ยงยุทธ วิชัยดิษฐ อดีตนักการเมืองระดับหัวหน้าพรรคใหญ่ ที่ห่างหายจากเวทีการเมืองไปนาน กลับมาเป็นข่าวดังอีกครั้ง หลังออกมาปฏิเสธอย่างหนักแน่นว่า ตนไม่ใช่อดีตรองนายกฯ ที่เป็นชู้กับเมียชาวบ้าน
แต่เนื่องจากหลายปีที่ผ่านมา ชื่อของยงยุทธแทบไม่ปรากฏในข่าวคราวความเคลื่อนไหวทางการเมืองเลย ทำให้ในวันนี้หลายคนอาจไม่ค่อยคุ้นชื่อของเขานัก และอยากรู้ว่าในอดีต ชายผู้นี้ยิ่งใหญ่ขนาดไหน ! NationOnline จึงขอนำเรื่องราวเส้นทางชีวิตของยงยุทธ์ มาเล่าสู่กันดังต่อไปนี้
รับราชการในกระทรวงมหาดไทย ตั้งแต่หนุ่ม จนเกษียณ
ยงยุทธถือได้ว่า เป็นข้าราชการระดับลูกหม้อของกระทรวงมหาดไทย หลังจากสำเร็จการศึกษาจากคณะรัฐศาสตร์ เขาก็เริ่มต้นชีวิตการทำงานในตำแหน่งปลัดอำเภอชั้นตรี ที่อำเภอท่าชนะ จังหวัดสุราษฎร์ธานี ก่อนเติบโตตามสายงาน กระทั่งในปี 2536 ก็ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง แล้วย้ายไปจังหวัดนครศรีธรรมราช ก่อนก้าวขึ้นเป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย ในปี 2544 กระทั่งได้ดำรงตำแหน่งสูงสุดของกระทรวง นั่นก็คือ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ในปี 2545 จนเกษียณอายุราชการ
บทความที่น่าสนใจ
“ชนะเลือกตั้ง แต่อาจไม่ได้เป็นรัฐบาล” ความเชื่อที่หลอกหลอนพรรคเพื่อไทย
รวมไทยสร้างตู่ สานฝันให้ประยุทธ์ เป็นนายกฯ 3 สมัยได้หรือไม่ ?
เข้าสู่ถนนการเมือง ก็ยังได้ดูแลกระทรวงมหาดไทย
ในเส้นทางชีวิตราชการ ถือว่ายงยุทธเติบโตอย่างต่อเนื่องจนกระทั่งขึ้นตำแหน่งสูงสุดได้อย่างสวยสดงดงาม หลังจากเกษียณ เขาก็เข้าสู่ถนนการเมือง เริ่มด้วยการเป็นกรรมการผู้ช่วย รมว.สาธารณสุข (สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์) ในปี 2546 ของรัฐบาลทักษิณ ชินวัตร และเป็นประธานกรรมการในองค์กรรัฐวิสาหกิจมากมาย กระทั่งเกิดการรัฐประหารในปี 2549 พรรคต่างๆ ก็ต้องเว้นวรรคทางการเมืองไปช่วงเวลหนึ่ง
เมื่อมีการเลือกตั้งในปี 2550 พรรคพลังประชาชน ที่แปลงกายมาจากพรรคเพื่อไทย ก็ได้คะแนนเสียงในระดับเกือบแลนด์สไลด์ ส่งผลให้ สมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคในเวลานั้น ได้เป็นนายกรัฐมนตรี และยงยุทธได้เป็นที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
ต่อมาเมื่อพรรคพลังประชาชนก็ถูกยุบ และได้กลายร่างเป็นพรรคเพื่อไทย ยงยุทธก็ขึ้นเป็นหัวหน้าพรรค ในวันที่ 7 ธันวาคม 2551 และหลังจากพรรคเพื่อไทยแลนด์สไลด์ในการเลือกตั้งปี 2554 ยงยุทธได้เป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อ และดำรงตำแหน่งรองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในรัฐบาลยิ่งลักษณ์
แต่แล้วในปี 2555 เขาก็ต้องลาออกจากทุกตำแหน่งทางการเมือง เมื่อถูก ป.ป.ช.ชี้มูลความผิด ปฏิบัติหน้าที่มิชอบ ตามมาตรา 157 ขณะดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวงมหาดไทย และรักษาการปลัดกระทรวงมหาดไทย รวมถึงถูกไล่ออกจากราชการย้อนหลัง อันเนื่องมาจากคดีสนามกอล์ฟอัลไพน์ อันลือลั่น
ยงยุทธ์ กับคดีสนามกอล์ฟอัลไพน์
คดีสนามกอล์ฟอัลไพน์ ถือว่าเป็นอีกคดีที่สั่นสะเทือนวงการการเมืองเป็นอย่างมาก และยืดเยื้อยาวนาน เดิมทีที่ดินดังกล่าวเป็นของผู้มีจิตศรัทธา บริจาคให้กับวัด แต่ต่อมาในปี 2533 ได้มีการขายที่ดินให้กับบริษัทอัลไพน์ ที่ขณะนั้นมี อุไรวรรณ เทียนทอง ภรรยาของเสนาะ เทียนทอง และชูชีพ หาญสวัสดิ์ เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ก่อนนำไปสร้างสนามกอล์ฟ และได้มีการขายให้กับคุณหญิงพจนมาน ชินวัตร ในปี 2540
โดยในปี 2545 ยงยุทธในฐานะรองปลัดกระทรวงมหาดไทย และรักษาการปลัดกระทรวงมหาดไทย ก็ได้ใช้อำนาจออกคำสั่งเพิกถอนคำสั่งอธิบดีกรมที่ดิน ที่ให้ยกเลิกโฉนดที่ดิน
ซึ่งจากกรณีดังกล่าว ส่งผลให้ในอีก 10 ปีต่อมา หรือในปี 2555 ขณะที่ยงยุทธ เป็นรองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ก็ถูก ป.ป.ช. ชี้มูลความผิด ฐานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ช่วงดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวงมหาดไทย รักษาการปลัดกระทรวงมหาดไทย
และกราฟชีวิตของยงยุทธก็ดิ่งลงนับจากนั้น โดยในปี 2559 ศาลอาญา คดีทุจริตฯ ชั้นต้น มีคำพิพากษาจำคุก 2 ปี โดยไม่รอลงอาญา และในปี 2562 ศาลอุทธรณ์ มีคำพิพากษายืนตามศาลชั้นต้น ต่อมาในเดือนกุมภาพันธ์ 2563 ศาลฎีกาก็ไม่อนุญาตให้ฎีกา ส่งผลให้ยงยุทธต้องเข้าเรือนจำทันที
ยงยุทธ์ได้รับการพักโทษ ถูกปล่อยตัวออกจากเรือนจำในเดือนกันยายน 2563 แต่ต้องติดกำไลอีเอ็มเพื่อควบคุมและติดตามตัว ต่อมาในเดือนพฤศจิกายน 2563 ศาลฎีกาฯ สั่งยกฟ้อง คดีทุจริตที่ดินสนามกอล์ฟอัลไพน์ เนื่องจากคดีหมดอายุความไปก่อนที่ ป.ป.ช. จะส่งสำนวนฟ้องเสนาะ เทียนทอง
และทั้งหมดนี้ก็คือเส้นทางชีวิตของ ยงยุทธ วิชัยดิษฐ ที่เติบโตในกระทรวงมหาดไทย จนถึงตำแหน่งสูงสุด พอเข้าสู่ถนนการเมือง ก็ยังได้เป็นรองนายกฯ และรัฐมนตรีที่ดูแลกระทรวงมหาดไทย ก่อนชีวิตจะพลิกผันจนถึงขั้นเข้าคุกเข้าตะราง อันเนื่องมาจากสนามกอล์ฟ ที่ชื่อว่าอัลไพน์