svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

"โรม"มององค์กรกากีเละเทะย้ำรบ.ถึงเวลายกการปฏิรูปตร.เป็นวาระแห่งชาติ

"รังสิมันต์ โรม" มององค์กรตำรวจเละเทะ ทำทุกวิถีทางเพื่อเข้าสู่อำนาจ หลังเกิดเหตุบุกค้นบ้าน "บิ๊กโจ๊ก" ชี้ควรยกเรื่องปฏิรูปโปลิศเป็นวาระสำคัญ เพื่อติดกระดุมเม็ดแรกให้ถูกในการเลือกผบ.ตร  หวัง"เศรษฐา"มาตอบกระทู้ถามในสภาฯ พฤหัสนี้ 

26 กันยายน 2566 "นายรังสิมันต์ โรม" สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวว่า กรณีที่ "พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล" รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร) ถูกบุกค้นบ้าน เนื่องจากมีความเกี่ยวโยงกับเว็บพนันออนไลน์นั้น ซึ่งเรื่องนี้มีผลเชื่อมโยงกับกรณีของกำนันนกแน่นอน เพราะช่วงเวลาเกิดขึ้นใกล้เคียงกับการเลือก ผบ.ตร.  ซึ่งตนเองก็ค่อนข้างปักใจไปกับเรื่องการแย่งชิงอำนาจในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ซึ่งเรื่องนี้สืบเนื่องมาจากกระบวนการภายในของตำรวจ ที่ปะปนไปกับทุนสีเทา ซึ่งเว็บการพนันที่ได้มีการพูดถึง ที่ก่อนหน้านี้ที่มีการจับกุมเจ้าแม่พนันออนไลน์ "มินนี่" และคดีกำนันนกที่ยังไม่ได้คลี่คลาย 

 

"มันต้องยอมรับว่าองค์กรตำรวจเละเทะพอสมควร เมื่อประกอบกันกับการต้องแย่งชิง ผบ.ตร. ผมก็คิดว่าการแข่งขันภายในค่อนข้างสูง ไม่ใช่การแข่งขันกันด้วยผลงานหรือไม่ สุดท้ายอาจจะเป็นการเตะตัดขา หรืออาจจะการทำทุกวิถีทางเพื่อจะแย่งชิงตำแหน่ง ผบ.ตร. ซึ่งกระบวนการแบบนี้ ผมคิดว่าจะทำให้ตำรวจอ่อนแอลง" นายรังสิมันต์ กล่าว 

ทั้งนี้ ส่วนตัวเห็นการให้สัมภาษณ์ของ "นายเศรษฐา ทวีสิน" นายกรัฐมนตรี ว่า เรื่องนี้ไม่ใช่การสังคายนา เพราะเป็นการไม่ให้เกียรติตำรวจ ตนคิดว่าเป็นคนละเรื่อง คิดว่านายเศรษฐาติดคำว่าเกียรติมากเกินไป จนบางครั้งอาจจะลืมนึกไปว่าถ้าทำเป็นแบบนี้ ตำรวจดีๆจะมีที่ยืนอย่างไร วันนี้ (26ก.ย.) ควรยกระดับวาระตำรวจให้เป็นวาระสำคัญของประเทศชาติ ต้องการตำรวจที่เป็นตำรวจของประชาชน ต้องการตำรวจที่ไม่ได้เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการทุนสีเทา ทุนสีดำ  หรือสิ่งผิดกฎหมายใดๆ สิ่งที่ต้องการวันนี้คือการติดกระดุมเม็ดแรก

 

"ผมเข้าใจดีว่าการปฏิรูปตำรวจไม่ใช่เรื่องง่าย เป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลา แต่เราต้องการกระดุมเม็ดแรกที่ถูกต้อง ซึ่งวันนี้อำนาจของนายกรัฐมนตรีที่มีโดยตรง คือ การเลือกผบ.ตร. และส่งชื่อไปให้ทาง คณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร) รับรอง ซึ่งนายกฯสามารถเริ่มกระบวนการตรงนี้ก็ได้ แต่เข้าใจว่าการเลือก ผบ.ตร. ตรงนี้อาจจะล่าช้าไปได้ อาจจะไม่ทันการ แต่คาดหวังว่ากระบวนการครั้งหน้า นายกฯจะชัดเจนในเรื่องการปฏิรูปตำรวจซึ่งสามารถทำได้ทันที" นายรังสิมันต์ กล่าว 

 

สำหรับข้อเสนอ 3 ข้อ คือ
 

  1. รอง ผบ.ตร. ที่ประสงค์จะเป็น ผบ.ตร. ให้ยื่นความจำนงต่อกรรมการที่นายกฯ ตั้งขึ้น พร้อม Porfolio ผลงานต่างๆ
  2. ให้มีการแสดงวิสัยทัศน์สาธารณะ ให้ประชาชนได้เห็นว่าคุณมีวิสัยทัศน์อะไร ต้องตอบคำถามให้ได้ว่า ที่จะเป็น ผบ.ตร. มีแผนพัฒนาตำรวจยังไง โดยเฉพาะภายใต้กรอบระยะเวลาที่ตนเองเหลืออยู่
  3. ให้ทำแพลตฟอร์มออนไลน์ ให้พี่น้องตำรวจสามารถลงทะเบียน เพื่อโหวตเลือก ผบ.ตร. ได้ เพื่อนายกฯ ทราบว่าตำรวจส่วนใหญ่อยากให้ใครเป็น ผบ.ตร. ทั้งนี้ แพลตฟอร์มนั้นจะไม่สามารถระบุตัวตนตำรวจที่โหวตดังกล่าวได้ รู้แค่ว่าเป็นตำรวจ ซึ่งสามารถทำได้ในปัจจุบัน


อย่างไรก็ตาม ตนคิดว่า 3 กระบวนการดังกล่าว ที่เป็นข้อเสนอจะนำไปสู่การยกระดับ เพื่อติดกระดุมเม็ดแรกให้สำเร็จแล้วที่เหลือค่อยๆทำ ค่อยๆแก้ ส่วนเรื่องตั๋ว เรื่องส่วย ถ้าไม่มีตั๋วก็ไม่มีส่วย ถ้าไม่มีตั๋ว ก็ไม่มีธุรกิจกฎหมาย สิ่งเหล่านี้จะค่อยๆหายไป ตำรวจน้ำดีก็จะมีที่อยู่ที่ยืน แต่ต้องไม่ลืมว่าอะไรที่ยังค้างคาอยู่ในสังคม คนที่นายกฯต้องรีบจัดการ

 

"วันนี้ผมสนับสนุนให้มีการตั้งกรรมการสอบสวนหรือสืบค้นข้อเท็จจริงการตรวจค้นบ้านพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ และจับกุมตํารวจที่เกี่ยวข้อง แต่วิธีการแบบนี้ก็ควรจะใช้กับกรณีกำนันนกด้วย ขยายผลว่าใครเป็นลมใต้ปีกของกำนันนก กำนันนก อายุ 35 ปีมาถึงขนาดนี้ได้อย่างไร ขยายผลว่าให้เห็นว่ามีตำรวจที่ทุจริตเข้าไปเกี่ยวข้องเรื่องนี้มีใครบ้างขยายผลให้หมดใช้โอกาสนี้เปลี่ยนวิกฤตเป็นโอกาสเอาตำรวจน้ำไม่ดีออกจากระบบ แล้วเราจะมีตำรวจที่มีคุณภาพมากขึ้น" นายรังสิมันต์ ระบุ

 

ทั้งนี้ คณะกรรมการที่ตั้งขึ้นมาสำคัญก็คือ จะต้องมีการอัปเดตกับประชาชนเป็นระยะ เพื่อให้รับรู้รับทราบว่า ตกลงแล้วมีความคืบหน้าอย่างไร และต้องกำหนดระยะเวลา ว่าสังคมไทยต้องรอถึงเมื่อไหร่ ไม่อยากให้สักพักเรื่องก็เงียบ อยากให้มีความชัดเจนเรื่องของไทม์ไลน์ กระบวนการสื่อสารกับสังคมเป็นระยะ ตนคิดว่าจะเห็นกระบวนการที่โปร่งใสมากขึ้น

สำหรับในการประชุม สส.วันนี้ ตนได้ยื่นความจำนงที่จะตั้งกระทู้สดต่อนายกฯในเรื่องของตำรวจ ต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ดังนั้น ในวันที่ 28 ก.ย.นี้ น่าจะมีการตั้งกระทู้สดในสภาและหวังว่านายกฯจะมาตอบ ซึ่งที่ผ่านมากับการตั้งกระทู้สดในสภา นายกรัฐมนตรี อย่าง "พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา" ไม่มาตอบเลย และตนหวังว่ายุคนี้ซึ่งเป็นยุคใหม่ มีนายกฯที่เป็นพลเรือน หวังว่านายเศรษฐาจะมาตอบคำถามนี้ และดูจากอากัปกิริยาแล้ว นายเศรษฐา ก็ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ก็ช่วยมาตอบคำถามของตนด้วย โดยตนบอกล่วงหน้าไว้แล้ว 2 วัน และคิดว่านายเศรษฐา จะมีเวลาการเตรียมข้อมูลเพื่อจะตอบคำถามในสภาของตน

อย่างไรก็ตาม อยากย้ำข้อเสนอ 3 ข้อ ว่ายังไม่จบ ยังมีอะไรมากกว่านั้น ตนเข้าใจว่าต้องมีเวลาทำงาน และเชื่อว่าการทลายคนทำงานของรอบนี้คงจะเขย่าถึงอนาคต พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ในระยะยาวแน่นอน คือ การยิงปืนนัดเดียวได้นกหลายตัว ประเด็นคือในการทำงานต้องแยกกับผลงานกับการทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา ซึ่งข้อเรียกร้องของตนเป็นการเรียกร้องเฉพาะหน้า ที่ให้มีการติดกระดุมเม็ดแรกของ ผบ.ตร. ที่ต้องเน้นย้ำเรื่องนี้ เพราะเป็นอำนาจโดยตรงของนายกฯ ไม่เกี่ยวกับเรื่องขั้นตอนของกฎหมาย แต่เป็นขั้นตอนที่นายกฯสามารถทำได้ ก็จะไม่เป็นที่ครหาต่อสังคม เพราะมีคำอธิบายชัดเจน