svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

สรุปปมร้อน บุกจับบ่อนพระปิ่น 3 ปฏิบัติการทลายโคตรบ่อน สะเทือนถึงการเมือง

กลายเป็นประเด็นร้อนทางการเมืองขึ้นมาทันที สำหรับปฏิบัติการทลายบ่อนพระปิ่น 3 โคตรบ่อนย่านบางใหญ่ เมื่อมีการพาดพิงถึงนักการเมืองระดับรัฐมนตรี Nation STORY สรุปมาให้ว่า เกิดอะไรขึ้นบ้าง

เป็นการบุกจับบ่อนที่ไม่ธรรมดา เพราะส่งแรงสั่นสะเทือนถึงทำเนียบรัฐบาล และกระทรวงมหาดไทย รวมถึงนักการเมืองหลายคน กรณี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย นำเจ้าหน้าที่กรมการปกครอง บุกทลายบ่อนพระปิ่น 3 ในซอยหมู่บ้านพระปิ่น 3 ต.บางแม่นาง อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี เมื่อช่วงค่ำวันที่ 19 มี.ค. 67 ที่ผ่านมา สามารถจับกุมนักพนันได้มากกว่า 300 ราย 

ความไม่ธรรมดาของบ่อนแห่งนี้ คือการจัดการที่ใกล้เคียงกับ "กาสิโน" เปิดให้เล่น 24 ชั่วโมง มีเงินสดของกลางจำนวนมาก และชิพหมุนเวียนในบ่อนร่วม 320 ล้านบาท

สิ่งที่น่าสนใจคือ ข้อมูลจาก นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ ผู้ตรวจราชการกรมการปกครอง ว่า การจับกุมครั้งนี้ สืบเนื่องจากได้รับข้อมูล จากสำนักงาน นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทย 

คดีนี้ทีแรกก็ทำท่าจะเป็นคดีทลายบ่อนทั่วไป แต่สุดท้ายกลับกลายเป็นประเด็นร้อน เมื่อมีการพาดพิงถึงนักการเมืองระดับรัฐมนตรีว่า มีส่วนเกี่ยวพันกับบ่อนแห่งนี้ 

Nation STORY จึงได้มีการสรุปเรื่องราว เกี่ยวกับการบุกทลายบ่อนพระปิ่น 3 บ่อนขนาดยักษ์ว่า เกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นบ้าง และมีเรื่องราวอะไรที่สำคัญ ๆ เกิดขึ้นตามมาภายหลังการจับกุม จนร้อนไปเป็นเรื่องทางการเมืองได้.... 
สรุปปมร้อน บุกจับบ่อนพระปิ่น 3 ปฏิบัติการทลายโคตรบ่อน สะเทือนถึงการเมือง

การจับกุมบ่อนพระปิ่น 3 เริ่มต้นเมื่อช่วงค่ำวันที่ 19 มี.ค. 67 เวลา 21.00 น. เมื่อ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย นำชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง สนธิกำลังเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง บุกเข้าจับกุมบ่อนการพนันขนาดใหญ่ ในพื้นที่ ต.บางแม่นาง อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า "บ่อนพระปิ่น 3" สามารถจับกุมนักพนันได้กว่า 300 ราย พร้อมของกลางอุปกรณ์การพนันและเงินจำนวนมาก

มีรายงานว่า จุดเริ่มต้นของปฏิบัติการ มาจากประชาชนร้องเรียนไปทางสำนักงานรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายชาดา ไทยเศรษฐ์ และได้ร้องเรียนมายังกรมการปกครอง ถึงการลักลอบเปิดบ่อนดังกล่าว 

ในการจับกุม นายอนุทิน ยอมรับว่า บ่อนแห่งนี้มีขนาดใหญ่มาก แถมยังเปิดแบบเย้ยกฎหมาย จึงจะต้องเอาผิดผู้ที่เกี่ยวข้อง โดยจะไม่รับเคลียร์อย่างเด็ดขาด 
สรุปปมร้อน บุกจับบ่อนพระปิ่น 3 ปฏิบัติการทลายโคตรบ่อน สะเทือนถึงการเมือง

วันที่ 20 มี.ค. 67 

ภายหลังการจับกุมบ่อนพระปิ่น 3 พล.ต.ต.ปรารถนา แผ่นผา ผบก.ภ.จว.นนทบุรี มีคำสั่งย้าย 3 เสือโรงพักบางใหญ่ ให้ไปปฏิบัติราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการ ตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรี โดยให้ขาดจากต้นสังกัดเดิม พร้อมตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง  

ตามมาด้วยคำสั่งของ พล.ต.ท.จิรสันต์ แก้วแสงเอก ผบช.ภ.1 ให้ตั้งคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริง พร้อมสั่งให้ 5 เสือ สภ.บางใหญ่ ประกอบด้วย ผกก.สภ.บางใหญ่ , สว.สส. , สวป. มาปฏิบัติหน้าที่ที่ ศปก.ภ.1 

ส่วนนักพนัน ทางพนักงานสอบสวนได้นำทั้งหมด ส่งฟ้องศาลแขวง จ.นนทบุรี ในข้อหาร่วมกันเล่นการพนัน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป พร้อมสืบสวนหาเจ้าของบ่อนต่อไป 

นายอนุทิน ยืนยันว่า บ่อนแห่งนี้อยู่ในคิวที่ต้องจับกุม ปฏิบัติการเป็นไปตามนโยบายรัฐบาล ในการปราบปรามผู้มีอิทธิพลและสิ่งผิดกฎหมาย พร้อมมีการพูดถึงสัญญาณการปรับ ครม. จากพรรคเพื่อไทย และการประเมินผลของรัฐมนตรีของพรรคภูมิใจไทย

ส่วนที่รัฐสภา นายนนท์ ไพศาลลิ้มเจริญกิจ สส.พรรคก้าวไกล แถลงข่าว อ้างว่า นายคุณากร มั่นนทีรัย สส.เขต 5 นนทบุรี พรรคก้าวไกล ที่ลงพื้นที่สังเกตการณ์ ถูกเจ้าหน้าที่หิ้วออกจากพื้นที่ ตามคำสั่งของผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี ซึ่งภายหลังทางผู้ว่าฯ ได้มอบหมายตัวแทนเข้าแจ้งความเอาผิดฐานหมิ่นประมาท แก่นายนนท์ 

วันที่ 21 มี.ค. 67 

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์
รอง ผบ.ตร. รรท.ผบ.ตร.ได้ลงนามในคำสั่งให้ พล.ต.ต.ปรารถนา แผ่นผา ผบก.ภ.จว.นนทบุรี ไปปฏิบัติราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรภาค 1 (ศปก.ภ.1) จากเหตุบกพร้อมการรายงานเหตุ และมอบหมายให้ พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วย ผบ.ตร. ลงไปติดตามตรวจสอบว่า มีตำรวจเกี่ยวข้องหรือไม่ 

ขณะที่ส่วนของ ผู้เล่น เจ้ามือและผู้จัดให้มีการเล่นพนัน (พนักงานบ่อน) พนักงานสอบสวนควบคุมตัวส่งฟ้องศาลแขวงนนทบุรี หลังเมื่อวันที่ 20 มี.ค. 67 นำนักพนันไปส่งฟ้อง โดยสรุปยอดนักพนันทั้งหมด 327 คน แยกเป็นผู้เล่นทั้งหมด 308 คน เป็นเจ้ามือและรับเป็นผู้จัดให้มีการเล่นพนัน 19 คน ศาลสั่งปรับนักพนันคนละ 2,500 บาท ส่วนผู้ที่รับเป็นเจ้ามือและเป็นผู้จัดให้มีการเล่นพนันทั้ง 19 คน ที่ถูกแจ้งดำเนินคดีสองข้อหา ตัดสินลงโทษจำคุกคนละ 2 ปี โดยไม่รอลงอาญา
สรุปปมร้อน บุกจับบ่อนพระปิ่น 3 ปฏิบัติการทลายโคตรบ่อน สะเทือนถึงการเมือง

วันที่ 22 มี.ค. 67 ประเด็นเรื่องบ่อนพระปิ่น 3 เริ่มร้อนมากยิ่งขึ้น 

เมื่อ พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วย ผบ.ตร. ได้ลงพื้นที่เก็บหลักฐาน พร้อมเปิดเผยว่า จากการสืบสวนเจ้าของบ่อน เป็นผู้ที่คลุกคลีกับวงการพนันอยู่แล้ว มีประวัติเคยประกอบธุรกิจผิดกฎหมายในพื้นที่กรุงเทพฯ พร้อมยอมรับว่า ตั้งแต่เป็นตำรวจมาไม่เคยจับบ่อนที่มีขนาดใหญ่เท่านี้มาก่อน 

ทั้งนี้มีการเปิดเผยถึงรายงานการจับกุมบ่อนพระปิ่น 3 ว่า มูลเหตุการจับกุมครั้งนี้ เพราะมีคนของรัฐบาลมาเล่นพนันเสียเงิน 15 ล้าน แต่ไม่สามารถเคลียร์ได้ จึงมีการแจ้งจับ ซึ่งเรื่องนี้จะต้องมีการสอบสวนต่อไป
พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วย ผบ.ตร.


วันเดียวกัน นายสันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตตำรวจสันติบาล เดินทางไปที่กระทรวงมหาดไทย เพื่อขอเข้าพบ นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทย มีการอ้างว่า เจ้าของบ่อนที่มีชื่อว่า "เสี่ยนกเขา" อ้างว่า รู้จักกับนายชาดา เป็นการส่วนตัว จึงต้องการมาสอบถามความสัมพันธ์ของทั้งคู่ และเหตุใดการจะบุกจับ ถึงไม่ส่งสัญญาณให้คนที่รู้จักกัน และยังให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ในแต่ละเดือน บ่อนแห่งนี้มีรายได้เดือนหนึ่งเป็นร้อยล้าน และเชื่อว่าผู้ที่อยู่เบื้องหลังต้องมีส่วนได้เสียกับกรณีดังกล่าวด้วย
นายสันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตตำรวจสันติบาล

ด้าน นายอนุทิน ระบุถึงกรณีที่ นายสันธนะ ออกมาให้ข้อมูลว่า เป็นเรื่องที่เพ้อเจ้อ โดยยืนยันการจับกุมเป็นหน้าที่ปกติของกระทรวงมหาดไทย และเป็นความลับ หากบ่อนมีความเอี่ยวโยงกับผู้มีอิทธิพล จะจับกุมได้หรือไม่ รวมถึงเรื่องนี้ไม่ได้มีการสอบถาม นายชาดา แต่อย่างใด  

วันที่ 23 มี.ค. 67

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้มีการโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ส่วนตัว Suttipong Juljarern พร้อมภาพการพาดหัวข่าวที่ระบุว่า มีนักการเมืองระดับรัฐมนตรี เล่นเสีย 15 ล้านบาท ไม่สามารถขอเครดิตเคลียร์เงินได้ จึงแจ้งเบาะแสกระทรวงมหาดไทยวางแผนจับกุม โดย นายสุทธิพงษ์ ได้ระบุข้อความว่า ตนเองตั้งใจจะอยู่นิ่งๆ เพราะไม่อยากซ้ำเติมหน่วยราชการที่ปล่อยปละละเลย จนมีบ่อนขนาดใหญ่

พร้อมระบุว่า เมื่อชุดปฏิบัติการพิเศษของกรมการปกครอง สามารถจับกุมบ่อนดังกล่าวได้ กลับมีการปล่อยข่าวทั้งเรื่องรัฐมนตรีมีเอี่ยว รัฐมนตรีเล่นเสีย เลยล้างแค้น พร้อมประกอบการรำพึงรำพันถึงสังคมไทยว่าช่างมโนได้ถึงขนาดนี้ 

ชุดปฏิบัติการพิเศษของกรมการปกครอง ได้ดำเนินการสืบสวนสอบสวนตามเบาะแสที่จังหวัดนนทบุรี แจ้งมา เป็นระยะเวลาร่วมเดือน จึงสามารถแทรกซึม เข้าไปฝังตัวในบ่อนนี้ได้ จนเป็นที่มาของการเข้าจับกุมได้ บ่อนใหญ่แน่นหนาขนาดนี้ ยากมากจะแทรกซึมเข้าไปเพื่อควบคุมและเปิดทางให้กำลังในเครื่องแบบเข้าจับกุม

การจับกุมก็เพื่อไม่ให้สิ่งที่ผิดกฎหมายอย่างนี้ทำลายสังคม ทำลายครอบครัว เพราะสมาชิกในครอบครัวเสียการพนัน หมกมุ่นในการพนัน ให้บทเรียนการที่ฝ่ายปกครองต้องออกโรงเข้าจับกุมเช่นนี้ เป็นต้นทางปรับปรุงต้นทางของกระบวนการยุติธรรมของประเทศในพื้นที่สื่อ แทนข่าวลือด้อยค่าการทำงานของข้าราชการฝายประจำจะดีกว่าไหม



ขณะที่ นายชาดา ออกมาชี้แจงกรณีที่ นายสันธนะ อ้างการจับกุมบ่อนบางใหญ่ จ.นนทบุรี มีนักการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องว่า โดยยืนยันว่า ไม่ให้ราคากับเรื่องดังกล่าว เป็นการสร้างเรื่องนิยายทิพย์ แต่หากมีหลักฐานพาดพิงตน ตนเอาแน่

ซึ่งกรณีที่ถูกพาดพิง ทั้งนายอนุทิน และนายเศรษฐา ไม่ได้สอบถามมาที่ตนแต่อย่างใด พร้อมย้ำว่า เรื่องที่เกิดขึ้น ว่าจะมีผลต่อภาพลักษณ์ และมีผลต่อการปรับ ครม. หรือไม่นั้น อยู่ที่การพิจารณาของผู้ใหญ่ 

เช่นเดียวกับ นายเศรษฐา ที่ระบุถึงการพาดพิง นายชาดา มีความสนิทสนมกับเจ้าของบ่อน ว่า ต้องให้ความเป็นธรรมกับ นายชาดา ด้วย เพราะถ้ารู้จักคนเยอะ พอคนนึงทำผิด และจะบอกมีส่วนเกี่ยวข้อง มองว่าไม่ค่อยแฟร์ เรื่องนี้ก็ไม่ได้ไปก้าวก่าย และจะไม่สอบถามนายชาดา เพราะเป็นหน้าที่ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และฝ่ายความมั่นคง หากสาวถึงใครก็ต้องมีความผิด
สรุปปมร้อน บุกจับบ่อนพระปิ่น 3 ปฏิบัติการทลายโคตรบ่อน สะเทือนถึงการเมือง

วันที่ 24 มี.ค. 67 

นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทย ยังคงถูกถามเกี่ยวกับเรื่องที่ นายสันธนะ ออกมาแฉพาดพิงเชื่อมโยงบ่อนการพนันย่านบางใหญ่ จ.นนทบุรี  ระหว่างเดินทางมาการประชุมสามัญประจำปีพรรคภูมิใจไทย ที่ สโมสราชพฤกษ์ โดยนายชาดา กล่าวเพียงสั้น ๆ ว่า “ปากแห้ง ถือศีลอด ไม่อยากพูด” จากนั้น ได้เดินเข้าห้องประชุมทันที
นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทย

ขณะที่ช่วงบ่าย นายสันธนะ เข้าแจ้งความที่ สน.ลุมพินี เพื่อเอาผิด นายชาดา ในข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา จากกรณีที่นายชาดา ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน และมีการพาดพิง ใช้คำพูดด้อยค่า เหยียดยาม ทำให้ตนและครอบครัวเสื่อมเสียชื่อเสียง โดยเป็นการแจ้งความแยกสำนวนต่างกรรมต่างวาระ รวมทั้งหมด 4 คดี รวมถึงหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับคดีบ่อนบางใหญ่ ที่ได้มาจากเจ้าของบ่อน เป็นข้อมูลเพิ่มเติม 

โดยนายสันธนะ ระบุว่า หลังจากนี้จะไปร้องถึงนายกรัฐมนตรี ให้ตรวจสอบพฤติกรรมของนายชาดา และรับรองว่า รัฐมนตรีภายใต้การกำกับดูแลของตัวเอง ไม่ชอบการพนันจริงหรือไม่

ทั้งนี้ นายสันธนะ ยังระบุถึงกระแสข่าวมีรัฐมนตรี ไปเล่นการพนันที่บ่อนแห่งนี้ แล้วเสียพนันไป 15 ล้านบาท ว่า ไม่รู้ข้อมูลส่วนนี้ แต่ที่รู้คือกล้องวงจรปิดในโซน VIP หายไป รวมถึงไม่กลัวและพร้อมหากนายชาดา จะแจ้งความกลับ  
สรุปปมร้อน บุกจับบ่อนพระปิ่น 3 ปฏิบัติการทลายโคตรบ่อน สะเทือนถึงการเมือง