svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

"ปกรณ์วุฒิ" จี้ "ศักดิ์สยาม" ถ้าบริสุทธิ์ใจ ต้องชี้แจงสาธารณชน ปมซุกหุ้น

"ปกรณ์วุฒิ" จี้ "ศักดิ์สยาม" ถ้าบริสุทธิ์ใจ ต้องชี้แจงสาธารณชน ข้อเท็จจริงปมซุกหุ้น หจก.บุรีเจริญ ระบุ ไม่ติดใจศาลอนุญาตขยายเวลายื่นเอกสาร

20 มีนาคม 2566 นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณี นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ขอขยายเวลาการยื่นเอกสารชี้แจงข้อกล่าวหา คำร้องวินิจฉัยความเป็นรัฐมนตรี กรณียังคงไว้ซึ่งหุ้นห้างหุ้นส่วนจำกัด (หจก.) บุรีเจริญคอนสตรัคชั่น ซึ่งเป็นเหตุให้ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว ออกไปเป็นเวลา 30 วัน ต่อศาลรัฐธรรมนูญ และศาลมีคำสั่งให้อนุญาต ว่า

\"ปกรณ์วุฒิ\" จี้ \"ศักดิ์สยาม\" ถ้าบริสุทธิ์ใจ ต้องชี้แจงสาธารณชน ปมซุกหุ้น

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :

เรื่องนี้ตนไม่ติดใจ เพราะการขอขยายเวลายื่นเอกสารชี้แจงข้อกล่าวหา เป็นสิทธิตามกฎหมายที่สามารถทำได้ แต่สิ่งที่ขอเรียกร้องไปยัง นายศักดิ์สยามและขอให้ประชาชนร่วมกันจับตาคือ นอกจากชี้แจงข้อเท็จจริงเรื่องนี้ต่อศาลรัฐธรรมนูญเป็นเอกสาร เพื่อให้ศาลฯ วินิจฉัยแล้ว นายศักดิ์สยาม ควรชี้แจงต่อสาธารณชนด้วยว่า มีเอกสารหลักฐานใดมาหักล้างคำร้องของพรรคร่วมฝ่ายค้าน ที่ยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญไปแล้วบ้าง เพื่อให้ประชาชนรับรู้ในวงกว้าง เป็นการแสดงความบริสุทธิ์ใจของนายศักดิ์สยามเอง

ศักดิ์สยาม ชิดชอบ

ทั้งนี้เมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2566 "ศาลรัฐธรรมนูญ" มีมติเอกฉันท์สั่ง "นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ" หยุดปฏิบัติหน้าที่ รมว.คมนาคม หลังรับคำร้องปมถือหุ้น หจก.บุรีเจริญฯ เข้าลักษณะต้องห้ามรัฐธรรมนูญ ขีดเส้น 15 วันชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา

ศาลรัฐธรรมนูญ ประชุมปรึกษาเรื่องพิจารณาที่ 8/2566 กรณีที่ ประธานสภาผู้แทนราษฎรส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญหรือไม่

กรณี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จำนวน 54 คน ยื่นคำร้องต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร ว่า นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ยังคงไว้ซึ่งหุ้นส่วนและยังคงเป็นผู้ถือหุ้น และเจ้าของ ห้างหุ้นส่วนจำกัด บุรี   เจริญคอนสตรัคชั่น (หจก.บุรีเจริญคอนสตรัคชั่น) อย่างแท้จริง

ซึ่งจะทำให้ผู้ถูกร้องเข้าไปเกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการหุ้นหรือกิจการของห้างหุ้นส่วน เป็นการกระทำอันเป็นการต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญมาตรา 187 ประกอบ พ.ร.บ.การจัดการหุ้นส่วนและหุ้นของรัฐมนตรี พ.ศ. 2543 มาตรา 4 (1) เป็นเหตุให้ความเป็นรัฐมนตรีของผู้ถูกร้องสิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (5) หรือไม่

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเป็นเอกฉันท์มีคำสั่งรับคำร้องไว้พิจารณวินิจฉัย และให้ผู้ถูกร้องยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาต่อศาลรัฐธรรมนูญภายใน 15 วันนับแต่วันที่ได้รับสำเนาคำร้อง

ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณากรณีให้ผู้ถูกร้องหยุดปฏิบัติหน้าที่รัฐมนตรีจนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 82 วรรคสอง แล้วเห็นว่าข้อเท็จจริงตามคำร้องและเอกสารประกอบคำร้อง ปรากฏเหตุอันควรสงสัยว่าผู้ถูกร้องมีกรณีตามที่ถูกร้อง จึงมีมติเป็นเอกฉันท์สั่งให้ผู้ถูกร้องหยุดปฏิบัติหน้าที่รัฐมนตรีตั้งแต่วันที่ 3 มีนาคม 2566 จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย แจ้งให้คู่กรณีและนายกรัฐมนตรีทราบ