7 สิงหาคม 2567 ที่พรรคก้าวไกล เมื่อเวลา 18.12 น. นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ นายชัยธวัช ตุลาธน น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล พร้อม สส.ทั้งหมด ร่วมกันแถลงข่าวภายหลังศาลตัดสินยุบพรรค และตัดสิทธิทางการเมืองกรรมการบริหาร โดย นายชัยธวัช บอกว่า คำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ ที่ตัดสินว่าพรรคก้าวไกลถูกยุบ และกรรมการบริหารพรรค ถูกตัดสิทธิทางการเมือง 10 ปี แม้ว่าวันนี้ศาลรัฐธรรมนูญ จะมีคำวินิจฉัยเห็นว่า พรรคก้าวไกลกระทำการล้มล้างการปกครอง อันมีพระมหาษัตริย์ทรงเป็นประมุข และเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครอง
ขอยืนยันว่า ข้อเท็จจริงและหลักฎหมายที่ควรจะเป็น เราไม่ได้กระทำผิดในการล้มล้างการปกครองอย่างที่ศาลเห็น และพวกเราเห็นว่า ผลของคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในวันนี้ สิ่งที่ได้รับผลกระทบและสำคัญกว่าการดำรงอยู่ของพรรคก้าวไกล และสิทธิทางการเมืองของกรรมการบริหารพรรคคือ “การส่งผลอย่างสำคัญ เป็นการวางบรรทัดฐานการตีความรัฐธรรมนูญ และกฎหมายที่อันตราย สุ่มเสี่ยงที่จะกระทบต่อคุณค่าสำคัญขั้นพื้นฐานที่ควรจะเป็น ในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขในอนาคต สุ่มเสี่ยงที่จะทำให้ในระยะยาว ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข กลายพันธุ์ไปเป็นระบอบอื่นได้ นี่คือนัยยะสำคัญที่พวกเราเห็นว่า ส่งผลกระทบยิ่งกว่าการยุบพรรค”
"พิธา" อำลาฐานะนักการเมือง ขอลุยการเมืองในฐานะประชาชน
ขณะที่ นายพิธา กล่าวว่า เป็นเกียรติที่ได้มีโอกาสรับใช้พี่น้องประชาชน และโอกาสที่ได้ร่วมงานกับคนเก่งๆ เป็นเวลาที่ตนจะจำไว้ยิ่งไม่มีวันลืม วันนี้ถึงตนจะต้องอำลาในฐานะนักการเมืองและ สส. แต่ในขณะเดียวกันจะเริ่มต้นทำหน้าที่ในฐานะพลเมืองคนหนึ่ง
“ตราบใดที่ยังไม่ทิ้งผม ผมก็จะไม่ทิ้งประชาชน” และจะทำทุกวิถีทางในฐานะพลเมือง ที่จะทำให้การเมืองดีขึ้น และพาคณะใหม่ของเพื่อนๆ อดีตพรรคก้าวไกล ไปสู่การจัดตั้งรัฐบาลที่ดีที่สุดเท่าที่ประเทศไทยเคยมีมา
“ท่านอาจจะรู้สึกผิดหวังรู้สึกโกรธแค้นหรือมีน้ำตาไม่ว่ากัน วันนี้เราโมโหได้เต็มที่พรุ่งนี้เราขีดเส้นต่อหน้าว่าเราจะก้าวข้ามทุกอย่างไปเราจะเอาความคับแค้นใจความโมโหพลังงานที่มันมีอยู่ตอนนี้จะไม่ปล่อยให้มันกัดกินพวกเรา และจะระเบิดมันในคูหาทุกการเลือกตั้งหลังจากนี้”
ทั้งนี้ ประชาชนที่กำลังฟังอยู่ 2-3 จังหวัดไม่ต้องรอนาน จะมีเลือกตั้งซ่อม สส.เขต1 พิษณุโลก และตนในฐานะประชาชนคนหนึ่ง ก็สามารถเป็นผู้ช่วยหาเสียงได้ รวมถึงการเลือกตั้งนายก อบจ. ขอเป็นเป็นพลังงานเชิงบวก และไปเลือกตั้งในคูหาให้ถล่มทลาย “ผมไม่ทิ้งพวกคุณแน่นอนครับ”
"ศิริกัญญา" เตรียมแถลงเปิดตัวพรรคใหม่ ปัดตอบเป็นหัวหน้าพรรค
ขณะที่ น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า เรื่องของการยุบพรรค คนที่ต้องรับรู้ถึงความรู้สึกเจ็บปวดในครั้งนี้ ก็ไม่พ้นพวกเรา และทุกคนที่ถูกวินิจฉัยให้ต้องโดนยุบพรรคเป็นครั้งที่ 2 แล้วรวมถึงตัวเองด้วย เรารับรู้ถึงความไม่เป็นธรรมและความเจ็บปวดที่เกิดขึ้น เราละทิ้งความฝันและภารกิจหน้าที่ที่ประชาชนทุกคนมอบให้ ตราบใดที่ประชาชนทุกคนยังอยู่เคียงข้างเรา เพื่อทำภารกิจเปลี่ยนประเทศเราก็จะเดินหน้าต่อไป
“9 ส.ค.นี้ พวกเราทุกคนจะย้ายไปที่บ้านใหม่ด้วยกัน ขอให้ช่วยสนับสนุนพรรคใหม่ของเราต่อไป วันนี้ที่เราถูกยุบสมาชิกพรรคก้าวไกลครบ 100,000 คนพอดี อยากขอร้องให้ 100,000 คนไปพร้อมกันที่บ้านหลังใหม่ด้วยกัน”
จากนั้น น.ส.ศิริกัญญา ยังตอบคำถามถึง เรื่องอุดมการพรรคใหม่ หากเป็นการรวมตัวของพวกเราอดีตพรรคก้าวไกล ยังไงอุดมการณ์ก็ยังคงเหมือนเดิม สืบทอดกันมาไปในบ้านหลังใหม่ ไม่ว่าจะชื่อใดก็ตาม ส่วนในเรื่องของวิธีการเป็นเรื่องเฉพาะ ที่อาจจะต้องขึ้นอยู่กับสภาวะแวดล้อมที่เกิดขึ้น แต่ละยุคและเจน รวมถึงสมาชิกที่มีอยู่ในขณะนั้น ก็มีการยืดหยุ่นเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา
พร้อมตอบคำถามในประเด็นมาตรา 112 จะต้องยืดหยุ่นหรือไม่ว่า จนถึงวันนี้ทุกคนที่เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของอดีตพรรคก้าวไกลทุกคนเชื่อว่า มาตรา 112 มีปัญหา แต่วิธีการทำอย่างไรนั้น จะต้องมีการพูดคุยกันในรายละเอียดมากขึ้น ในเมื่อเราเข้าไปอยู่ในบ้านหลังใหม่เรียบร้อย ก็ต้องคุยให้ละเอียดมากขึ้น วันนี้จากคำวินิจฉัยไม่มีการบอกห้ามแก้ ฉะนั้นวิธีการต้องมีความละเอียดมากขึ้น
ส่วนกรณีจะหลุดพ้นจากนิติสงครามได้อย่างไรนั้น น.ส.ศิริกัญญา ตอบว่า ไม่ได้คิดอยากจะออกจากนิติสงครามครั้งนี้ แต่คิดว่าตอนนี้ถูกกระทำอยู่ อนาคตจะเป็นอย่างไรก็ขึ้นอยู่กับอนาคต
น.ส.ศิริกัญญา ยังย้ำว่า ขอให้อดใจรอชื่อพรรคใหม่ ตอนนี้อยู่ในกระบวนการทุกอย่าง ขอให้เรียบร้อยก่อน
เมื่อถามว่า หัวหน้าพรรคใหม่จะเป็นใครนั้น น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า ไม่ขอตอบ
เมื่อถามอีกว่า น.ส.ศิริกัญญา พร้อมจะเป็นหัวหน้าพรรคหรือไม่ เจ้าตัวตอบเพียงว่า "ให้รอวันที่ 9 ส.ค."
ส่วนกรณีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของอดีตพรรคก้าวไกล จะมีใครไปต่อบ้าง น.ส.ศิริกัญญา บอกว่า ยังไม่ได้ตรวจสอบรายชื่อ แต่มั่นใจว่าทุกคนไปต่อกับเราแน่นอน และการจะไปสังกัดพรรคใหม่ร่วมกัน ก็ต้องมีเรื่องของรายชื่อกรรมการบริหารพรรค จะมีความชัดเจนหลังจากวันที่ 9 ส.ค.67
ส่วนสเปคของหัวหน้าพรรคใหม่จะเป็นอย่างไร ก็ต้องฟังเสียงจากสมาชิก ที่จะร่วมกันเดินหน้าไปต่ออีกครั้งหนึ่ง ด้วยความที่พวกเราเป็นสถาบันการเมือง ย้ำว่าหลังวันที่ 9 ส.ค.จะได้รู้รายชื่ออย่างแน่นอน
จากนั้น นายพิธา ตอบคำถามนักข่าวเพิ่มเติมว่า หลังจากนี้จะยังทำงานเพื่อบ้านเมืองเหมือนเดิม แม้จะไม่ได้อยู่ในสภาหรือทำเนียบ ก็อยู่กับประชาชนได้ อาจจะโหวตกฎหมายไม่ได้ แต่รณรงค์ได้ อาจจะเสนอกฎหมายไม่ได้ แต่ท้วงติงได้ และตนจะอยู่ทั้งประเทศไทย ทั่วเอเชีย ทั่วโลก และอยากจะเรียนรู้หลายเรื่องมากขึ้น เพราะปัญหาตลอด 5 ปีที่ผ่านมาเปลี่ยนแปลงไปเยอะ และอยากจะถ่ายทอดประสบการณ์ให้กับนักการเมืองและ สส.รุ่นใหม่ๆ มาทำงานทางการเมืองได้อย่างที่ใจต้องการ ไม่จำเป็นต้องนามสกุลดัง
ส่วนครบ 10 ปี จะยังอยู่หรือไม่ นายพิธาตอบว่า “ไม่ได้ไปไหน เสาร์ อาทิตย์นี้ยังไปราชบุรี และจะยังพัฒนาบ้านเมืองต่อไปได้”
ขณะที่ นายชัยธวัช ตอบคำถามนักข่าวเพิ่มเติมว่า “ยุบพรรค ตัดสิทธิ์ ติดคุก ก็เป็นความเสี่ยงที่จะเจอได้ และการมาทำพรรคการเมือง ก็ตั้งใจอยู่แล้วว่าจะทำการเปลี่ยนแปลงให้ได้ และคงจะไม่หันหลังทางกาคเมือง เพราะอยู่ในบทบาทไหนก็ทำงานได้ และหลังจากนี้ ก็มีเวลาเยอะที่จะไปช่วยหาเสียงเลือกตั้ง อบจ.ราชบุรี ที่จะเลือกตั้ง 1 ก.ย.”
สำหรับการแถลงข่าวในวันนี้ สส.และแกนนำพรรคก้าวไกลทุกคน สวมเสื้อสีดำมีข้อความว่า "ยักไหล่แล้วไปต่อ” เกือบทุกคน และระหว่างการแถลงมี สส.หลายคนที่น้ำตาซึม