29 สิงหาคม 2567 ศ.ดร.ไชยันต์ ไชยพร นักรัฐศาสตร์ มองกลยุทธ์ทางการเมืองของ นายทักษิณ ทำให้ธรรมชาติของระบบพรรคการเมืองไทยเปลี่ยนแปลงไป - ประเทศไทยเป็น “ระบบหลายพรรค” มาตลอด ทั้งก่อนและหลังมี พ.ร.บ.พรรคการเมือง พ.ศ.2498 ซึ่งเป็นกฎหมายพรรคการเมืองฉบับแรกของไทย
ยกตัวอย่างเช่น พรรคแนวรัฐธรรมนูญ พรรคสหชีพ และพรรคอิสระ สามพรรคนี้อยู่ภายใต้ผู้นำคนเดียว คือ ปรีดี พนมยงค์ แม้ 3 พรรค นักการเมือง 3 กลุ่มจะเข้ากันไม่ได้ เช่น ประเด็นอุดมการณ์การเป็นเสรีไทย ในสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่ยอมรับผู้นำคนเดียวกัน และสนับสนุนให้ปรีดีเป็นผู้นำ ยุค จอมพล ป. จอมพลสฤษดิ์ ก็เป็นแบบนั้น
แต่นายทักษิณ เมื่อปี 2544 ทำให้นโยบายของไทยรักไทยเป็นที่นิยมของชนชั้นกลาง ทำให้ได้คะแนนเสียงสูงสุด และทำลายระบบหลายพรรคในเวลาต่อมา กระทั่งถึงปี 2548 ก็ปฏิบัติการควบรวมหลายพรรคเข้ามาเป็นพรรคเดียว คือไทยรักไทย และได้ สส.มากถึง 377 เสียง
และปี 2554 พรรคเพื่อไทยก็ได้ สส.เกินครึ่ง ผลคือ ทำให้ระบบหลายพรรคอ่อนตัวลง โดยปัจจุบันนายทักษิณกลับมามีบทบาททางการเมืองอีกครั้ง และกำลังจะฟื้นการทำลายระบบหลายพรรค และทำให้พรรคของตนเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลได้อย่างมั่นคง แน่นอน
โจทย์ของนายทักษิณคือ ทำทุกอย่างให้พรรคก้าวไกล หรือพรรคประชาชน ได้ สส.ไม่ถึง 250 เสียง หรือแม้เพื่อไทยได้ที่ 2 แต่ก็ต้องรวมเสียงให้ได้เกิน 250 เป็นที่สองยังโอเค แต่ถ้าเป็นที่ 1 ได้จะดีที่สุด แม้จะไม่เกิน 250 ก็ตาม ประเมินจากสถานการณ์การเมือง ณ เวลานี้ หากพรรคใดต้องการ สส.เกิน 250 เสียง ต้องบอกว่ายากมาก ไม่ว่าจะเป็นเพื่อไทย หรือพรรคประชาชน ก็ตาม
ดังนั้นยุทธศาสตร์ของนายทักษิณ คือ เชื้อเชิญ ใช้ผลประโยชน์แลก หรือกดดันให้พรรคการเมืองอื่นมารวมกับพรรคตนให้มากที่สุด โดยต้องทำทุกวิถีทาง รวมทั้งสร้างความแตกแยกให้พรรคอื่น ตัวอย่างที่เห็นตอนนี้คือ พลังประชารัฐโดนย่อยสลายแล้ว และกำลังดึง “ปีกผู้กอง” มาร่วมกับตน รวมถึง สส.ที่ยังอยู่สายบ้านป่าด้วย และคิวต่อไปอาจจะเป็นรวมไทยสร้างชาติ
แต่ภูมิใจไทย เป็นไปไม่ได้ที่จะควบรวม เพราะภูมิใจไทยมีความแข็งแกร่งขึ้นมาก และมีโอกาสเบียดแทรกขึ้นมาเป็นพรรคต้นขั้วมากขึ้น ดังนั้นกลยุทธ์ของเพื่อไทย หรือนายทักษิณ คือ ควบรวมพรรคต่างๆ หลังปั่นให้แตก เพื่อดูด-ดึง สส. ขณะเดียวกันก็ “ผูกเสี่ยว” กับภูมิใจไทยให้แน่นหนา ถ้าพรรคประชาชนยังชูนโยบายว่าจะแก้ไขมาตรา 112 ภูมิใจไทยก็ไปร่วมด้วยไม่ได้ เพราะประกาศสัญญาประชาคมไว้แล้ว
อ.ไชยันต์ มองว่า แม้โอกาสของเพื่อไทยจะเปิดกว้าง แต่ปัญหาและอุปสรรคก็มีอยู่เช่นกัน
อ.ไชยันต์ ยอมรับว่า ปัญหาที่พูดมาทั้งหมด นายทักษิณก็ทราบดี และน่าจะหาวิธีแก้เอาไว้