svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

อนุกมธ.ฯ บุกกรมประมง พบหลักฐานสำคัญ โยงสาเหตุแพร่พันธุ์ "ปลาหมอคางดำ"

อนุกรรมาธิการ พิจารณาศึกษาสาเหตุและแนวทางการแก้ไขปัญหา "ปลาหมอคางดำ" บุกกรมประมงหาต้นตอการระบาด แต่ได้ข้อมูลและหลักฐานสำคัญ รอเอกชนชี้แจง 25 ก.ค.นี้

23 กรกฎาคม 2567  "นายแพทย์วาโย อัศวรุ่งเรือง" ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล และ "นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์" ส.ส.กทม. พรรคก้าวไกล นำทีมคณะอนุกรรมาธิการ พิจารณาศึกษาสาเหตุและแนวทางการแก้ไขปัญหา รวมถึงผลกระทบจากการนำเข้า"ปลาหมอคางดำ" เดินทางมาที่กรมประมง ติดตามหลักฐานกรณีมีบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง นำเข้า "ปลาหมอคางดำ"โดยมี นายบัญชา สุขแก้ว อธิบดีกรมประมง​และเจ้าหน้าที่ให้การต้อนรับ พร้อมชี้แจงรายละเอียด

 

"นายแพทย์วาโย อัศวรุ่งเรือง" ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล และ "นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์" ส.ส.กทม. พรรคก้าวไกล นำทีมคณะอนุกรรมาธิการ พิจารณาศึกษาสาเหตุและแนวทางการแก้ไขปัญหา รวมถึงผลกระทบจากการนำเข้า"ปลาหมอคางดำ" เดินทางมาที่กรมประมง ติดตามหลักฐานกรณีมีบริษัทเอกขนแห่งหนึ่ง นำเข้า "ปลาหมอคางดำ"

 

โดยเจ้าหน้าที่ได้นำ "ครีบ" และ "ชิ้นเนื้อ" ปลาหมอคางดำที่พบในบ่อพักน้ำยี่สาร ในฟาร์มวิจัยของบริษัทเอกชน เมื่อปี 2560 มาโชว์ให้ อนุกรรมธิการ.ดู จากผลการตรวจสอบพบว่า"ปลาหมอคางดำ"ที่ระบาดในปี 60 มีภาวะเลือดชิด "ดีเอ็นเอ" ใกล้เคียงกับปลาหมอคางดำที่พบในบ่อพักน้ำยี่สาร และที่ระบาดในปัจจุบัน

"นายแพทย์วาโย"  กล่าวว่า  จากการตรวจสอบตามที่บริษัทดังกล่าวอ้างมานั้น ยืนยันไม่พบโหล "ปลาหมอคางดำ"แต่อย่างใด ตอนนี้เหลือจิ๊กซอตัวสุดท้าย คือ ถ้ามีครีบของเมื่อปี 53-54 ก็จะคลายความสงสัยไปได้ ส่วนกรมประมงได้รับหรือไม่ เมื่อกางเอกสารออกมาดูพบว่าไม่ได้รับตัวอย่าง DNA

สถานที่เก็บ ชิ้นเนื้อ ซากปลาไทยชนิดต่างๆ ของกรมประมง

 

แต่อย่างไรก็ตาม เพื่อความเป็นธรรม ได้เชิญ เอกชนมาชี้แจงในวันพฤหัสบดี 25 ก.ค.ซึ่งได้ทำหนังสือให้นำเอกสารที่อ้างว่ามีการนำส่งตัวอย่าง"ปลาหมอคางดำ"มาด้วย เพื่อจะได้รู้ว่ามีการส่งวันไหน ให้ใคร เจ้าหน้าที่คนไหนเป็นผู้รับ เพราะกรมประมงยืนยันจากเอกสารและหลักฐานที่ห้องปฏิบัติการแล้วว่าไม่ได้มีการรับตัวอย่าง

 

 

อนุกมธ.ฯ บุกกรมประมง พบหลักฐานสำคัญ โยงสาเหตุแพร่พันธุ์ \"ปลาหมอคางดำ\"

อย่างไรก็ตาม ทางอนุกรรมธิการฯได้ขอดูเอกสารรายการทะเบียนการเก็บตัวอย่างซากปลา (สมุดคุม) ซึ่งกรมประมงนำมาให้ดูตั้งแต่ปี 51-56 โดยทางกรมยืนยันว่าไม่ได้มีการส่งครีบปลามาให้ และกรมประมงเองยังมีเอกสารเมื่อเดือน เม.ย. 53 แจ้งให้บริษัทเอกชนส่งครีบปลาตัวอย่างมาที่กรมด้วย แต่ก็ไม่มีการนำส่งรวมทั้งรายงานความคืบหน้าของการวิจัย ก็ยังไม่เห็น และทั้งหมดจะต้องไปดูย้อนหลังว่ามีมีการขอเลี้ยงมีการเลี้ยงในบ่อดินหรือบ่อปูน เพราะหากเลี้ยงในบ่อดินมีการสูบน้ำเข้าออก ปลาหมอคางดำอาจจะมีการหลุดออกไปได้ ส่วนการตรวจสอบดีเอ็นเอสามารถทำได้ แต่ต้องได้กระดูกมาก่อน ซึ่งอาจจะลงไปดูพื้นที่ ๆด้วยเพื่อให้เกิดความชัดเจน

 

นพ.วาโย  อัศวรุ่งเรือง รองประธานคณะกรรมาธิการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม สภาผู้แทนฯ

 

"นพ.วาโย" บอกอีกว่า ทางคณะกรรมาธิการได้ขอเอกสารกรมประมง ประกอบด้วย

 

1.รายงานการขอและอนุญาตให้บริษัทเอกชนนำเข้าปลาหมอคางดำจากนอกราชอาณาจักรเพื่อครอบครองและเพาะเลี้ยงแบบมีเงื่อนไข

2.รายงานการประชุมคณะกรรมการระดับสถาบันด้านความปลอดภัยและความหลากหลายทางชีวภาพของกรมประมง (IBC)

3.เอกสารรายชื่อบริษัทที่ยื่นขออนุญาตเพื่อการส่งออกพันธุ์ปลาออกนอกราชอาณาจักรไทย เมื่อปี 2553-2559
และกรมประมงแจ้งว่า บริษัทส่งออกได้จ้างบริษัทชิปปิ้ง ทำเอกสารในการส่งออกว่าเป็น "ปลาหมอเทศข้างลาย" แท้จริงเป็น"ปลาหมอคางดำ" แต่สิ่งที่กรมประมงตอบได้ไม่กระจ่าง คือ กรมเริ่มทำงานอย่างจริงจังในปี 2560 หลังเกิดการระบาดแล้ว ซึ่งกรมประมงชี้แจงว่า อำนาจหน้าที่ไม่มีตามกฎหมาย มาตรา 54 ให้อำนาจแค่อนุญาตเท่านั้น ไม่ได้มีอำนาจไปไล่บี้เอาผิดบริษัทเอกชน แต่พอมีการแก้กฎหมายในปี 2560 กรมประมงก็ทำตามหน้าที่