22 มีนาคม 2568 นายสุชัย พรชัยศักดิ์อุดม นายกสมาคมกีฬาลอนเทนนิสแห่งประเทศไทย ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ได้เชิญ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เข้ามาเป็นประธานที่ปรึกษา กิตติมศักดิ์ ด้านต่างประเทศ หากได้รับเลือกเป็นประธาน
การประกาศครั้งนี้มีขึ้น หลังจากมีการปล่อยข่าวว่า นายสุชัย เป็นตัวแทนของ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ อดีตประธานโอลิมปิกแห่งประเทศไทย คาดว่าเป็นการปล่อยข่าวเพื่อสกัดกั้นนายสุชัย
นานสุชัย ประกาศย้ำว่า ไม่ได้เป็นตัวแทนของใคร ตั้งใจอาสามาทำงานให้วงการกีฬา และรูัจักทุกคน รวมทั้งอดีตนายกทักษิณ และประวิตร และขณะนี้กำลังรวบรวมผู้ที่มีความรู้ความสามารถทุกด้านมาช่วยวงการกีฬาของประเทศไทย
สำหรับในขณะนี้มีตัวเต็งที่จะลงชิงชัยในตำแหน่งประธานโอลิมปิค 2 คน ได้แก่ นายสุชัย และนายพิมล ศรีวิกรม์ นายกสมาคมกีฬาเทควันโดแห่งประเทศไทย
สุชัย พรชัยศักดิ์อุดม
โดยล่าสุด มีรายงาน สมาคมกีฬาลอนเทนนิสฯ ว่า "นายทักษิณ ชินวัตร" ได้ตอบรับเป็นประธานที่ปรึกษาของประธานโอลิมปิคไทยคนใหม่ หาก "บิ๊กสุชัย" สุชัย พรชัยศักดิ์อุดม ได้รับเลือกเป็นประธาน เชื่อว่าจะทำให้โครงการต่าง ๆ สามารถขับเคลื่อนอย่างเป็นรูปธรรม และก่อเกิดประโยชน์กับสมาคมกีฬาและประเทศชาติอย่างยังยืน ที่สำคัญสอดคลองกับนโยบายของรัฐบาล โดยไม่มีเรื่องของผลประโยชน์แอบแฝง
โดย "บิ๊กสุชัย" เปิดเผยว่า เพื่อให้การทำงานระหว่างคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทย การกีฬา 5แห่งประเทศไทย (กกท.) รวมไปถึงสมาคมกีฬา และภาครัฐบาล เดินหน้าพัฒนาทางด้านกีฬาอย่างเป็นรูปธปรรมในทิศทางเดียวกัน และการขับเคลื่อนสู่ความสำเร็จระดับนานาขาติในอนาคต ตนได้เรียนเชิญนายทักษิณ ชินวัตวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มาเป็นประธานที่ปรึกษาของประธานคณะกรรมการโอลิมปิค หากตนได้รับเลือกเป็นประธาน ซึ่งท่านก็ตอบรับเรียบร้อยแล้ว
"ผมมีความตั้งใจจะเข้ามาทำงาน อยากจะพัฒนาวงการกีฬาไทยในทุกระบบให้มีความทันสมัย และประสบความสำเร็จในระดับนานาชาติมากที่สุด โดยเฉพาะการผลักดันให้ประเทศไทย กลับมาเป็นเจ้าภาพจัดกีฬาเอเขียนเกมส์ในปี 2038 หลังจากไม่ได้จัดมานาน การที่ได้ท่านทักษิณตอบรับมาเป็นประธานที่ปรึกษา เชื่อว่าจะให้โครงการต่าง ๆ สามารถขับเคลื่อนอย่างเป็นรูปธรรม และก่อเกิดประโยชน์กับสมาคมกีฬาและประเทศชาติอย่างยังยืน ที่สำคัญสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล โดยไม่มีเรื่องของผลประโยชน์แอบแฝง"
นายสุชัย กล่าวอีกว่า การเสนอตัวเข้ารับการเลือกตั้งเป็นประธานโอลิมปิคไทยในครั้งนี้ ตนมีความพร้อมในการอาสาทำงานให้กับวงการกีฬา เพื่อให้มีความทันสมัย และจะเดินหน้าสนับสนุนคนในวงการกีฬาแบบไม่มีความแตกแยก และไม่มีการนำการเมือง หรือ รัฐบาลเข้ามาแทรกแซงชีนำใด ๆ แต่เป็นความร่วมมือกัน เพื่อนำพาวงการกีฬาไทยสู่ความเป็นอินเตอร์ และยกระดับการพัฒนาวงการกีฬาอย่างแท้จริง
"ผมไม่เคยแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตัวกับเรื่องกีฬา ซึ่งสามารถพิสูจน์ได้ตลอดเกือบ 30 ปีที่ผ่านมา ที่ผมทำงานอยู่เบื้องหลังของกีฬามาตลอด" นายสุชัย กล่าวทิ้งท้าย