8 ธันวาคม 2566 นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงการส่งคำถามการกู้เงิน 500,000 ล้านบาท ให้คณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณา เพื่อนำมาดำเนินนโยบายแจกเงินดิจิทัล วอลเล็ต ว่า ได้ส่งตีความตามที่เป็นข่าวไปแล้ว โดยสำนักนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง โดยหวังว่า คณะกรรมการกฤษฎีกาจะมีการตีความโดยเร็วที่สุด เพื่อให้รัฐบาลได้ดำเนินการต่อ แต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของคณะกรรมการกฤษฎีกา เชื่อว่า กรรมการแต่ละคนอยู่ใน คณะกรรมการเงินดิจิทัล วอลเล็ต อยู่แล้ว จะทราบปัญหา และถ้าเห็นว่าเป็นวิกฤตก็ควรจะรีบดำเนินการ
ส่วนหากมีข้อทักท้วงจากคณะกรรมการกฤษฎีกา รัฐบาลก็จะยังคงเดินหน้า แต่ปรับในรายละเอียดเพิ่มเติมหรือไม่นั้น นายภูมิธรรม กล่าวว่า จะต้องรอดูในรายละเอียดอีกครั้ง แต่นโยบายดังกล่าว เป็นนโยบายของพรรคฯ ที่ได้หาเสียงไว้กับประชาชน และได้แถลงต่อรัฐสภาแล้ว โดยมุ่งหมายว่า นโยบายนี้จะเป็นใบเบิกทาง ทำให้เศรษฐกิจของประเทศดีขึ้น ซึ่งหากคณะกรรมการกฤษฎีกา มีข้อห่วงใยในประเด็นที่ไม่ใช่สาระสำคัญ รัฐบาลก็อาจพิจารณาปรับปรุงและเดินหน้าต่อ แต่หากเป็นข้อท้วงติงที่จะกระทบต่อโครงการ ก็อาจจะต้องมาทบทวนรายละเอียดอีกครั้ง
นายภูมิธรรม ยังกล่าวถึงกรณีที่ นายวิษณุ เครืองาม อดีตรองนายกรัฐมนตรี ในฐานะกรรมการกฤษฎีกา ได้เสนอให้รัฐบาล ถามคำถามไปยังกฤษฎีกา 2 ช่วงว่า ขอบคุณนายวิษณุ แต่ทั้งหมดก็จะต้องนำมาพิจารณา และรอฟังคณะกรรมการกฤษฎีกาก่อน ว่ามีความเห็นอย่างไร
ทั้งนี้ก่อนหน้านี้ นายวิษณุ เครืองาม คณะกรรมการกฤษฎีกา ได้แนะแนวทางรัฐบาล ในการถามกฤษฎีกา ถึงการออกร่างพ.ร.บ.กู้เงิน 5 แสนล้านบาท เพื่อใช้ในโครงการดิจิทัล วอลเล็ตว่า หากส่งมาแล้วก็มี 2 ทางเลือก คือนำเข้าคณะทำงานที่ชำนาญด้านนี้ ที่มีนายพนัส สิมะเสถียร เป็นประธาน เพราะเป็นคนร่างกฎหมายวินัยการเงินการคลัง ซึ่งอาจจะทำหน้าที่ตรงนี้ได้ดีกว่า และตนไม่ได้อยู่คณะนี้
หรืออาจจะนำเข้าคณะพิเศษ ดึงคนที่มีความชำนาญด้านต่างๆ เพราะ มองแล้วไม่ใช่มิติด้านกฎหมายการเงินการคลังเพียงอย่างเดียว แต่มีกฎหมายเรื่องเงินคงคลัง กฎหมายวิธีการงบประมาณ และกฎหมายเลือกตั้งและรัฐธรรมนูญ ที่ต้องอาศัยความสามารถของกรรมการ หลายคณะ
อย่างไรก็ตามเห็นว่าทางออกที่ดี ควรส่งคำถามเป็น 2 ช่วง คือ ช่วงแรกควรถามว่า รัฐบาลประสบปัญหาวิกฤต ประเทศชาติมีวิกฤต และ รัฐบาลคิดว่าจะทำอย่างนี้ถูกกฎหมายหรือไม่ ถ้าไม่ถูกขอให้ช่วยแนะนำว่าควรทำอย่างไร ถึงจะทำได้เพื่อช่วยแก้วิกฤต ซึ่งหากกฤษฎีกาตอบมาว่า ออกร่างกฎหมายกู้เงินได้ก็ค่อยส่ง ร่างกฎหมายไป รอบที่ 2
ไม่ใช่อยู่ดีๆแล้วส่งร่างกฎหมายกู้เงินไปเลย เพราะถ้าทำเช่นนี้ ก็จะตรวจสอบได้เฉพาะว่า ร่างกฎหมายนี้ถูกต้องตามกฎหมายวินัยการเงินการคลังหรือไม่ และถ้อยคำ ถูกต้องหรือไม่ ซึ่งจะไม่ได้คำตอบที่ต้องการและวันหนึ่งจะมีคดีไปถึงศาลอีกอยู่ดี ดังนั้นจึงควรถาม 2 รอบ หากถามเร็วก็ตอบเร็ว เชื่อว่าทันเดือนพฤษภาคม 2567 อย่างแน่นอน