svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

ส่องเส้นทาง "มงคล สุระสัจจะ" จากเด็กวัด สู่ "ประธานสมาชิกวุฒิสภา" คนใหม่

โผไม่พลิก " มงคล สุระสัจจะ" ได้รับเลือกจากที่ประชุมวุฒิสภาให้ดำรงตำแหน่ง "ประธานสมาชิกวุฒิสภา" มาทำความรู้จัก ประธานสว.คนใหม่ จากเด็กวัด นักเรียนช่าง สู่การทำหน้าที่"ผู้นำสภาสูง"

23 กรกฎาคม  2567  เสร็จสิ้นไปเป็นที่เรียบร้อย สำหรับการประชุมวุฒิสภาสมัยสามัญครั้งที่ 1 ถือเป็นการประชุมครั้งแรกของบรรดาสมาชิกวุฒิสภาแกะกล่อง ชุดที่13 ซึ่งผ่านการเลือกสว.แบบใหม่ จำนวน 200 คน

 

ไฮไลท์สำคัญ คือ การเลือกประธานสว. และรองประธานสว. จำนวน 2 ท่าน โดยการประชุมนัดแรก เลขาธิการวุฒิสภาได้เชิญ "พล.ต.ท. ยุทธนา ไทยภักดี"  ซึ่งมีอาวุโสสูงสุด 78 ปี ทำหน้าที่เป็นประธานสว.ชั่วคราว ก่อนเลือกประธานสว.และรองประธานสว. สมาชิกวุฒิสภาเปิดอภิปราย เสนอให้ผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อเป็นประธานสว. จำนวน 3 คน ได้แก่ "นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ" "นส.นันทนา  นันทวโรภาส" และ "นายมงคล สุระสัจจะ" ได้มีการแสดงวิสัยทัศน์เป็นเวลา 5 นาที ตามลำดับจากการจับฉลาก

 

มงคล สุระสัจจะ  สว.กลุ่มที่ 1 กลุ่มบริหารราชการแผ่นดินและความมั่นคง แสดงวิสัยทัศน์ชิงเก้าอี้ประธานสว.

 

ภายหลังการแสดงวิสัยทัศน์ ที่ประชุมเปิดให้ลงคะแนนทางลับ ปรากฎว่า "นายมงคล  สุระสัจจะ" ได้รับเลือกด้วยคะแนนเสียงข้างมาก 159 คะแนน  ถือเป็น "ประธานสมาชิกวุฒิสภา คนที่ 13"  ในสารบบทำเนียบวุฒิสภาไทย

 

ส่องเส้นทาง \"มงคล สุระสัจจะ\" จากเด็กวัด สู่ \"ประธานสมาชิกวุฒิสภา\" คนใหม่

มาทำความรู้จัก "มงคล  สุระสัจจะ" กันสักหน่อย ท่านมีชื่อเล่นว่า "จ้อน"  เกิดวันที่ 9 ส.ค. 2495 ที่ อ.หนองโดน จ.สระบุรี พ่อเป็นไอดอลเด็กบ้านนอก พาลูกชายขึ้นรถลงเรือ ทำมาหากินเยี่ยงวิถีคนสามัญ

 

“ผมเกิดและโตในชนบท อาศัยวัดเป็นที่พักเรียนหนังสือ ฐานะค่อนข้างยากจน ความฝัน อันสูงสุดคือ เรียนจบอาชีวะแล้วก็ออกมาหางานทำช่วยเหลือครอบครัว..”  บันทึกของมงคล ในเฟซบุ๊คส่วนตัว

มงคล  สุรัจสัจจะ  ประธานสว. คนที่ 19 ของไทย

 

ช่วงปี 2511 ถึง 2515 "จ้อน" จับพลัดจับผลู ย้ายเรียนอาชีวะที่โรงเรียนการช่างนครนายก ได้แค่ปีเดียว เพราะเกเรมาก จึงย้ายมาจบ ปวช. ที่โรงเรียนพานิชยการพระนครศรีอยุธยา

"นักเรียนช่าง" มุ่งมั่นเข้าคณะรัฐศาสตร์ ม.รามคำแหง

 

มีวุฒิแค่ ปวช. แถมยากจน มงคลจึงไม่คิดฝันจะคว้าใบปริญญา กระทั่งมีการเปิดตลาดวิชาที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง เขาจึงตัดสินใจเข้าเรียนในคณะรัฐศาสตร์

 

"ค่าหน่วยกิต 18 บาท ไม่แพงเวอร์ จนทำให้ลูกชาวนาต่ำต้อยอย่างผม มีโอกาสได้เข้าไปเรียน " บันทึกลูกชาวนาหนองโดน ด้วยความมุ่งหวังที่จะเป็นปลัดอำเภอ ไปรับใช้ประชาชนในชนบทบ้านเกิดเมืองนอน

 

ปี 2516 จากขาโจ๋อาชีวะกรุงเก่า "มงคล" ได้พบโลกใบใหม่เมื่อเข้าไปเรียนรามคำแหง ยุคสายลมเดือนตุลาพัดผ่าน

 

“ในรั้วราม เปลี่ยนจิ๊กโก๋เกเรไร้สาระ อันเนื่องมาจากประสบการณ์ใหม่ๆ ได้รู้จักเพื่อนใหม่ๆ เสรีภาพของรามคำแหง ทำให้ผมพบทางเลือกที่จะเดินร่วมกับเพื่อนๆ ทำกิจกรรมเพื่อมวลชน ร่วมต่อสู้เพื่อความเป็นธรรม..”

 

มงคล สุระสัจจะ สมัย สำเร็จการศึกษา คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง

 

ปี 2517 "มงคล" ได้ทำกิจกรรมกับ "กลุ่มพัฒนาการศึกษาชนบท" (กพ.กช.)  และเดินเข้าค่ายฝึกกำลังคน ในหมู่บ้านชาวปกากะญอ (กะเหรี่ยง) ที่บ้านแม่แฮใต้ อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่

 

"เรานักศึกษารามคำแหง..รวมตัวกันจัดงานค่ายอาสา ชื่อน่าเกรงขาม ค่ายฝึกกำลังคน มุ่งหน้าสู่ดอยสูง แม่แฮคี้ เลื่อยไม้สร้างโรงเรียนเล้าไก่ พากันสอนหนังสือเด็กๆชาวเขา..."  จ้อนของเพื่อน กพ.กช.บันทึกไว้

 

แกนนำของค่ายฝึกกำลังคนห้วยแม่แฮ สมัยโน้นคือ "เหนียว"  ธงชัย สุวรรณวิหค หรือที่รู้จักในนาม สหายช่วง แห่งเทือกเขาบรรทัด

 

เบื้องหลังค่ายฝึกกำลังคนห้วยแม่แฮ ก็คือ การเผยแพร่ความคิดก้าวหน้าของซ้ายรามคำแหง จึงไม่แปลกที่หลังเหตุการณ์ 6 ตุลา สมาชิกค่ายฝึกกำลังคนจึงเข้าป่าจับปืนทางภาคใต้

 

เด็กค่ายซ้ายจัดรั้วพ่อขุน 

 

"มงคล"ก็ไม่ต่างนักศึกษายุค 14 ตุลา นับพันคน ที่ได้เข้าไปใช้ชีวิตในเขตป่าเขา ร่วมการต่อสู้ด้วยกำลังอาวุธ ภายใต้ร่มธง พคท.

 

เมื่อวันที่ 8 ส.ค. 2563 "มงคล" ได้เขียนความทรงจำยุคไม่รบนาย ไม่หายจน "..เกิดเหตุการณ์ 6 ตุลา 2519 ถูกล้อมปราบเข่นฆ่าได้รับรู้ถึงความเหี้ยมโหด ไร้ความปราณีที่คนใช้อาวุธสงครามกระหน่ำยิงคนมือเปล่า ความเหี้ยมโหดจากกลุ่มอันธพาลการเมืองที่กระทำย่ำยีต่อคนไม่มีทางสู้เยี่ยงสัตว์ป่า จนต้องหลีกลี้หลบภัยไปอยู่เขตป่าเขาอยู่เกือบปี จึงออกมาเรียนต่อจนจบ"

 

คำว่า "อยู่เขตป่าเขา"  ของมงคล หมายถึง "ภูบรรทัด" หรือเขตงานสตูล พัทลุงและตรัง ซึ่งอยู่ภายใต้การชี้นำของ พคท.ภาคใต้

 

ผลึกความคิดฝ่ายซ้ายในอดีต มงคลยังได้นำมาใช้แก้ไขปัญหาชาวบ้าน สมัยเป็นรับราชการ อย่างเช่นปี 2549 มงคลเป็นรอง ผวจ.ศรีสะเกษ ชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนจากการสร้างเขื่อนราษีไศล มาตั้งเวทีชุมนุมเรียกร้องค่าชดเชยกรณีน้ำท่วมไร่นา ที่หน้าศาลากลางจังหวัด

 

"ผมก็ไปในแบบของผม นุ่งกางเกงยีนส์ ใส่เสื้อผ้าฝ้ายเก่าๆ พกขลุ่ยไปอันหนึ่ง แล้วขึ้นไปเล่นดนตรีกับเขา ปรับทุกข์ผูกมิตร กินข้าวกินเหล้า เสมือนหนึ่งเป็นเพื่อนเป็นญาติพี่น้อง"

 

กลยุทธ์ปรับทุกข์ผูกมิตรนี่หล่ะ ทำให้ชาวบ้านต้านเขื่อนราษีไศล เหมารถบัสไปส่งตอนที่มงคลย้ายจาก รอง ผวจ.ศรีษะเกษ ไปเป็นผู้ว่าฯ บุรีรัมย์

 

ชีวิตราชการ สิงห์ทอง-สิงห์น้ำเงิน

 

ออกจากภูบรรทัด มงคลกลับมาเรียนหนังสือต่อ จบแล้วก็เข้าเป็นปลัดอำเภอ และรับราชการครั้งแรกสังกัดมหาดไทย วันที่ 8 ม.ค. 2522

 

ปี 2532 มงคล ย้ายมาเป็นปลัด อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี จึงได้พบกับเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช ที่เวลานั้นเป็นรอง ผวจ.ปทุมธานี

 

ต่อมา เสริมศักดิ์สนับสนุนให้ "มงคล" ได้เข้าเรียนวิทยาลัยการปกครอง บ่มเพาะก่อนก้าวสู่นายอำเภอ หลังเรียนจบ มงคลเป็นนายอำเภอครั้งแรกที่ อ.หนองม่วง จ.ลพบุรี

มงคล สุระสัจจะ อดีตอธิบดีกรมการปกครอง ลงสมัครสว.กลุ่มที่ 1 กลุ่มบริหารราชการแผ่นดินและความมั่นคง

 

ต่อมา เสริมศักดิ์ ย้ายไปเป็น ผวจ.นครพนม มงคลก็ตามไปเป็นนายอำเภอศรีสงคราม จ.นครพนม ก่อนย้ายมาที่ อ.ธาตุพนม, อ.บ้านนา จ.นครนายก และ อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี แล้วขยับไปเป็นรอง ผวจ.ศรีสะเกษ

 

ปี 2551 "มงคล" ย้ายมาเป็น ผวจ.บุรีรัมย์ จึงได้รู้จักกับ "เนวิน ชิดชอบ" ซึ่งเวลานั้นยังสังกัดพรรคพลังประชาชน ก่อนจะแยกตัวมาก่อตั้งพรรคภูมิใจไทย

 

ปลายปี 2552 สมัยรัฐบาลอภิสิทธิ์ ชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย ได้โยกมงคล จาก ผวจ.บุรีรัมย์ มาเป็นอธิบดีกรมพัฒนาชุมชน

 

27 เม.ย. 2553 ครม.อภิสิทธิ์ อนุมัติแต่งตั้งมงคลเป็นอธิบดีกรมการปกครอง และปลายปีเดียวกัน มีการเสนอชื่อ "มงคล"เป็นปลัดมหาดไทย ภายหลัง มงคลขอถอนตัว แสดงเจตจำนงไม่รับตำแหน่งดังกล่าว

 

ส่องเส้นทาง \"มงคล สุระสัจจะ\" จากเด็กวัด สู่ \"ประธานสมาชิกวุฒิสภา\" คนใหม่

 

เส้นทางแห่งโชคชะตาของ"มงคล" ก่อนจะก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งประมุข สว.ในวันที่ 23 ก.ค.นี้ มีจุดเปลี่ยนคือ การย้ายมารับราชการเป็น ผวจ.บุรีรัมย์ เมื่อ 16 ปีที่แล้ว 

 

ทั้งนี้ ภายหลัง ที่ประชุมวุฒิสภาเสียงข้างมาก ลงมติ ให้ "นายมงคล  สุรัจสัจจะ"  ดำรงตำแหน่งประธานวุฒิสภา ทางเลขาธิการวุฒิสภา มีหนังสือแจ้งนายกรัฐมนตรี เพื่อนำความขึ้นกราบบังคมทูล พระมหากษัตริย์ทรงแต่งตั้ง "ประธานวุฒิสภา" และ "รองประธานวุฒิสภา" ต่อไป

 

 

ขอบคุณข้อมูล จาก กรุงเทพธุรกิจออนไลน์