ปัญหานายทวาร "แมนยู" ...อนาคต "โอนาน่า" จะอยู่หรือจะไป?
สถานการณ์ของ อ็องเดร โอนาน่า เริ่มอยู่ในความไม่แน่นอน หลังก่อความผิดพลาดซ้ำแล้วซ้ำเล่า แล้ว แมนฯ ยูไนเต็ด จะตัดสินใจอย่างไร ในเมื่อฟอร์มก็แย่แต่จะขายก็ยาก
สองปีหลังจากที่ผู้รักษาประตูของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทำพลาดช่วงท้ายฤดูกาล จนทำให้สโมสรต้องกลับมาทบทวนแผนในตลาดนักเตะช่วงซัมเมอร์
มาในวันนี้ ประวัติศาสตร์ดูเหมือนจะซ้ำรอยอีกครั้ง
ความผิดพลาดของดาบิด เด เคอา ในเกมกับเซบีย่า (ยูโรปาลีก), เวสต์แฮม ยูไนเต็ด (พรีเมียร์ลีก) และโดยเฉพาะอย่างยิ่งในนัดชิงเอฟเอคัพกับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทำให้เอริก เทน ฮาก ตัดสินใจไม่ต่อสัญญาใหม่กับเด เคอา และเลือกหาผู้รักษาประตูคนใหม่แทน
วันนี้ รูเบน อโมริม กำลังเผชิญหน้ากับการตัดสินใจคล้ายกันกับ อ็องเดร โอนาน่า ผู้ที่มาแทน เด เคอา โดยเขาเลือกดร็อปโอนาน่าในเกมที่พบกับนิวคาสเซิลเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
คำถามคือ โอนาน่าจะได้กลับมาเฝ้าเสาในเกมสำคัญกับลียงในศึกยูโรปาลีกคืนวันพฤหัสฯ นี้หรือไม่ ซึ่งนั่นคือเกมชี้ชะตาทางสโมสรต่อการไปเล่นแชมเปียนส์ลีกและผลประโยชน์ทางการเงินมหาศาล
ยิ่งไปกว่านั้น ปัญหาที่ใหญ่กว่าคือ อนาคตระยะยาวของโอนาน่า ว่าอโมริมจะเลือกเดินตามรอยเทน ฮาก ด้วยการปรับแผนเสริมทัพหรือไม่
ก่อนหน้านี้ แมนฯ ยูไนเต็ดไม่ได้วางตำแหน่งผู้รักษาประตูไว้ในแผนเสริมทีม โดยให้ความสำคัญกับกองหน้า ตัวรุก มิดฟิลด์ และวิงแบ็ก แต่ความเชื่อมั่นในตัวโอนาน่ากำลังสั่นคลอนจากความผิดพลาดในจังหวะสำคัญ และเมื่ออโมริมให้เขา "เว้นระยะ" เพื่อพักฟื้นสภาพจิตใจ ก็เริ่มมีเสียงในสโมสรว่า อาจถึงเวลาพิจารณาทางแยกในอนาคต
บางคนในยูไนเต็ดเชื่อว่า โอนาน่าถูกเบี่ยงเบนสมาธิจากการปะทะคารมกับเนมานย่า มาติช ก่อนเกมแรกกับลียง ซึ่งนอกจากความผิดพลาดสองจังหวะในเกม 2-2 ยังรวมถึงพฤติกรรมตอบโต้แฟนบอลฝรั่งเศสที่โห่ใส่เขา โอนาน่าดูเหมือนจงใจมองกลับไปยังแฟนบอลหลังเตะเปิดเกมในขณะที่ยูไนเต็ดนำอยู่ 2-1
การตอบโต้ของมาติชก็รุนแรงไม่แพ้กัน อาจมีเบื้องหลังมาจากความเห็นใจเด เคอา อดีตเพื่อนร่วมทีมที่ต้องอำลาสโมสรอย่างเจ็บปวด ขณะที่โอนาน่ากลับโต้กลับผ่านโซเชียลมีเดีย ทำให้เรื่องบานปลายมากขึ้น
ประตูที่สองที่ลียงยิงได้จากจังหวะที่โอนานาปัดลูกของมิเคาตัดเซ่ไปเข้าทางแชร์กี้ ถูกมองว่าน่ากังวลกว่าลูกแรกจากฟรีคิกของอัลมาดา เพราะเป็นลักษณะความผิดพลาดที่เกิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า นั่นคือการ "ปัดบอลเข้าทางคู่แข่ง"
มีผู้เชี่ยวชาญบางคนมองว่า "มือของโอนานาแข็งเกินไป" ทำให้ไม่สามารถเปลี่ยนทิศทางบอลไปที่ปลอดภัยได้ ความเห็นนี้เป็นหนึ่งในเหตุผลที่ตอนเซ็นสัญญาเจ้าตัวเกือบชวดย้ายมา เพราะโอนาน่าไม่ได้รับเสียงเห็นชอบเป็นเอกฉันท์จากทีมแมวมองจากจุดอ่อนตรงนี้
อย่างไรก็ตาม โอนาน่าก็เคยโชว์เซฟสุดยอดมาแล้วในซีซั่นนี้ เช่นในเกมกับคริสตัล พาเลซ, เฟเนร์บาห์เช่ และเซาแธมป์ตัน
โอนานาเองก็เริ่มมองหาแนวทางใหม่ โดยเปลี่ยนตัวแทนจาก Goal Management มาเป็น LIAN Sports จุดประสงค์หลักคือเพื่อมองมุมใหม่ในการพัฒนาอาชีพ รวมถึงอาจเจรจาสัญญาใหม่ในอนาคต
หนึ่งในประเด็นสำคัญคือ ค่าเหนื่อยของโอนานาถูกหัก 25% ตามนโยบายของสโมสรเมื่อไม่ผ่านเข้าแชมเปียนส์ลีก ซึ่งแม้จะเป็นข้อกำหนดทั่วไป แต่เขายังรู้สึกตกใจ เพราะคาดว่ายูไนเต็ดจะได้ไปเล่นรายการนี้ โดย โอนาน่าได้พูดคุยกับผู้อำนวยการกีฬา แดน แอชเวิร์ธ เกี่ยวกับเรื่องนี้มาแล้ว
มีความย้อนแย้งเล็กๆ ที่ฟอร์มแย่ที่สุดของโอนาน่าเกิดในแชมเปียนส์ลีกฤดูกาลก่อน เช่น ปล่อยลูกยิงเบาๆ ของลีรอย ซาเน่ หลุดมือที่บาเยิร์น, เสียสองลูกจากฟรีคิกที่กาลาตาซาราย และส่งบอลพลาดให้คาเซมิโร่โดนตัดบอลในเกมเจอกาลาตาซาราย ที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด
หลังตกรอบแชมเปียนส์ลีกในปีที่แล้ว มีข่าวว่าโอนาน่าสนใจข้อเสนอจากสโมสรในซาอุฯ แต่ก็ไม่มีดีลใดเกิดขึ้น เขากลับตัดสินใจซื้อบ้านในแมนเชสเตอร์แทนการเช่า เพื่อแสดงถึงความผูกพันกับพื้นที่
แม้ตลาดซาอุฯ มักถูกมองเป็นทางออกของนักเตะที่ต้องการย้ายทีมพร้อมค่าเหนื่อยสูง แต่โอนาน่ายังเหลือมูลค่าบัญชีอยู่ถึง 26.3 ล้านปอนด์ จากค่าตัวรวม 43.8 ล้านปอนด์ และด้วยข้อจำกัดเรื่องกฎการเงิน สโมสรจะไม่สามารถขายขาดทุนได้ จึงอาจต้องพิจารณาปล่อยยืมแทนหากหาผู้ซื้อที่จ่ายราคานี้ไม่ได้
ยูไนเต็ดยังต้องจ่ายเงินงวดสุดท้ายของดีลให้กับอินเตอร์ในซัมเมอร์นี้ ตามโครงสร้างการจ่ายเป็นงวดที่เซ็นไว้ ซึ่งเซอร์ จิม แรตคลิฟฟ์เคยพูดถึงอย่างไม่พอใจในสื่อ
ตอนที่ย้ายมา โอนาน่าดูเหมือนจะเป็นส่วนสำคัญของการเปลี่ยนผ่านยุคใหม่ของยูไนเต็ด ด้วยความสามารถในการจ่ายบอลจากแดนหลัง เขาเคยโชว์ฟอร์มโดดเด่นในนัดชิงแชมเปียนส์ลีกกับซิตี้ จนเป๊ป กวาร์ดิโอล่าออกปากชม
แต่ผู้สังเกตการณ์บางคนมองว่าเซเรีย อาให้เวลาและพื้นที่กับผู้รักษาประตูมากกว่า ขณะที่พรีเมียร์ลีกเร็วและกดดันกว่ามาก โอนาน่าจึงต้องปรับตัวอย่างหนัก โดยเฉพาะในจังหวะเปิดบอลขึ้นเกมที่ยังไม่ไหลลื่นเท่าที่ควร
ยิ่งไปกว่านั้น เขาต้องเล่นหลังแนวรับที่เปลี่ยนไปมาตลอด ทั้งระบบแบ็กโฟร์และแบ็กทรี และถูกฝึกโดยโค้ชผู้รักษาประตูถึงสามคนในเวลาไม่ถึงสองปี คือ ริชาร์ด ฮาร์ทิส, เยลเล่ เทน เราเวลาร์ และจอร์จ วิทาล
อย่างไรก็ตาม โอนาน่ามักกล้าออกมาพูดกับสื่อแม้จะอยู่ในช่วงยากลำบาก เช่นหลังเกมแพ้บาเยิร์น ซึ่งความตรงไปตรงมาและทัศนคตินี้ยังถือเป็นจุดแข็งสำคัญ
สำหรับเกมวันพฤหัสฯ นี้ยังไม่แน่ว่าอโมริมจะเลือกโอนาน่ากลับมาเฝ้าเสาหรือไม่ แม้ก่อนหน้านี้มีการบอกเป็นนัยว่าเขาจะได้คืนตัวจริง แต่การดร็อปในเกมแพ้นิวคาสเซิล 4-1 ก็สร้างความไม่แน่นอน
การดร็อปโอนาน่าในเกมสำคัญอาจส่งผลต่อความสัมพันธ์ระยะยาว หากเขายังอยู่กับทีมต่อฤดูกาลหน้า อีกทั้ง อัลตาย บายินดีร์ ที่ได้ลงเล่นแทนในพรีเมียร์ลีกนัดแรกก็ทำพลาดจนเสียประตูเช่นกัน
ที่แน่ๆ คือความรู้สึก "เดจาวู" เกี่ยวกับปัญหาผู้รักษาประตูของยูไนเต็ด กำลังกลับมาอีกครั้ง...และไม่มีใครอยากให้มันเป็นแบบนั้น
----------
*** แปลและเรียบเรียงจาก What now for Andre Onana and his Manchester United future? ใน The Athletic
