นายไชยชนก ชิดชอบ เลขาธิการพรรคภูมิใจไทย แถลงผลการประชุมพรรค ว่า หลังจากที่เราไปร่วมประชุมร่วมรัฐบาลเมื่อวานนี้สาระสำคัญคือ ตำแหน่งรองประธานสภาผู้แทนราษฎร และการแสดงความเห็น ร่างพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. .... หรือ “เอ็นเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์” ที่ทางรัฐบาลส่งมาให้พิจารณา
ซึ่งจากการพิจารณาแล้วร่างกฎหมายเอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ ในเบื้องต้น พรรคภูมิใจไทยไม่เห็นด้วย โดยมี 3-4 ประเด็นที่ยังกังวลอยู่ ก็ได้แจ้งไปแล้ว คือ
1.ร่างกฎหมายนี้ ไม่ได้แก้ปัญหาการพนันผิดกฎหมาย และอาจทำให้มีทั้งการพนันใต้ดินบนดิน
2.เรื่องผลประโยชน์ต่อรัฐและต่อประชาชน รู้สึกว่ายังไม่ค่อยชัดเจน ยังไม่มากพอสำหรับการลงทุนทำเรื่องนี้
3.ผลกระทบในเชิงขับเคลื่อนและกระตุ้นการท่องเที่ยว ก็ไม่มั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์ว่าการทำคาสิโน จะเป็นสิ่งที่ทำให้เกิดการกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศไทย เพราะมีหลายสิ่งที่เป็นเสน่ห์ของนักท่องเที่ยว แต่การพนันก็ไม่ใช่ 1 ในนั้น
4.เนื้อหาในร่าง ยังไม่เห็นมาตราไหนที่ระบุเรื่องของการอำนวยช่วยเหลือ หรือดูแลแรงงานชาวไทย ในการจ้างงาน
ทั้งนี้ เชื่อว่าพรรคคาวมรัฐบาลก็มีการแสดงความคิดเห็นเช่นกัน ก็ต้องรอดูว่ารัฐบาลจะนำประเด็นเหล่านี้ไปพิจารณาอย่างไร
เมื่อถามว่า เรื่องคาสิโน ได้ดูภาพรวมหรือไม่ ว่าใครได้ประโยชน์ นายไชยชนก บอกว่า เรื่องประโยชน์เท่าที่ดูยังไม่ได้ตกสู่ประชาชน จึงได้ส่งคอมเม้นต์ความเห็นไปแล้ว ก็รอดูว่าจะเป็นอย่างไรต่อ
เมื่อถามว่า ติดใจเรื่องการเขียนกฎหมาย ที่กำหนดให้บริษัทที่จะได้รับงานต้องมีทุนจดทะเบียน 1 หมื่นล้านบาท ถึงเป็นถือเป็นการกีดกันบริษัทอื่นหรือไม่ นายภราดร บอกว่า ขอให้ดูภาพรวมดีกว่า อย่างที่นายไชยชนก ระบุ 4 ประเด็น คือ แก้โจทย์การพนันใต้ดินได้หรือไม่ รายได้ที่คาดหวังว่าจะเป็นรายได้อีกช่องทางหนึ่งหรือไม่ จะกระตุ้นแรงงานคนไทยในประเทศได้มีงานทำมากขึ้นหรือไม่ และ คาสิโนคือจุดดึงดูดนักท่องเที่ยวได้หรือไม่
นายไชยชนก กล่าวย้ำว่า ตอนนี้อย่ามองไปถึงเรื่องนายทุนได้ประโยชน์อย่างไร เราสโคปใน 4 ประเด็นนี้ ซึ่งเราได้รับโจทย์มาจากรัฐบาลว่าให้พรรคการเมืองแต่ละพรรคมาคอมเม้นต์ก่อน จึงนำเข้าที่ประชุมพรรควันนี้ พร้อมยืนยันว่าไม่ได้เป็นการหักกับรัฐบาลแต่เป็นการเสนอความเห็นทางการเมือง
นอกจากนี้ พรรคภูมิใจไทย ยังมีมติเอกฉันท์ส่ง นายภราดร ปริศนานันทกุล สส.อ่างทอง และรองหัวหน้าพรรคพรรคภูมิใจไทย ชิงตำแหน่งรองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 โดยมีทั้งผลงานในฝั่งการเมือง และในพื้นที่เด่นชัด มีคุณสมบัติและความสามารถที่เหมาะสม
ส่วนจะพูดคุยกับทางวิปรัฐบาลว่าจะเลือกเมื่อไรนั้น นายไชยชนก กล่าวว่า ตรงนี้ไม่ติดขัดว่าจะเลือกเมื่อไร แต่ทางพรรคชัดเจนว่าแคนดิเดตจะเป็น นายภราดร เพียงคนเดียว ซึ่งได้มีการแจ้งไปแล้ว ส่วนจะเลือกเมื่อไรขอให้เป็นมติทางวิปรัฐบาล
ส่วนคาดหวังว่าต้องให้เร็วที่สุดหรือไม่ นายไชยชนก กล่าวว่า ในเชิงการปฎิบัติหน้าที่ก็คงจะดี แต่ก็ไม่น่าจะเป็นปัญหา หากเป็นอาทิตย์นี้ หรืออาทิตย์หน้าก็ไม่มีความกังวลใดๆ และเมื่อ นายภราดร เป็นแคนดิเดตรองประธานสภาคนที่ 1 ก็จะต้องลาออกจากตำแหน่งของพรรคทุกตำแหน่ง รวมถึงประธานกรรมาธิการในสภาด้วย