svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

มองการเมือง "ภูมิใจไทย" ขาขึ้น แล้วใครขาลง? 

มองสถานการณ์การเมืองไทย "ภูมิใจไทย“ ขาขึ้น แล้วใครขาลง? ขาลงของจริง หรือ ขาขึ้น…แต่เสี่ยงก่ายหน้าผาก”  28 กรกฎาคม ชี้ชะตา

ภายหลังอดีตนายกฯไปเยือน "ครูใหญ่บ้านเกิดลิซ่า" ถึงรีสอร์ทที่เขาใหญ่ ได้ออกรอบตีกอล์ฟ ร้องเพลงด้วยกัน (เพลงมองตาก็รู้ใจ When you say npthing at all) จนเกิดเป็นวาทกรรม "ปฎิญญาเขาใหญ่"

วาทกรรมต่อมา หลังจาก “ปฏิญญาเขาใหญ่” มีอยู่ 2 วลีด้วยกัน คือ 

1.”กำลังขาขึ้น” ซึ่งหมายถึงพรรคภูมิใจไทย เพราะ อดีตนายกฯทักษิณ ไปหา “เสี่ยหนู อนุทิน” ถึงรีสอร์ต

2.”ไม่มีคุยการเมือง” ซึ่งหมายถึง คำปฏิเสธที่เรียงหน้ากันออกมา โดยเฉพาะจากคนที่ไม่ได้ไปรีสอร์ตหรูว่า การไปรวมตัวพบกันกลุ่มใหญ่ ของสุดยอดผู้มีอิทธิพลทางการเมืองและเศรษฐกิจแห่งยุคนั้น ไม่มีคุยเรื่องการเมืองกันเลยแม้แต่แอะเดียว 

“ขาขึ้น” 

  • สว.สีน้ำเงิน ยึดสภาสูง กวาดเรียบทั้งประธาน และรองประธาน 2 คน 
  • อดีตนายกฯไปเยือนถึงรีสอร์ต ได้ออกรอบตีกอล์ฟ ร้องเพลงด้วยกัน (เพลงมองตาก็รู้ใจ When you say npthing at all)  

ทั้งนี้อาจจะถึงมีประเด็นที่ 3 คือ “ออร่าจับ” เนื่องจากก่อนหน้านี้มีชื่อลุ้นนายกฯ หากนายเศรษฐาไม่รอดคดีที่ 40 สว.ยื่นสอย หากมีล้างไพ่ใหม่ “เสี่ยหนู” ก็มีสิทธิ์ลุ้น เพราะหลังๆ ปรากฏภาพมีซีนร่วมกับ “ลุงที่ไม่ได้อยู่บ้านป่า” เป็นระยะ และใครๆ ก็รู้ว่า นาทีนี้ “ลุงคนนี้” คือของจริงยิ่งกว่า “ลุงบ้านป่า” 

แต่เมื่อโดนสอบถามเรื่อง “ขาขึ้น” ปรากฏว่า “เสี่ยหนู อนุทิน” เล่นคำ เพื่อเลี่ยงตอบ โดยบอกว่า “ขาขึ้นไม่เอา ขาชี้ฟ้าก็ตายสิ ขาลงนี่ดีแล้วเดินได้” 

จากคำตอบของนายอนุทิน จึงชวนสำรวจตลาดการเมืองช่วงนี้ว่าพรรคการเมืองใด หรือคนการเมืองคนไหน กำลัง “ขาขึ้น” หรือ “ขาลง” กันบ้าง

1.อดีตนายกฯทักษิณไปตีกอล์ฟที่เขาใหญ่ 

  • ไม่ได้ไปพักรีสอร์ตของครอบครัวนายอนุทิน (แรนโช ชาญวีร์ รีสอร์ต เขาใหญ่ฯ) 
  • แค่ไปตีกอล์ฟ 
  • มีทานอาหารเย็น 
  • วงสนทนาไม่มีเรื่องการเมือง 
  • มีภาพกับ “เสี่ยกลาง” สารัชถ์ เพราะรู้จักกันมาไม่ต่ำกว่า 25 ปี ตั้งแต่เรียนจุฬาฯ 

มีประโยคที่พูดเป็นปริศนา เมื่อถูกนักข่าวถามว่า ตีกอล์ฟกับอดีตนายกฯทักษิณ ใครเป็นผู้ชนะ นายอนุทินตอบอย่างชาญฉลาด “ถ้าแต้มเยอะสุดก็นายกฯทักษิณ ต้องถามว่าคนชนะจะใช้แต้มเยอะหรือแต้มน้อย"

เรื่องนี้เมื่อย้อนไปดูกติกากอล์ฟ ก็นับแต้มกัน 2 นัยจริงๆ คือ ถ้าหลุมเดียว ใครตีน้อยครั้งกว่า แล้วลูกลงหลุม ก็ชนะ (แต้มน้อย) แต่ถ้านับหลุมรวมทั้งหมดที่ตี ใครตีลงหลุมมากกว่า เป็นผู้ชนะ (แต้มเยอะ) 

การตอบคำถามแบบนี้ ถ้าคิดก่อนตอบ ไม่ใช่กลอนพาไป ต้องบอกว่า ปฏิภาณไหวพริบว่องไว และซ่อนนัยทางการเมืองอย่างลึกซึ้ง นั่นก็คือ การเมืองแบบรัฐบาลผสม ไม่มีใครแพ้หรือชนะแบบ “ซีโร่ซัมเกม” แต่จะเฉลี่ยๆ กันไป 

 

2.เรื่องป้ายโฆษณาภาษาจีน ประกาศขายพาสปอร์ต ย่านห้วยขวาง 

  • ได้ทีแสดงความขึงขัง สั่งจัดการ (ปลดป้าย) ไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหม

3.ปมกัญชา ที่นายกฯเศรษฐา เรียกไปเคลียร์กับ คุณสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข 

4.เรื่อง สว.สายสีน้ำเงิน กินรวบสภาสูง 

5.เรื่องขาขึ้น ออร่าจับ 

สำหรับสถานการณ์ของภูมิใจไทย ณ เวลานี้ต้องบอกว่า “ดีสุดยอด” เพราะ 

  • สว.สีน้ำเงิน ยึดสภาสูงเบ็ดเสร็จ เสียงสนับสนุนสูงสุดได้ถึง 159 เสียง 
  • เคลียร์ปัญหากัญชาได้ เพราะทิศทางชัดเจนแล้วว่าจะไม่ดึงกัญชากลับบัญชียาเสพติด แต่จะออกกฎหมายควบคุมการใช้ โดยเฉพาะในเชิงสันทนาการ ซึ่งถือเป็น “ทางออกกลางๆ” ที่ไม่มีฝ่ายใดเสียหน้า และภูมิใจไทยก็ไม่เสียหาย
  • เพื่อไทยจำเป็นต้องเกรงใจ เพราะวุฒิสภามีอำนาจผ่านกฎหมาย ชี้ขาดแก้ไขหรือไม่แก้ไขรัฐธรรมนูญ รวมถึงเลือกกรรมการองค์กรอิสระ ตลอดจนเห็นชอบผู้ดำรงตำแหน่งสำคัญต่างๆ เช่น อัยการสูงสุด ประธานศาลปกครองสูงสุด 
  • การที่อดีตนายกฯทักษิณ ไปเยือนคุณอนุทินถึงถิ่น สะท้อนถึงทิศทางการเมืองหลังจากนี้ ว่า มองข้ามพรรคภูมิใจไทยไม่ได้อีกต่อไป และน่าจะมีการเจรจาแบ่งสภากันดูแล 

- เพื่อไทย - คุมรัฐบาล และเสียงสภาล่าง
- ภูมิใจไทย - คุมสภาบน และกำหนดเกมการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ตลอดจนกฎหมายอื่นๆ 

ในอนาคต เมื่อถึงฤดูเลือกตั้ง ก็จะเจรจากันเกี่ยวกับโมเดล “อัมโน ไทยสไตล์” 

อย่างไรก็ตามช่วงนั้นจะมีจุดเปลี่ยนของความสัมพันธ์หรือไม่ เพราะต่างฝ่ายต่างก็อยากได้ สส.มากที่สุด โดยเฉพาะภูมิใจไทยที่ไม่ได้ต้องการหยุดตัวเองไว้แค่นี้ แต่ต้องการเป็น “ต้นขั้วการเมือง” อย่างน้อยๆ ต้องเป็น “พรรคหลักร้อย” มีโอกาสจัดตั้งรัฐบาลเองได้ ตามที่คุณอนุทินเคยประกาศเอาไว้ก่อนการเลือกตั้งปี 66 

ขณะที่อดีตนายกฯทักษิณ ก็ต้องชนะ เป็นที่ 1 เท่านั้น เพื่อการันตีให้ลูกสาวได้นั่งเก้าอี้นายกฯคนต่อไป

ทางสองแพร่งที่จะเกิดขึ้นคือ อดีตนายกฯทักษิณ ทิ้งลีลาเดิม หันมาผสานประโยชน์กับภูมิใจไทย เก็บเรื่องราวร้านฉานแห่งความหลัง “มันจบแล้วครับนาย” ไว้ในลิ้นชัก ล็อกกุญแจ ลีลาเดิมที่กล่าวถึง คือ กินรวบ เหมือนปี 48 ดึงทุกพรรคเข้าชายคา แล้วกวาด 377 เสียง และหวังคุมทั้งสภาบน สภาล่าง แต่วันนี้สถานการณ์เปลี่ยนไป และคู่ต่อสู้ก็เปลี่ยน สมรภูมิรบก็เปลี่ยน ไม่ใช่สนามที่คุ้นชินเหมือนเคย (ประชานิยม) เปลี่ยนเป็นสนามดิจิทัล ส่วนทางแพร่งที่สอง เปิดศึกกับภูมิใจไทยในเวลาที่เหมาะสม เพื่อหวังเป็น winner takes all 

ส่วนอีกคนที่ขาขึ้นคือ อดีตนายกฯ ทักษิณ 

อาจมีข่าวดีปลายเดือนนี้ โดยเฉพาะเรื่องพระราชทานอภัยโทษ ซึ่งเป็นพระราชอำนาจ แต่หากมีชื่อได้รับพระราชทาน ก็จะพ้นโทษทันที รับใบบริสุทธิ์ทันควัน ไม่ต้องรอถึง 20 หรือ 22 ส.ค.

ได้ลุยงานทันทีเมื่อเริ่มต้นเดือน ส.ค. ตามที่ประกาศเอาไว้ที่สุรินทร์ เมื่อ 14 ก.ค. ซึ่งเป็นวันคล้ายวันก่อตั้งพรรคไทยรักไทย ซึ่งเป็นการประกาศเหมือนรู้อะไรดีๆ ล่วงหน้า 

"ขาลง"

ข้ามมาดูฝั่ง “ขาลง” กันบ้าง  มีทั้ง “ลงจริงๆ” คือ “ลงแบบทิ้งดิ่ง” กับ “ขาลง แล้วเดินต่อได้” เหมือนที่คุณอนุทินพูด 

1.พรรคเพื่อไทย เจอภาวะ “ขาลง” จริง

  • ทำงานมาเกือบปี ไม่มีผลงานจับต้องได้ 
  • นายกฯเรตติ้งไม่ดี 
  • มีปมขัดแย้งในพรรคร่วมรัฐบาล 

แต่เพื่อไทยยังมีหวัง และมีลุ้นเดินต่อได้ เนื่องจาก “อดีตนายกฯทักษิณ” ยังคงเป็น “คนการเมืองมากบารมี” และเตรียมจะกระโดดมากุมบังเหียนพรรค และรัฐบาลทันทีที่พ้นโทษอย่างสมบูรณ์ ซึ่งทุกฝ่ายยังเชื่อมั่นว่าอดีตนายกฯทำได้ แม้โจทย์จะยากกว่าเก่า 

2.พรรคก้าวไกล กำลัง “ขาลง” เพราะใกล้จะโดนชี้ชะตาคดียุบพรรค 

  • มีคนไปถามแกนนำแถวหน้า แต่ถามหลังไมค์แบบไม่เป็นข่าว ถามว่ามั่นใจไม่ถูกยุบจริงๆ ตามที่ประกาศหรือ แกนนำแถวหน้าตอบว่า “พี่มีพรรคใหม่พร้อมอยู่แล้ว” 
  • จากคำตอบของแกนนำแถวหน้า แปลว่าพรรคก้าวไกลประเมินตรงกับกระแสสังคมว่าโดนยุบแน่ 

แต่ยุบแล้วไปต่อไป เป็นภาวะ “ขาลง” คือ ขาลงดิน เดินต่อได้ และอาจไปได้ดีกว่าเดิม 

ขาลง - ทิ้งดิ่ง 

พรรคพลังประชารัฐ - ขาลงจริง เพราะ 

  • อดีต สส.วัน อยู่บำรุง ที่ย้ายเข้าพรรควันนี้ ไม่ได้เป็น สส. และมีแนวโน้มหวนกลับมาเป็น สส.อีกครั้ง ยากมากแต่พรรคจัดอีเวนท์ต้อนรับใหญ่โต เหมือนมี สส.ยกโขยงย้ายมาซบหลายสิบคน สะท้อนว่าสถานการณ์พรรคไม่สู้ดีจริงๆ 
  • มีข่าวลือว่าเป็น “พรรคสาขา” ของเพื่อไทย 

โดน “ผู้กอง” ยึดพรรคไปแล้ว เป็นเกม “ร้อยเอก ยึดพรรคจาก พลเอก” (และ พลตำรวจเอก) 

ผู้กอง มีดีลหลายอย่างกับเพื่อไทย ทั้งดีลคุมกระทรวงเกษตรฯพรรคเดียว / ดีลเลือกตั้งท้องถิ่น คือ นายก อบจ.โซนภาคเหนือ โดยเฉพาะพะเยา กับเชียงใหม่

โอกาสที่พลังประชารัฐ เฉพาะสาย “ลุงในป่า” ถูกเขี่ยพ้นวงจรอำนาจ คือโดนปรับพ้น ครม. มีสูง 

ข่าวล่ามาเร็วแจ้งว่า จะมีการปรับ ครม.อีกรอบภายในเดือน ต.ค.ที่จะถึงนี้ เป็นการปรับใหญ่ และอาจปรับพรรคร่วมรัฐบาลบางส่วนด้วย

มีความเป็นไปได้ - พลังประชารัฐสายลุงในป่า พ้น ครม. แล้วดึงประชาธิปัตย์เสียบแทน ( ปชป.กลายเป็นขาขึ้นของจริง) แต่การข่าวฝั่ง “ลุงในป่า” กลายเป็นหนังคนละม้วน 

-เกมคือ ก้าวไกลยุบก่อนตัดสินนายกฯเศรษฐา 
-สส.ผึ้งแตกรังจากเพื่อไทย จะย้ายซบพลังประชารัฐจำนวนหนึ่ง 
-มี สส.ฝากเลี้ยงอยู่ในพรรคร่วมรัฐบาลบางพรรคอีกหลายคน อาจจะหลักสิบคน (ทั้งพรรคอันดับ 1 และอันดับ 2) 
-ถ้านายกฯเศรษฐาหลุดเก้าอี้ ลุงยังมีลุ้น

งานนี้ต้องรอดูว่าจะเป็น “ขาลงของจริง หรือ ขาขึ้น…แต่เสี่ยงก่ายหน้าผาก” 

ส่วน “วลีที่ 2” ที่พูดกันมากในวันนี้ คือ “เขาใหญ่ปาร์ตี้ ไม่มีคุยการเมือง” 

คำถามคือ...เชื่อหรือไม่...ไม่มีคุยการเมือง 

เพราะแค่เปิดทำการวันแรก นายกฯเศรษฐา ก็เชิญ เสี่ยหนู อนุทิน และคุณสมศักดิ์ เคลียร์ปมกัญชา แบบไม่ไว้หน้า พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เรียบร้อยแล้ว งานนี้ออกแนว “สายกลาง” ออกกฎหมายควบคุมการใช้กัญชา ตามที่ “ข่าวข้นคนข่าว” เคยเปิดประเด็นเอาไว้นั่นเอง 

นี่แค่หนังตัวอย่าง ของจริงรอดูหลังวันที่ 28 กรกฎาคม