svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

วิเคราะห์สีน้ำเงินยึด “สภาสูง” เข้าทางลุง พรรคไหนต้องสะดุด?

วิเคราะห์สีน้ำเงินยึด “สภาสูง” เข้าทางลุง เห็นอนาคตภูมิใจไทย พรรคไหนต้องลำบากหืดขึ้นคือ ขยับงานการเมืองยากขึ้น

การยึดกุม "สภาสูง" แบบไม่แบ่งเก้าอี้ให้ใครของ “สว.สายสีน้ำเงิน” ทำให้นักวิชาการซึ่งติดตามสถานการณ์ทางการเมืองอย่างใกล้ชิด ประเมินว่า เป็นจังหวะก้าวสำคัญที่ชี้อนาคตการเมือง และจำนวนเสียงที่ออกมาในการแข่งขันตำแหน่งรอประธานสภาคนที่ 1 และ 2 ซึ่งมี สว.สายอิสระ และสายพันธุ์ใหม่ส่งคู่ชิงด้วย สะท้อนว่าพรรคก้าวไกลน่าจะขยับงานการเมืองลำบากขึ้น 

ผศ.ดร.วันชาติ นภาศรี นักวิชาการอิสระด้านยุทธศาสตร์การพัฒนา มองว่า กลุ่มของ สว.สีน้ำเงิน ไม่ได้หยุดความสำเร็จแค่ผลการเลือกตั้ง สว. และรุกต่อไปถึงการคุมเสียงข้างมากในสภาสูงได้ ซึ่งถือเป็นก้าวย่างสำคัญในอนาคตของพรรคภูมิใจไทยที่จะมีโอกาสในการจัดตั้งรัฐบาลมากขึ้น เพราะการยึดกุมวุฒิสภาได้ ก็เท่ากับควบคุมทิศทางประเทศทางอ้อมผ่านองค์กรอิสระนั่นเอง 

ผศ.ดร.วันชาติ นภาศรี นักวิชาการอิสระด้านยุทธศาสตร์การพัฒนา

ประเด็นวิเคราะห์ของอ.วันชาติ สอดคล้องกับที่เคยวิเคราะห์ว่า บทบาทขององค์กรอิสระในประเทศไทย โดยเฉพาะภายใต้รัฐธรรมนูญปี 2560 เทียบเท่ากับอำนาจอธิปไตยที่ 4 

โดย อ.วันชาติ ยังกล่าวด้วยว่า เมื่อ สว.สายสีน้ำเงินยึดสภาสูงได้ ก็จะส่งผลต่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และการผลักดันกฎหมายต่างๆ แต่เชื่อว่าจะเป็นลักษณะ “รักษาสมดุล” เพราะกลุ่มนี้ไม่ได้สุดโต่ง เพียงแต่จะไม่สามารถเดินไปได้กับแนวทางของก้าวไกล แต่ในส่วนของเพื่อไทยน่าจะเดินไปด้วยกัน 

ทั้งนี้ยังเสนอให้พรรคเพื่อไทย และก้าวไกล เร่งสรุปบทเรียนจากปรากฏการณ์ “สว.สายสีน้ำเงิน” เพราะหากไม่รีบสรุป ในอนาคตอาจมีโอกาสพ่ายแพ้แบบไม่รู้ตัวเช่นนี้อีก และประเด็นที่ต้องให้ความสำคัญคือ กลุ่มสีน้ำเงินเข้ากันได้กับสายอนุรักษ์นิยม และกลุ่มอำนาจเก่า เรื่องนี้จึงถือเป็นชัยชนะก้าวแรก ในการรุกคืบกลับคืนสู่เวทีอำนาจ หากเพื่อไทยและก้าวไกลพลาดซ้ำอีกในอนาคต