"แพทองธาร" เผยอาการ "ทักษิณ" ดีขึ้นขอให้ทุกฝ่ายยุติพูดถึงนายกฯ 2 คน

25 กุมภาพันธ์ 2567 ยังคงต้องเกาะติดความเคลื่อนไหว หลังจากที่ "นายทักษิณ ชินวัตร" อดีตนายกรัฐมนตรี ได้รับการพักโทษ กลับมาอยู่ที่ "บ้านจันทร์ส่องหล้า" เมื่อวันที่ 18 ก.พ. ที่ผ่านมา

จันทร์ส่องหล้าช่วงเช้าเงียบเหงา

สำหรับบรรยากาศที่ "บ้านจันทร์ส่องหล้า" เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เป็นไปด้วยความเงียบเหงา มีเพียงสื่อมวลชนที่คอยเกาะติดสถานการณ์ ยังไม่มีบุคคลสำคัญหรือครอบครัวเดินทางมาพบนายทักษิณที่บ้านพัก

หลังจากวานนี้ "นายเศรษฐา ทวีสิน" นายกฯ ได้เข้าพบนายทักษิณ พร้อมทั้งให้สัมภาษณ์ว่า ครอบครัวชินวัตร จะเดินทางมารับประทานอาหาร ร่วมกับนายทักษิณ ในวันนี้ (25ก.พ.) ขณะที่มีรายงานว่าครอบครัวชินวัตร จะเข้ามาร่วมรับประทานอาหารกับนายทักษิณในช่วงเย็น เนื่องจากครบ 7 วัน ที่นายทักษิณ ได้รับการพักโทษ

อย่างไรก็ตาม มีเพียงเจ้าหน้าที่จากสำนักงานเขต ได้เข้ามาฉีดยุงภายในบ้านจันทร์​ส่องหล้า ทำให้นักข่าวที่มาเกาะติดบรรยากาศบริเวณด้านหน้าต้องหลบ เพราะมีควันลอยออกมาจากตัวบ้านจำนวนมาก 

ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางพลัด ก็ยังคงสลับสับเปลี่ยนกำลัง มาดูเรื่องความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกให้ประชาชนที่บริเวณซอยจรัญสนิทวงศ์ 69 

 

ดินเนอร์ครอบครัวชินวัตรไร้ลูกเขย-ลูกสะใภ้-หลาน

ด้าน "น.ส.แพทองธาร ชินวัตร" หัวหน้าพรรคเพื่อไทย เปิดเผยกับสื่อมวลชน ว่า วันนี้มีการรับประทานอาหารร่วมกันของครอบครัวเพื่อรำลึกความหลัง ซึ่งเป็นการรับประทานกัน 5 คน ได้แก่ นายทักษิณ คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ นายพานทองแท้ น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ และตนเอง ไม่มีหลาน ๆ ลูกสะใภ้หรือลูกเขย

ทั้งนี้ ยืนยันว่า ไม่มีประเด็นการเมืองใด ๆ ทั้งสิ้น เพราะปกติจะพยายามทานข้าวครอบครัวให้ได้สัปดาห์ละหนึ่งครั้ง ซึ่งหากถ้าไม่ได้วันอาทิตย์ ก็จะเป็นวันธรรมดา โดยในวันนี้เมนูอาหาร ทางนายทักษิณ เป็นคนเตรียมเอาไว้ให้ แต่ตนเองคาดว่าน่าจะเป็นอาหารไทย และจะถ่ายเมนูลงในสตอรี่ไอจีให้ได้รับทราบ

ส่วนอาการของนายทักษิณนั้น ตอนนี้แพทย์ได้บอกว่าอย่าพึ่งออกไปไหน สิ่งที่ตนเองสังเกตได้คือเสียงของนายทักษิณ สดใสขึ้น คงจะสบายขึ้น ซึ่งคนเป็นลูกดีใจอยู่แล้วที่จิตใจดูดีขึ้นจริง ๆ นายทักษิณเป็นคนที่แอคทีฟมาก เมื่อไปอยู่ในที่เดิมนาน ๆ ก็รู้สึกไม่ดีอย่างแน่นอน และนายทักษิณบอกว่าได้ขึ้นบันไดครั้งแรก ก็บอกว่าเจ็บขา ซึ่งก็ต้องพยายาม เพราะถูกจำกัดที่มานาน ก็ต้องปรับตัว พร้อมย้ำว่า จิตใจดีขึ้น มีกำลังใจเยอะ

ส่วนเรื่องอาการเส้นเอ็นเปื่อยยุ่ยที่นายทักษิณเป็นนั้น ถือเป็นโรคคนแก่ เกิดขึ้นจากการคว้าหยิบของ ไม่ได้มีการล้ม หรือเกิดอุบัติเหตุอะไร ซึ่งต้องใช้เวลาผ่านานมาก

เชื่อพ่ออยากเจอคนในพรรค-คนเสื้อแดง

สำหรับสื่อมวลชนที่ต้องการพบนายทักษิณนั้น ตอนนี้ยังไม่มีแพลนออกมา แต่คิดว่านายทักษิณ อยากเจออย่างแน่นอน ทั้งคนเสื้อแดง และคนที่คอยสนับสนุน ซึ่งตอนนี้ญาติ ๆ หลายคนยังไม่ได้เจอ คงจะค่อย ๆ เจอกันไป แต่ถ้าโอเคเมื่อไหร่ คาดว่าจะทยอยเจอ ตนเองกังวลเรื่องปัญหาสุขภาพ ขอรอให้ภูมินายทักษิณดีขึ้น ถ้าติดหวัดมาจะได้ไม่เป็นอะไรมา

ส่วนต่อไปจะมีแขกวีไอพีเข้ามาเพิ่มอีกหรือไม่นั้น ยังไม่ทราบเลย มีข่าวอะไรหรือไม่ ซึ่งนายทักษิณบอกว่าอยากเจอญาติ ๆ  อีกหลายคน แต่ยังไม่ได้มีเวลานัดกัน

น.ส.แพทองธาร ยืนยันว่า สำหรับการรับตำแหน่งทางการเมืองของนายทักษิณนั้น ยังไม่มีการพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องการเมือง ตนเองในฐานะหัวหน้าพรรค อยากให้นายทักษิณ ได้เจอคนในพรรคบ้าง เพราะน่าจะช่วยในเรื่องทางใจ ทุกคนคงคิดถึง แต่ยังไม่ทราบว่าจะได้เจอเมื่อไหร่ ขอให้รอก่อน ยังไม่รีบ และจะให้ไปเจอที่พรรค หรือที่บ้านนั้น ก็ไม่ติด

"ให้ทางคุณพ่อเป็นคนเลือกดีกว่า ถ้าเจอก็จะได้ให้กำลังใจกัน ถ้าได้เจอเยอะขึ้น ก็คงจะดี ถ้าไปที่พรรคก็จะได้รู้ว่า เรานั่งทำงานที่ตรงไหน เพราะท่านไม่ได้เห็นมานานแล้ว" น.ส.แพทองธาร ระบุ 

ส่วนเมื่อวานนี้ที่นายเศรษฐา เข้าเยี่ยมนายทักษิณนั้น ตนเองไม่ทราบเลย เพราะเคยคุยกันว่า ถ้ามีโอกาสเดี๋ยวจะเข้ามาเยี่ยม แต่ก็มาเมื่อวานทันที สำหรับกระแสข่าวเรื่องที่นายเศรษฐา เข้ามาพบนายทักษิณ จะทำให้มีนายกรัฐมนตรี 2 คนนั้น ตอนที่นายเศรษฐาได้รับตำแหน่งนายกฯ ก็มีข่าวเรื่องนี้ตอนอยู่กับตน พออยู่กับนายทักษิณก็มีข่าวนี้ ให้นายเศรษฐาทำหน้าที่ของตนเองไปดีกว่าหรือไม่ อยากย้ำว่า ไม่ต้องพูดเรื่องนี้ดีกว่า

เปิดเมนูดินเนอร์บ้านชินวัตร สปาเกตตี้-ไข่คว่ำ-ไอศกรีม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลัง น.ส.แพทองธาร โพสต์รูปภาพผ่านสตอรี่ไอจีถึงเมนูอาหารเย็นที่รับประทานร่วมกับครอบครัววันนี้ คือ สปาเกตตี้ พร้อมระบุข้อความว่า สปาเกตตี้สูตรพ่อ แต่แม่ครัวทำ เค็มกว่าปกติเล็กน้อย นอกจากนี้ ยังมีไข่คว่ำ เช่นเดียวกับ น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ที่โพสต์รูปภาพผ่านสตอรี่ไอจีเป็นถังไอศกรีม

"จ่าประสิทธิ์" อดเยี่ยม "โทนี่" หลังมาไม่นัดหมาย

ขณะที่ช่วงสายวันนี้ "จ.ส.ต.ประสิทธิ์ ไชยศรีษะ" อดีต สส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย และอดีตแกนนำคนเสื้อแดง ได้เดินทางมาจาก จ.ศรีสะเกษ เพื่อมาขอเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ที่บ้านจันทร์ส่องหล้า โดยไม่ได้นัดหมายล่วงหน้า พร้อมไปกดกริ๊งหน้าบ้านเพื่อติดต่อเข้าพบ 

ก่อนจะให้สัมภาษณ์ ว่า วันนี้ตั้งใจมาพบกับนายทักษิณ เพื่อให้กำลังใจ เพราะนายทักษิณเป็นคนที่ทำคุณประโยชน์ให้กับประเทศไทยและคนไทยมากมาย และตนเองก็ประทับใจเรื่องนโยบายที่ทำให้ประชาชนคนบ้านนอกได้อยู่ดีกินดี และที่ผ่านมานายทักษิณ ก็ได้ให้ความเมตตากับตนเองมาตลอด แม้จะเคยถูกตัดสิทธิทางการเมือง ไม่สามารถทำกิจกรรมทางการเมืองได้

"ที่ผ่านมามีโอกาสได้เข้าไปพบหลายครั้งตั้งแต่อยู่ที่ดูไบ สิงคโปร์ และวันนี้นายทักษิณกลับมาที่ประเทศไทยแล้ว จึงถือโอกาสเข้ามาเยี่ยม เพื่อแสดงความสำนึกบุญคุณ รู้สึกชื่นชมและประทับใจ รักและเคารพท่านมาตลอด" จ.ส.ต.ประสิทธิ์ กล่าว

ทั้งนี้ ส่วนตัวเชื่อว่า คนไทยหลายคนดีใจที่นายทักษิณกลับมา และเชื่อมั่นในตัวของนายทักษิณ อยากให้รักษาสุขภาพให้ดี และการกลับมาครั้งนี้ เชื่อว่าจะทำให้คนไทยอยู่ดีกินดี มองว่าหากประเทศไทยมีทั้งนายทักษิณและนายเศรษฐา ก็จะทำให้คนไทยอยู่ดีกินดี และประเทศจะดีขึ้น

เมื่อถามว่า อยากให้นายทักษิณมารับตำแหน่งไหน จ.ส.ต.ประสิทธิ์ กล่าวว่า "ตำแหน่งไหนก็ได้ที่ได้ประโยชน์กับประเทศไทย ถ้าเป็นนายกฯ ได้ยิ่งดี เพราะเป็นผู้มีความรู้ความสามารถ หรือเป็นที่ปรึกษาก็ได้ เพราะท่านอยู่ตรงไหนก็ได้ประโยชน์"

อยากให้กลับมาบริหารประเทศหลังบอบช้ำมานาน

เมื่อถามว่า จะไม่ถูกมองว่าประเทศไทยมีนายกฯ 2 คนหรือไม่ จ.ส.ต.ประสิทธิ์ กล่าวว่า นั่นเป็นเพียงความคิดของคนที่ไม่เห็นด้วย ตนอยากให้ความขัดแย้งจบลง อยากให้นายทักษิณกลับมาบริหารประเทศ เพราะประเทศบอบช้ำมามากแล้ว มีสภาพเหมือนเมืองร้าง ตนไม่อยากให้ประเทศแย่ไปกว่านี้

"จึงต้องถามกลับว่า การที่เราจะได้คนที่มีความรู้ความสามารถ มาช่วยพัฒนาประเทศมันไม่ดีอย่างนั้นหรือ หลายประเทศอยากได้นายทักษิณไปช่วย อย่างไรก็ตาม การนายเศรษฐาเข้าพบกับนายทักษิณ ก็ไม่ได้เข้ามาพบนายทักษิณเพียงคนเดียว แต่ที่ผ่านมา ก็มีการเดินสายพบทุกอดีตนายกฯ หลายคน จึงอยากให้ทุกคนเปิดใจกว้าง และมองเรื่องการพัฒนาประเทศ" อดีตแกนนำเสื้อแดง ระบุ

เมื่อถามว่า มีคนมองว่านายทักษิณเป็นต้นตอของความขัดแย้งเนื่องจากมีการใช้อภิสิทธิ์ในการได้รับการพักโทษ จ.ส.ต. ประสิทธิ์ ระบุว่า ไม่ใช่ ทำไมไม่มองย้อนกลับไปเมื่อ 17 ปีที่แล้ว การที่นายทักษิณถูกยึดอำนาจ และยังมีการตั้งองค์กรต่างๆ ขึ้นมาทำร้ายนายทักษิณ มีการยุบพรรคอยู่ฝ่ายเดียว อีกฝั่งทำผิดกลับไม่เคยโดนอะไรเลย เพราะฉะนั้นนายทักษิณได้รับความยุติธรรมตั้งแต่แรก 

วันนี้พอกลับมาแล้วก็ถูกมาหาเรื่องต่อ เพราะฉะนั้นคนที่มาหาเรื่องก็คือคนที่ไม่ชอบนายทักษิณแบบเข้าสมอง เข้าจิตใจ แต่กาลเวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าอะไรจริงหรือไม่จริง มีหลายคนที่เปลี่ยนใจมารักทักษิณก็เยอะ จากที่เคยเกลียด

ส่วนที่หลายคนไม่เชื่อว่า นายทักษิณมีอาการป่วยจริงนั้น คนที่พูดแบบนี้ คือ คนที่ไม่เปิดใจและไม่ชอบอยู่เบื้องลึก ยืนยันว่านายทักษิณมีอาการป่วยจริง เพราะตั้งแต่ที่ตนไปพบที่ดูไบก็ป่วยเป็นโควิด ใครจะคิดอย่างไรก็ได้ แต่หลักฐานทางการแพทย์ มีทั้งใบรับรองแพทย์ และเชื่อว่าบุคลากรทางการแพทย์มีจรรยาบรรณ ไม่มีใครเอาศักดิ์ศรีมาแลกกับเรื่องแบบนี้ หากเป็นเรื่องที่ไม่จริง และคนอายุ 70 ปีอะไรก็เสื่อมลง

สนับสนุนนิรโทษกรรมคนทุกกลุ่มมาพัฒนาชาติ 

ทั้งนี้ ตนเห็นด้วยกับการแก้กฎหมายนิรโทษกรรม อยากให้ผู้มีอำนาจโดยเฉพาะสภาพิจารณา โดยไม่อยากให้การนิรโทษกรรม เป็นการเลือกปฏิบัติ อยากให้นิรโทษกรรมทุกฝ่าย โดยเฉพาะคดีทางการเมือง ไม่ว่าจะเป็นคดีอะไรก็ช่าง รวมถึงผู้ต้องคดี ม.112 ถ้าไม่ให้โอกาสลูกหลาน คนที่มีความคิดต่างทางการเมือง บางทีอาจจะด้วยเจตนาหรือไม่เจตนา จะถูกกล่าวหาอย่างไรก็ช่าง ตนคิดว่าการให้โอกาส การให้อภัยเป็นเรื่องที่ดี ต่อให้คนนั้นผิดก็ช่าง ตนคิดว่าหากคนมีจิตสำนึกก็จะไม่ไปทำอีก เขาจะภูมิใจ และร่วมกันพัฒนาบ้านเมืองของเรา

จากนั้น จ.ส.ต.ประสิทธิ์ ได้ไปกรดกริ๊งประตูบ้าน และเคาะประตูบ้านเพื่อต้องการติดต่อขอเข้าพบ แต่ไม่มีการตอบรับ เพราะไม่ได้นัดหมายมาล่วงหน้า ประมาณไม่ถึง 10 นาที จ.ส.ต.ประสิทธิ์ ก็เดินทางกลับด้วยรถแท็กซี่ พร้อมบอกว่าจะประสานและเดินทางมาเพื่อติดต่อเข้าเยี่ยมเรื่อย ๆ จนกว่าจะได้เข้าพบ

ขณะเดียวกัน วันนี้กลุ่มคนเสื้อแดง นำโดย นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ นายพายัพ ปั้นเกตุ นายวรชัย เหมะ และ นายสมชาย ไพบูลย์ จะมีการจัดกิจกรรม "รวมพลคนรักประชาธิปไตยให้กำลังทักษิณ" ที่ห้างอิมพีเรียลเวิลด์ สำโรง ชั้น 6 จ.สมุทรปราการ