"นิวคาสเซิล" แห่ฉลองแชมป์คาราบาวคัพสุดยิ่งใหญ่ แฟนนับแสนร่วมยินดี

นี่คือการเฉลิมฉลองที่สะท้อนความสุขอันยิ่งใหญ่หลังจากรอคอยมาอย่างยาวนาน รวมถึงอาจเป็นตัวอย่างที่ยอดเยี่ยมของความผูกพันระหว่างเมืองกับสโมสรฟุตบอล

แชมป์ คาราบาวคัพ นับเป็นถ้วยรางวัลภายในประเทศใบแรกของ นิวคาสเซิล นับตั้งแต่คว้าแชมป์เอฟเอคัพปี 1955 

และเมื่อวันเสาที่ผ่านมา ในเมืองนิวคาสเซิล แฟนบอลกว่า 200,000 คนแน่นขนัดอยู่ในใจกลางเมืองเพื่อชมขบวนรถบัสเปิดหลังคาที่พาผู้จัดการทีม เอ็ดดี้ ฮาว และนักเตะของเขาเคลื่อนขบวนจากสนามเซนต์เจมส์พาร์กไปยังทาวน์มอร์ ขณะที่อีกกว่า 150,000 คนรวมตัวกันในพื้นที่โล่งขนาดใหญ่

เฉพาะผู้ที่ลงทะเบียนรับบัตรฟรีแบบอิเล็กทรอนิกส์เท่านั้นที่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปในงาน และพวกเขายืนรอชมการฉลองตั้งแต่บ่ายโมงครึ่งไปจนถึงเกือบสองทุ่ม โดยมีการฉายเทปบันทึกการแข่งขันรอบชิงฯ บนจอยักษ์ รวมถึงการแสดงของวงดนตรีท้องถิ่น และแน่นอนว่าไม่พลาดการปรากฏตัวของ Ant และ Dec คู่หูพิธีกรชื่อดังที่เป็นแฟนพันธุ์แท้ของทีม

ขณะที่บางคนปีนขึ้นไปบนรูปปั้นของเซอร์บ็อบบี้ ร็อบสัน หน้าสนามเซนต์เจมส์พาร์ก และคนอื่นๆ เกาะอยู่บนป้ายรถเมล์หรือปีนต้นไม้เพื่อมองเห็นภาพเหตุการณ์ได้ชัดเจนที่สุด ทำให้ เอ็ดดี้ ฮาวรู้สึกตื้นตันอย่างเห็นได้ชัด 

"ผมหวังว่าแฟนๆ จะมาเยอะ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นนี้มันเหลือเชื่อมาก" ผู้จัดการทีมนิวคาสเซิลกล่าวท่ามกลางเสียงเชียร์ "ผมไม่รู้เลยว่าจะเจอกับอะไรในวันนี้ แต่นี่มันสุดยอดจริงๆ ขอบคุณชาวนิวคาสเซิลทุกคนจากใจ มันเป็นช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยอารมณ์จริงๆ"

แฟนบอลที่เคยเห็นนิวคาสเซิลคว้าแชมป์เอฟเอคัพปี 1955 นั้นมีอยู่ไม่มาก โดยหนึ่งในนั้นคือ เอลซี เบิร์นส์ วัย 95 ปี ซึ่งเคยได้สัมผัสถ้วยแชมป์ด้วยตนเองเมื่อครั้งที่นักเตะนิวคาสเซิลไปเยี่ยมเธอที่โรงพยาบาลขณะเธอกำลังรักษาตัวจากวัณโรค

เจ็ดสิบปีต่อมา ความตื่นเต้นในการได้เห็นถ้วยคาราบาวคัพก็นำมาซึ่งความปลื้มปิติไม่แพ้กัน ท่ามกลางถนนที่เต็มไปด้วยแฟนบอลจากทั่วทุกมุมโลก ไม่ว่าจะเป็นออสเตรเลีย อเมริกาเหนือ เคนยา และเกาหลีใต้ ที่มารวมตัวกัน

การเฉลิมฉลองครั้งนี้ทำให้เมืองทั้งเมืองต้องหยุดนิ่ง ถนนหลายสายถูกปิด รถขนส่งสาธารณะต้องเปลี่ยนเส้นทาง ขณะที่ห้างสรรพสินค้าชื่อดังในเมืองอย่าง เฟนวิค ยังตกแต่งหุ่นโชว์เสื้อผ้าให้ใส่ชุดขาวดำเพื่อร่วมฉลองไปกับทีม

ผู้คนต่อแถวรอถ่ายรูปกับถ้วยคาราบาวคัพจำลองกันอย่างตื่นเต้น ขณะที่แฟนบอลที่ไม่มีตั๋วเข้างานก็ยังคงเดินเตร็ดเตร่อยู่รอบสนามเซนต์เจมส์พาร์ก และตามถนนสายหลักของเมือง เพื่อขอซัมซับบรรยากาศ