29 สิงหาคม 2567 ที่พรรคประชาธิปัตย์ การประชุมระหว่างกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ และ สส. ในเวลา 19.30 น. เพื่อพิจารณายืนยันมติของ กก.บห. ที่มีมติเอกฉันท์มาก่อนหน้านี้ว่า ให้ร่วมรัฐบาล พร้อมเสนอชื่อนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรค ให้เป็นรัฐมนตรีว่ากระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) และนายเดชอิศม์ ขาวทอง เลขาธิการพรรค ให้เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ตามโควตาที่เพื่อไทยจัดให้ โดยมีการอภิปรายอย่างกว้างขวาง ทั้งสนับสนุนว่า เพื่อให้ประเทศเดินหน้าต่อ และเร่งสร้างผลงานกอบกู้พรรค เชื่อว่าจะเป็นโอกาสที่จะทำให้พักฟื้นขึ้นได้
ขณะที่ฝ่ายคัดค้านให้เหตุผลว่า พรรคต่อสู้กับระบอบทักษิณ ที่มีการเลือกปฎิบัติ แบ่งแยกประชาชน มีการทุจริตการคอร์รัปชัน เอื้อประโยชน์ให้พวกพ้องและกลุ่ม สร้างความเสียหายให้ประเทศ ถึงขั้นต้องหนีออกนอกประเทศ และปัจจุบันระบอบนี้ก็ยังอยู่ ซึ่งการจะเข้าร่วมถือเป็นการละทิ้งอุดมการของพรรค และการละเลยฐานเสียงสนับสนุนพรรคจะทำให้ฐานเสียงผู้สนับสนุนพรรคน้อยลง เสมือนทำการเมืองแบบไม่รับผิดชอบ
ทั้งนี้ การประชุมร่วมใช้เวลากว่า 3 ชั่วโมง ก่อนที่นายเฉลิมชัยจึงได้ขอให้ที่ประชุมมีมติว่า จะรับรองมติของ กก.บห.ในการเข้าร่วมรัฐบาลหรือไม่อย่างไร ผลปรากฏว่าที่ประชุมมีมติ 43 เสียง ให้พรรคประชาธิปัตย์เข้าร่วมรัฐบาลและเสนอบุคคลทั้ง 2 ดำรงตำแหน่งทางการเมืองในรัฐบาลเพื่อไทยต่อไป
ขณะที่ คนที่ไม่เห็นด้วยมีจำนวน 4 เสียง ประกอบด้วย นายชวน หลีกภัย , นายบัญญัติ บรรทัดฐาน , นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ , นายสรรเพชญ บุญญามณี , งดออกเสียง 2
“ชวน” ปัดลงความเห็นหลัง ปชป.มีมติ ร่วมรัฐบาลเพื่อไทย
ภายหลัง นายชวน หลีกภัย สส.บัญชีรายชื่อ ปฏิเสธการตอบคำถามสื่อมวลชน โดยกล่าวสั้นๆ พร้อมยิ้มว่า ขอให้รอฟังแถลงมติที่ประชุมพรรค ส่วนที่ประชุมมีการแสดงความคิดเห็นอย่างกว้างขวางใช่หรือไม่ นายชวน กล่าวย้ำคำเดิมว่า ขอให้รอฟังการแถลงจากกรรมการบริหารพรรคดีกว่า ไม่มีอะไรในที่ประชุม มีการให้แสดงความเห็น ก็เป็นอย่างที่รู้กันอยู่
“สรรเพชร” บอกจบเสียทีไม่ต้องคาราคาซัง ถูกมองเป็นพรรคอะไหล่
ขณะที่ นายสรรเพชร บุญญามณี สส.สงขลา กล่าวว่า วันนี้ที่ประชุมคุยกันฉันท์พี่น้อง จนเป็นมติพรรคออกมา เมื่อถามว่าในฐานะที่เราเป็นคนรุ่นใหม่ และคัดค้านการร่วมรัฐบาล ผลออกมาเช่นนี้ เป็นที่ยอมรับใช่หรือไม่ นายสรรเพชร กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์อยู่ได้ก็ด้วยมติพรรค เนื่องจากเป็นสถาบันทางการเมือง วันนี้ถือว่าทุกคนได้แสดงความคิดเห็นอย่างตรงไปตรงมา และใครมีอะไรในใจก็ได้พูดออกมา ในฐานะที่เราเป็นครอบครัวพรรคประชาธิปัตย์
แต่จะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยผิดถูกอย่างไร เชื่อว่าประชาชนจะเป็นคนตัดสินในอนาคต แต่สำคัญที่สุดคือไม่มีใครผิดหรือถูก ซึ่งทุกคนอยากเห็นพรรคไปข้างหน้า และมีเอกภาพ ดังนั้นการได้แสดงความคิดเห็นอย่างตรงไปตรงมา จึงได้มีการลงมติ และเห็นชอบว่าจะเข้าร่วมรัฐบาล
ส่วนท้อหรือไม่นั้น นายสรรเพชร กล่าวว่า เป็นการรักษาจุดยืน ของพรรคและรักษาเกียรติภูมิ ศักดิ์ศรี และสัจจะจุดยืนของพรรคที่เคยให้กับประชาชน ซึ่งวันนี้ก็ไม่มีการเปลี่ยนแปลง และไม้ได้เป็นเรื่องของความขัดแย้ง หรือสู้รบกับใคร แต่เป็นการต่อสู้กันทางความคิด และอุดมการณ์ เป็นเรื่องของผิดและถูก สิ่งไหนถูกก็ว่าถูก สิ่งไหนผิดจะว่าถูกไม่ได้ วันหนึ่งเคยพูดไว้อย่างหนึ่ง แล้ววันนี้ ถ้าทำอีกอย่างหนึ่ง ก็คงจะกลับไปในพื้นที่ และมองหน้าประชาชนที่เลือกตนเองมาไม่ได้ คือสิ่งที่ตัวเองได้เรียนไป แต่สุดท้ายก็จบแล้ว และเป็นไปตามมติของพรรค จะชอบหรือไม่ชอบก็ถือว่า เป็นมติที่ตัวแทนของประชาชน ได้เลือกทางที่คิดว่าเหมาะสมที่จะเข้าร่วมรัฐบาล และเป็นไปตามคณะกรรมการบริหารพรรค
ส่วนจะทำงานยากในพื้นที่หรือไม่หลังจากนี้ นายสรรเพชร กล่าวว่า ถ้าในแง่ของการทำหน้าที่ สส. และนิติบัญญัติตลอด 1 ปีที่ผ่านมา ก็ได้ทำหน้าที่มาโดยตลอด และได้ทำหน้าที่อย่างหนัก พร้อมผลักดัน โครงการและกฎหมายที่คิดว่ามีประโยชน์ และส่งผลดีกับประชาชน และในพื้นที่ก็พยายามผลักดันโครงการต่างๆ ที่จะสามารถทำได้ในขอบเขตของ สส.ตามที่กฎหมายกำหนดไว้ หลังจากนี้ก็เป็นหน้าที่ของกรรมการบริหารพรรค ที่จะได้ชี้แจงรายละเอียดต่อไป
ดีใจที่เรื่องนี้จบได้เสียที จะได้ไม่ต้องคาราคาซังกัน จะได้ชัดเจน หมดคำว่าเป็นพรรคอะไหล่แล้ว