13 พฤศจิกายน 2567 เป็นคดีร้อนๆ ต่อเนื่องในช่วงนี้ จากคดี "บอสพอล" ดิไอคอน ถึงคดี "ทนายตั้ม" ที่ปรากฏเงื่อนแง่ทางกฎหมายที่บรรดาทนาย และผู้รู้ นำมาต่อสู้กันผ่านทางหน้าสื่อ จนประชาชนสับสนกันไปหมด
มีคำศัพท์ใหม่ๆ คำคล้ายๆ กัน และบทบัญญัติกฎหมายที่หยิบมาโต้กันจนงงไปหมด
“ข่าวข้นคนข่าว” รวบรวม “คำศัพท์” ที่ใกล้เคียงกันเหล่านั้นมาแยกแยะให้เห็นชัดๆ ว่า แบบไหนถึงจะเข้าข่ายพฤติการณ์ที่กล่าวหา ทั้งคดีบอสพอล ทนายตั้ม เจ๊อ้อย ฯลฯ
1.ขี้โกง ไม่ใช่ ฉ้อโกง
2.หลอกลวง ไม่ใช่ ฉ้อโกงเสมอไป
ช่วงที่ผ่านมา มีการโต้แย้งกันว่า พฤติการณ์ของบอสดิไอคอน รวมถึงทนายตั้ม เข้าข่ายฉ้อโกงหรือไม่
คำอธิบายเรื่องนี้ อาจารย์มานิตย์ จุมปา จากคณะนิติศาสตร์ จุฬาฯ บอกว่า ต้องย้อนไปดูองค์ประกอบของความผิดฐาน “ฉ้อโกง” ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341
- ต้องเป็นการกระทำที่หลอกลวงด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดความจริงที่ควรบอกให้แจ้ง
- เป้าหมายเพื่อจะหลอกให้มีการได้มาซึ่งทรัพย์สิน
- ต้องมี “เจตนาพิเศษ” คือแสวงหาประโยชน์ที่ไม่ควรได้เพื่อตนเองหรือผู้อื่นด้วย
ฉะนั้นถ้าหลอกด้วยเหตุผลอื่น ไม่ใช่เพื่อมุ่งจะเอาทรัพย์สิน หรือแสวงประโยชน์ที่มิควรได้ ย่อมไม่เข้าข่ายฉ้อโกง แต่อาจะเป็นหลอกลวงเฉยๆ หรือนิสัยขี้โกง
ส่วน “เจตนาพิเศษ - โดยทุจริต” หมายถึงต้องเจตนาหลอกลวงมาตั้งแต่ต้น ไม่ใช่ว่าตั้งใจจะทำตามที่ตกลงกัน แต่ทำไม่ไม่สำเร็จ แบบนี้เข้าฉ้อโกง
ขณะที่วิธีการฉ้อโกง ต้องแสดงข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อความจริงที่ควรบอกให้ชัดเจน กรณีนี้หากฝ่ายผู้เสียหาย เข้าใจผิดไปเอง ก็อาจจะเอาผิดฐานฉ้อโกงไม่ได้
3.ผิดสัญญาทางแพ่ง อาจไม่ใช่ ฉ้อโกงทางอาญา
มีตัวอย่างที่แสดงให้เห็นชัดเจนถึงความแตกต่าง ระหว่าง “ผิดสัญญาทางแพ่ง” กับ “ฉ้อโกง”
เช่น นาย ก. กู้เงิน นาย ข. 100 ล้านบาท บอกว่าอีก 1 ปีจะคืนพร้อมดอกเบี้ย แต่ถึงเวลาที่ต้องคืน นายก ก.บอกว่า “ไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย” แบบนี้เรียกว่าผิดสัญญาทางแพ่ง เพราะเจตนากู้เงินกันจริง แต่ถึงเวลาชำระหนี้คืน ไม่มีปัญญาชำระหนี้คืนเท่านั้น
แต่ถ้า นาย ก.กู้ยืมเงิน นาย ข. 100 ล้านบาท และ นาย ก.ก็ยังไปกู้ยืมเงินอีกหลายยคน ด้วยการหลอกลวงอะไรบางอย่าง เมื่อได้เงินแล้ว ก็หนีหายไปเลย การกระทำแบบนี้จะชัดเจนว่าการกู้นั้นเป็นอุบายเพื่อหลอกมาให้ได้เงิน แบบนี้เป็นความผิดอาญาฐานฉ้อโกง
ถ้าเทียบกับกรณีทนายตั้ม ถ้ามีการตกลงรับดูแลเกี่ยวกับการสร้างแพลตฟอร์มล็อตเตอรี่ออนไลน์จริง แต่ต่อมาทำแล้วเกิดติดขัด ไม่สำเร็จ จึงไม่สามารถชดใช้เงินคืนได้ แบบนี้ก็เป็นเรื่องผิดสัญญาทางแพ่ง
แต่ถ้าทนายรู้ทั้งรู้ว่าไม่มีสัมปทานแพลตฟอร์มล็อตเตอรี่ออนไลน์ในประเทศไทยแน่นอน แต่กลับแอบไปบอกผู้เสียหายว่าจะมีการให้สัมปทาน และต้องมาทำแอปพลิเคชั่นต่างๆ ทั้งที่ไม่เป็นความจริง / แบบนี้คือการกล่าวความเท็จเพื่อจะหลอกลวงเขาเพื่อได้มาซึ่งเงิน / ถือเป็นความผิดฐานฉ้อโกง
4.พยายามฉ้อโกง...ก็มีอยู่จริง
วันนี้ ทนายของบอสพอล ประกาศเตรียมดำเนินคดี “คุณฟิล์ม รัฐภูมิ” ฐาน “พยายามฉ้อโกง” ทำให้หลายคนงงว่า มีความผิดฐานนี้้ด้วยหรือ
อาจารย์มานิตย์ จุมปา จากคณะนิติศาสตร์ จุฬาฯ บอกว่า ความผิดอาญาที่ต้องการผลในทุกฐานความผิด สามารถมีความผิดฐาน “พยายามกระทำความผิด” ได้ / เช่น พยายามลักทรัพย์ / พยายามวางเพลิง / โดยต้องรับโทษ 2 ใน 3 สำหรับความผิดนั้น กรณีทำสำเร็จ
ฉะนั้นความผิดฐาน “พยายามฉ้อโกง” ก็มีได้ เช่น พยายามไปหลอกผู้อื่น แต่ท้ายสุดเขาไม่เชื่อ จึงไม่มีการโอนให้ซึ่งเงินทอง ก็เป็นพยายามฉ้อโกง อัตราโทษคือระวางโทษสองในสามของความผิดฐานฉ้อโกง คือ 2 ใน 3 ของโทษจำคุก 3 ปี