กอบภัค พรหมเรขา

 

สวนทางกับ สส.กลุ่มพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อของพรรคฯ ในฐานะหัวหน้าพรรคฯ ที่ได้ลงมติไม่เห็นด้วย อาทิ นายโชติวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ สส.สิงห์บุรี, นางวันเพ็ญ พร้อมพัฒน์ สส.เพชรบูรณ์ และนายทวี สุระบาล เป็นต้น โดยที่พลเอกประวิตร ไม่ได้มาประชุม

 

ขณะที่ การลงมติของพรรคประชาธิปัตย์ ภายหลังเข้าร่วมรัฐบาลนั้น สส.ส่วนใหญ่ของพรรคฯ ก็ได้ลงมติให้ความเห็นชอบมาตราที่ 4 กรอบวงเงินงบประมาณ ตามพรรคร่วมรัฐบาล