การปะทะกันระหว่างคู่ปรับร่วมเมือง เรอัล มาดริด และ แอตเลติโก มาดริด ในศึกยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดแรก ที่ซานติอาโก เบร์นาเบว คาดว่าจะเต็มไปด้วยความดุเดือดและความเข้มข้น
ศึกดาร์บี้แมตช์แห่งมาดริดใน UCL คู่นี้มีความหมายมากกว่าการแค่เข้ารอบ เพราะมันคือศักดิ์ศรีและการล้างแค้นของแอตเลติโก หรือจะเป็นการตอกย้ำความเหนือกว่าของเรอัล มาดริดอีกครั้ง ต้องติดตามกันในค่ำคืนนี้
แม้ว่าแชมป์เก่าอย่าง เรอัล มาดริด จะต้องผ่านรอบเพลย์ออฟที่หนักหน่วงด้วยการโค่น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แต่ทีมของ คาร์โล อันเชล็อตติ ยังคงอยู่ในเส้นทางลุ้นแชมป์ยุโรปสมัยที่ 16 อย่างเหนียวแน่น พวกเขาสร้างผลงานสุดยอดด้วยการเอาชนะซิตี้ 3-2 ที่เอติฮัด ก่อนกลับมาเปิดบ้านถล่ม 3-1 โดย คีลิยัน เอ็มบัปเป้ ทำแฮตทริก
จากสถิติแล้ว เรอัล มาดริด ไม่แพ้ใครใน 9 นัดหลังสุดของรอบน็อกเอาต์ UCL ซึ่งรวมถึงการคว้าแชมป์เมื่อฤดูกาลที่แล้ว นอกจากนี้ พวกเขายังเคยเจอทีมจากลาลีกาในรอบน็อกเอาต์ยุโรปมาแล้ว 11 ครั้ง และตกรอบเพียง 2 ครั้งเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ราชันชุดขาว เพิ่งพ่ายแพ้ เรอัล เบติส 1-2 โดยมีอดีตนักเตะของพวกเขาอย่าง อิสโก้ เป็นตัวแปรสำคัญ ทำให้พวกเขาถูกหยุดสถิติชนะรวด 3 นัด และไม่แพ้ใครมา 7 เกมติดต่อกัน
ฝั่งแอตเลติโก แม้จะเคยผิดหวังจากนัดชิงฯ ปี 2014 และ 2016 ที่พ่ายต่อ เรอัล มาดริด พวกเขายังต้องลุ้นหนักในเกมลาลีกานัดล่าสุดที่เฉือนชนะ แอธเลติก บิลเบา 1-0 โดยได้ประตูชัยจาก ฮูเลียน อัลวาเรซ ขณะที่ทีมคู่แข่งยิงชนเสาถึงสามครั้ง
ทีมของ ดีเอโก้ ซิเมโอเน่ กำลังมีผลงานดีในลาลีกา โดยพวกเขาก้าวขึ้นนำเป็นจ่าฝูงชั่วคราว ก่อนโดนบาร์เซโลน่าแซงในเกมล่าสุด อย่างไรก็ตาม สถิติใน UCL ของพวกเขาไม่น่าประทับใจนัก เพราะแพ้ทั้งสามเกมเยือนในรอบน็อกเอาต์ฤดูกาล 2023-24 ซึ่งเป็นสถิติแย่ที่สุดของสโมสรนับตั้งแต่ปี 1971
นอกจากนี้ แอตเลติโก ยังมีสถิติย่ำแย่เมื่อดวลกับ เรอัล มาดริด ในรอบน็อกเอาต์ UCL โดยพวกเขาตกรอบถึง 5 ครั้งติดต่อกันในปี 1958-59, 2013-14, 2014-15, 2015-16 และ 2016-17 อย่างไรก็ตาม ในช่วงหลังพวกเขาเริ่มมีผลงานที่ดีขึ้น โดยเสมอกับ เรอัล มาดริด 1-1 ถึง 3 ครั้งติดต่อกันในทุกรายการ
จะไม่มี จู๊ด เบลลิงแฮม ที่ติดโทษแบนจากการสะสมใบเหลืองครบโควตา รวมถึงผู้เล่นบาดเจ็บอย่าง เอแดร์ มิลิเตา, ดานี การ์บาฆาล, ดานี เซบาญอส และ เฆซุส บาเยโฆ่ อย่างไรก็ตาม เฟเดริโก้ บัลเบร์เด้ กลับมาซ้อมได้แล้วและอาจพร้อมลงสนาม
จะขาด เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า ที่บาดเจ็บ เช่นเดียวกับ โกเก้ แต่ผู้เล่นคนอื่นพร้อมลงสนาม ฮูเลียน อัลวาเรซ ที่ทำประตูชัยในเกมลีกล่าสุดมีโอกาสได้ลงตัวจริงแทน อเล็กซานเดอร์ ซอร์ลอธ ขณะที่ มาร์กอส ยอเรนเต้ อาจได้รับโอกาสลงแทน จูเลียโน ซิเมโอเน่