svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

"ไพบูลย์" พปชร.สบายดี แม้ พท.เขี่ยทิ้ง ห่วงนายกฯอิ๊งค์กว่า

"ไพบูลย์" ยัน "พลังประชารัฐ" สบายดีไม่น่าห่วง หลังโดน "เพื่อไทย" เขี่ยพ้นพรรคร่วมรัฐบาล ชี้ ควรห่วงนายกฯอิ๊งค์มากกว่า หากผิดคำมั่น สังคมอาจครหา

29 สิงหาคม 2567 ที่พรรคพลังประชารัฐ กทม. นายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ แถลงข่าวร่วมกับกรรมการบริหารพรรคถึงผลการประชุม ว่า วันนี้ที่ประชุมได้มีมติ กำหนดการประชุมใหญ่วิสามัญของพรรคพลังประชารัฐครั้งที่ 2/2567 ที่กำหนดให้การประชุมใหญ่วันที่ 6 กันยายน 2567 เวลา 10.30-13.00 น.ที่สำนักงานพรรคพลังประชารัฐ  โดยจะมีการพิจารณา แต่งตั้งกรรมการบริหารพรรคเพิ่มเติม และแต่งตั้งกรรมการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้งเพิ่มเติม เพราะมีการลาออกกันไปหลายคน จึงต้องเพิ่มเติมให้ครบถ้วน

ทั้งนี้ในที่ประชุมตนได้มีการแจ้งในที่ประชุม ว่ามีปรากฏตามข่าว ว่าทางพรรคเพื่อไทยมีมติไม่ให้พรรคพลังประชารัฐร่วมรัฐบาล จึงฝากไปบอกพรรคเพื่อไทยว่า ไม่ต้องออกมติใดๆเกี่ยวกับพรรคพลังประชารัฐ เพราะเรื่องของพรรคพลังประชารัฐไม่เกี่ยวอะไรกับเพื่อไทย แต่เกี่ยวตรงกับนายกรัฐมนตรี ในเรื่องของการที่นายกรัฐมนตรี ให้สัญญาประชาคมหรือข้อตกลงร่วมกัน ว่าการที่นายกรัฐมนตรี ได้มีคำมั่นกับพรรคพลังประชารัฐ ที่แสดงออกต่อสื่อสาธารณะ ว่าจะให้พรรคพลังประชารัฐลงมติเห็นชอบ ให้เป็นนายกรัฐมนตรี และให้คำมั่นไว้ว่าจะให้พรรคพลังประชารัฐได้มีที่นั่งในคณะรัฐมนตรีด้วยตามสัดส่วนเดิม และตำแหน่งเดิม พรรคพลังประชารัฐจึงได้มีการออกเสียงสนับสนุน ให้เป็นนายกรัฐมนตรี 39 เสียง ซึ่งพรรคพลังประชารัฐ ก็ได้ตอบสนองตามคำมั่นที่นายกรัฐมนตรีได้ให้ไว้ ดังนั้น จึงเป็นเรื่องที่นายกรัฐมนตรีต้องดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ 
 

นายไพบูลย์ ได้ยกกฎหมายตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 362 บัญญัติว่าบุคคลออกโฆษณาให้คำมั่น ว่าให้รางวัลแก่ผู้ ซึ่งกระทำการอันใดก็จำต้องให้รางวัลใดใดผู้ได้กระทำการอันนั้นแม้ถึงไม่ใช่ว่าผู้นั้นจะกระทำการโดยเห็นแก่รางวัล ซึ่งกรณีนี้นายกรัฐมนตรีได้ให้คำมั่นและเมื่อให้คำมั่นแล้ว ก็ได้มีการประกาศว่าพรรคพลังประชารัฐเป็นพรรคร่วมรัฐบาลก็ถือว่าครบตามคำมั่นแล้ว 

"พรรคเราสบายมาก หัวหน้าพรรคมีความสุข มีความเข้มแข็งและแน่วแน่ที่จะดูแลพรรคพลังประชารัฐในฐานะหัวหน้าพรรคไปตลอด ไปจนไม่ไหว ดังนั้น เรื่องที่เกิดขึ้นท่านเฉยๆมาก และในที่ประชุมไม่ได้พิจารณาเรื่องเหล่านี้เลย เพราะไม่มีอะไรน่าห่วง แต่ที่น่าห่วงคือนายกรัฐมนตรีมากกว่า เพราะการให้คำมั่นมาแล้วทำครบถ้วนสมบูรณ์แบบแล้ว นายกรัฐมนตรีเล่นไม่ปฏิบัติตามตามคำมั่น วิญญูชนโดยทั่วไปเขาก็จะว่าได้ ว่านายกฯอาจจะขาดความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์หรือไม่ ผมว่าความเป็นห่วง น่าจะเป็นนายกรัฐมนตรีมากกว่า เพราะเรื่องความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์เป็นเรื่องสำคัญ"นายไพบูลย์กล่าว

นายไพบูลย์ ยังยกคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญกรณีนายเศรษฐา ทวีสิน ที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า ผู้ถูกร้องที่ 1 รู้หรือควรรู้ถึงข้อเท็จจริงต่างๆของพฤติกรรมต่างๆของผู้ถูกร้องที่ 2 แต่ยังเสนอแต่งตั้งผู้ถูกร้องที่ 2 ให้เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แสดงให้เห็นว่าผู้ถูกร้องที่ 1 ก็หมายถึงนายกคนที่แล้ว ไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ ก็ขาดคุณสมบัติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 160 (4) และขาดคุณสมบัติข้อนี้ก็เป็นการฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมด้วย ซ้อมย้ำว่าตนแค่ให้ข้อมูลข้อกฎหมายเฉยๆ

ส่วนการที่ยกข้อกฎหมายมาแบบนี้หาก นายกรัฐมนตรีไม่ทำตามคำมั่นพรรคพลังประชารัฐจะใช้ข้อกฎหมายดำเนินการหรือไม่ นายไพบูลย์ กล่าวว่าพรรคพลังประชารัฐเป็นพรรคผู้ใหญ่ไม่ไปทำอะไรอย่างนั้น เราเพียงแค่บอก ถึงคำมั่น ที่ไม่ต้องมีสัญญาหรือลงลายมือชื่อเป็นการแสดงเจตนาเท่านั้น 

"ขอถามกลับนายกรัฐมนตรี ถ้ามีคำมั่นแล้วไม่ปฏิบัติตามคำมั่นก็จะเป็นข้อครหา
สังคมอาจจะติเตือน แต่พรรคพลังประชารัฐก็ไม่ได้หวังว่าจะต้องเปลี่ยนอะไร หากทำไปแล้วก็ทำให้จบ เพราะพรรคพลังประชารัฐมั่นคง และพร้อมที่จะทำหน้าที่ทุกอย่างเพื่อเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติและเป็นประโยชน์ต่อประชาชน ด้วยการดำเนินการของสส.ของพรรค อย่างมั่นคงสถาพรตลอดไป"นายไพบูลย์กล่าว

นายไพบูลย์ ยังย้ำว่า เป็นห่วงนายกรัฐมนตรี อย่ามาห่วงพรรคพลังประชารัฐเลย และย้ำว่ามติพรรคเพื่อไทยเราไม่ได้เกี่ยวอะไรกับพรรคท่าน เราเกี่ยวกับนายกรัฐมนตรี 

ทั้งนี้ ถ้าไม่มีการแต่งตั้งคนของพรรคพลังประชารัฐตามคำมั่น ก็ไปเป็นฝ่ายค้านไม่เห็นเป็นไรเป็นฝ่ายค้านจะเสียหายตรงไหน ถ้าไปอยู่ร่วมกับนายกรัฐมนตรีที่ไม่ทันไรก็มีปัญหาเรื่องคำมั่นแล้ว พรรคจะเสียชื่อประชาชนจะมองเราในด้านไม่ดี

ส่วนปัญหาภายในพรรค พลังประชารัฐนั้นนายไพบูลย์กล่าวว่า เป็นปัญหาในครอบครัวของพรรคพลังประชารัฐ คนอื่นไม่อยากให้เกี่ยว ในพรรคเป็นพี่เป็นน้องสนิทสนมกันมาตลอดเป็นครอบครัวเดียวกันดังนั้นเราก็คุยกันได้อย่างมีความสุขอยู่แล้วไม่ต้องมาห่วงเรา

สำหรับการประชุมใหญ่ของพรรคจะมีการขับร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า หรือไม่ นายไพบูลย์ กล่าวด้วยน้ำเสียงสูงว่า ไม่มีใครจะไปขับครอบครัวเรา เรามีความสุขที่อยู่ด้วยกัน และมีการพูดคุยกัน เป็นเรื่องของครอบครัวเราของพรรคพลังประชารัฐ

ส่วนที่มีกระแสข่าวว่าคนบ้านป่าฯมีคลิปวีดีโอที่คนบ้านจันทร์ฯเรียกรัฐมนตรีไปหารือ ในวันที่นายเศรษฐา หลุดออกจากนายกรัฐมนตรีจริงหรือไม่ นายไพบูลย์กล่าวว่า ไม่ทราบ ถึงทราบก็ไม่รู้จะบอกทำไม ตอนนี้ก็ถือว่าไม่ทราบ