"ไม่รู้สี่รู้แปด" จุดชนวนร้อน เขย่า ทำเนียบฯ สะท้านไปถึง"สภาฯ"

19 มีนาคม 2568  "ไม่รู้สี่รู้แปด"  คำนี้จู่ๆ ก็กลายเป็นประเด็นร้อนทางการเมืองถูกกล่าวถึงตลอดทั้งวัน  เมื่อบรรดาสส.พรรคเพื่อไทย ออกมาตอบโต้ "นายวิโรจน์  ลักขณาอดิศร" สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน  เจ้าของคำพูด "นายกฯไม่รู้สี่รู้แปด" อะไรบ้างเลยหรือ 

ชนวนเหตุของเรื่อง มีที่มาที่ไปอย่างไร ถึงกับทำให้ พรรคเพื่อไทย ออกอาการเดือดดาล รวมถึง คนถูกพาดพิง อย่าง แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ออกมาชี้แจง   "เนชั่นทีวี" ขอลำดับเหตุการณ์ดังนี้ 

 

วันที่ 18 มีนาคม 2568  เวลา  09.30 น. ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ณ บริเวณด้านหน้า ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล  นายบัญชา สุขแก้ว อธิบดีกรมประมง นำคณะกรรมการบริหารสมาคมการประมงแห่งประเทศไทย ประกอบด้วย นายมงคล สุขเจริญคณา ประธานสมาคมการประมงแห่งประเทศไทย นายกำจร มงคลตรีลักษณ์ ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์สมาคมการประมงแห่งประเทศไทย ดร.ปรีชา ศิริแสงอารำพี ที่ปรึกษาสมาคมการประมงแห่งประเทศไทย นางสุภาวดี โชคสกุลนิมิต ที่ปรึกษาสมาคมการประมงแห่งประเทศไทย เข้าพบนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เพื่อขอบคุณนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี ที่มีมติอนุมัติโครงการนำเรือประมงออกนอกระบบ เพื่อการจัดการทรัพยากรประมงทะเลที่ยั่งยืน รวมทั้งมอบช่อดอกไม้และกระเช้าอาหารทะเลแห้งให้เป็นของที่ระลึก เพื่อเป็นการขอบคุณต่อความจริงใจในการแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืนให้กับพี่น้องชาวประมง

 นายบัญชา สุขแก้ว อธิบดีกรมประมง นำผู้ประกอบการประมงเข้าพบนายกฯเพื่อขอบคุณการแก้ปัญหาประมงไทย ภายในทำเนียบรัฐบาล

11.00 น. เครือข่ายประชาชน 19 จังหวัดที่ได้รับผลกระทบจากปลาหมอคางดำ นัดรวมตัวกันบริเวณหน้ากระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ก่อนเคลื่อนขบวนมายังทำเนียบรัฐบาล เพื่อทวงถามข้อเรียกร้อง 4 ข้อ ที่ได้เรียกร้องถึงรัฐบาลไปแล้วเมื่อวันที่ 13 มกราคม 2568  โดย นายปัญญา โตกทอง เกษตรกรทำวังกุ้ง จ.สมุทรสงคราม ระบุว่า เดินทางมายื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี เพื่อทวงถามข้อเรียกร้อง 4 ข้อ โดยต้องการให้นายกรัฐมนตรี ออกมาเป็นผู้รับเรื่องเพียงคนเดียวหากถึงเวลา 14.00 น.  ยังไม่ได้พบนายกฯ  จะมีการเทปลาหมอคางดำที่หน้าทำเนียบฯ  จำนวน 2 ตัน เพื่อแสดงสัญลักษณ์ว่าเอาปลาหมอคางดำมาคืน รวมถึงจะมีการเผาพริกเผาเกลือสาปแช่งด้วย และหากครั้งนี้ไม่มีการตอบรับใด ๆ จากรัฐบาลอีก เครือข่ายจะกลับมาอีกครั้ง พร้อม รอบหน้าปลาหมอคางดำ 19 ตัน  

เครือข่ายประชาชน 19 จังหวัดที่ได้รับผลกระทบจากปลาหมอคางดำ เทปลาหมอคางดำ ประท้วง หน้าทำเนียบฯ

อย่างไรก็ดี  ฟากฝั่งรัฐบาล นำโดยนายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง  พร้อมด้วย นายบัญชา สุขแก้ว  อธิบดีกรมประมง เป็นตัวแทนนายกฯมารับหนังสือแทน แต่ผู้ชุมนุมไม่พอใจ จึงได้ทำการเทปลาหมอคางดำ พร้อมทำพิธีเผาพริกเผาเกลือ  

ขณะเดียวกัน เป็นช่วงเวลา ที่ นายวิโรจน์  ลักขณาอดิศร  สส.บัญชีรายชื่อ  พรรคประชาชน  เดินทางมารับหนังสือข้อเรียกร้องจากผู้ชุมนุม พร้อมให้สัมภาษณ์สื่อ กล่าวตำหนิรัฐบาลอย่างรุนแรงที่ไม่สนใจแก้ปัญหาให้กับเกษตรกรประมงผู้เดือดร้อน โดยเฉพาะ นายกรัฐมนตรี ที่ "ไม่รู้สี่รู้แปด" กับเรื่องที่เกิดขึ้น

 

นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร  สส. บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน

"เรื่องนี้เป็นเรื่องความเดือดร้อนของประชาชน ซึ่งจะต้องใช้กลไกในรัฐสภาในการจัดการกับนายกที่ไม่รู้สี่รู้แปด ซึ่งวันนี้ยิ่งชัดเจน ซึ่งตามจริงแล้ววันนี้  “นายกรัฐมนตรีควรนำถุงพลาสติกมาใส่ปลากลับไปกินสัก 10 ตัว ก็ยังไม่มาเลย พอตัวเองเท้าไม่ติดดิน ซึ่งผมไม่รู้ว่ารองเท้าไข่มุกที่ใส่ไว้ มันลอยจากพื้นหรืออย่างไร ขอให้เท้าติดดินบ้างได้ไหม เอาปลาหมอไปกินบ้างได้ไหมจะได้รู้ว่าอร่อยหรือไม่อร่อย และย้อนถามว่าเพราะรองเท้าไข่มุกคู่ละ 50,000 บาท ใส่แล้วลอยจากพื้น เท้านี่แดงติดพื้นไม่ได้"  นายวิโรจน์ กล่าวไว้ตอนหนึ่ง  

15.00 น. ภายหลัง นายกฯแพทองธาร เสร็จสิ้นภารกิจเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี  ได้ใช้เวลาช่วงเย็น วิ่งเล่นกับ ลูกๆ ที่สนามหญ้า หน้าตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล อย่างมีความสุข  ก่อนเดินทางเข้าร่วมประชุมพรรคในการเตรียมตัวรับมือศึกซักฟอกนายกฯ ในวันที่ 24 มี.ค. 

 

“ประมง” ไม่เท่าเทียม ? 

ทั้งนี้ หากย้อนกลับไปดูมติครม. เกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือ พี่น้องเกษตรกรชาวประมง พบว่า ในยุครัฐบาลเศรษฐา ซึ่งมาจากพรรคเพื่อไทย เคยอนุมัติงบประมาณ 1,622, 605,300 บาท  ชดเชยเรือประมงพาณิชย์ จำนวน 923 ลำ ( โครงการนำเรือออกนอกระบบ )  นั่นเป็นมติครม.ในการช่วยเหลือ ประมงพาณิชย์  จนนำมาสู่ ผู้ประกอบการประมง เดินทางเข้าทำเนียบฯ มอบช่อดอกไม้ขอบคุณนายกฯ เมื่อวันที่ 18 มี.ค.ที่ผ่านมา 

ขณะที่ ประมงพื้นบ้าน  ซึ่งได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดปลาหมอคางดำ รัฐบาลเศรษฐา ขณะนั้น มีมติ อนุมัติงบ 450 ล้าน แก้ปัญหาปลาหมอคางดำ 

 

นายกฯแจงไม่ได้ละเลยแก้ปัญหาปลาหมอคางดำ 

 

ต่อมา เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2568  นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์ถึงกรณีมีกลุ่มผู้ชุมนุม "ม็อบปลาหมอคางดำ 19 จังหวัด"  ชุมนุมหน้าทำเนียบ เพื่อทวงถามข้อเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีเร่งช่วยเกษตรกร แต่นายกรัฐมนตรีกลับพาลูก ๆ วิ่งเล่นหน้าสนามหญ้าตึกไทยคู่ฟ้า จนเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่านายกรัฐมนตรีไม่สนใจกลุ่มผู้ชุมนุมนั้นว่า เรื่องของความเดือดร้อนของประชาชน ประเด็นกลุ่มผู้ชุมนุม “ม็อบปลาหมอคางดำ 19 จังหวัด” ได้มีการพูดคุยและได้สั่งการกรมประมงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ในเรื่องของการแก้ไขปัญหาดังกล่าว

ในส่วนของประเด็นเรื่องของการพาลูก ๆ วิ่งเล่นนั้น ส่วนตัวเมื่อมีโอกาสใกล้ชิดกับลูก ก็จะพาลูก ๆ วิ่งเล่น ไม่ได้เป็นการรบกวนการทำงานแต่อย่างใด เพราะว่าบางวันมีตารางงานที่แน่น ก็จะไม่ได้เจอกับลูก ๆ  และคิดว่าในเรื่องดังกล่าว ก็เป็นเหมือนกับพ่อแม่ที่ทำงานทั่ว ๆ ไป เมื่อมีโอกาสใกล้ชิดกับลูกก็จะใช้เวลาดังกล่าวกับลูก ๆ  ซึ่งในส่วนนี้ก็ต้องเข้าใจการใช้ชีวิตของมนุษย์ที่ทำงาน เพราะอย่างไรก็ตามการจัดสรรเวลาเป็นสิ่งสำคัญ ไม่ได้แปลว่าทำอย่างหนึ่งแล้วจะไม่สามารถทำอีกอย่างหนึ่ง  ส่วนเรื่องของการทำงานก็คิดอยู่ในหัวตลอดเวลา ทั้งนี้ ก็แนะนำให้ทุก ๆ ท่านดูแลสุขภาพแบ่งเวลาให้ถูกต้องเพราะจะเป็นผลดีทั้งต่อองค์กรและครอบครัว

นายกฯแพทองธาร ชี้แจง กรณีปรากฎภาพ วิ่งเล่นกับลูกๆที่สนามหญ้าหน้าตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล

นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า ปัญหาทุกปัญหาของพี่น้องประชาชนไม่ว่าเป็นปัญหาของจังหวัดใด รัฐบาลจะต้องดูแลปัญหา  ปัญหาไหนที่สามารถเร่งดำเนินการได้ก็จะเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหา  ส่วนปัญหาไหนที่จะต้องมีการรอ ก็จะต้องรอเพื่อให้เกิดความแน่ชัด เพื่อให้เกิดความชัดเจนปลอดภัยก่อนที่จะทำ เพราะฉะนั้นทุกปัญหาไม่มีการมาชั่งใจว่าปัญหาไหนสำคัญกว่ากัน  ซึ่งทุกปัญหาได้คิดอยู่ในใจตลอด ปัญหาไหนที่หาทางแก้ไขได้รีบดำเนินการทำอย่างแน่นอน
 
“เรื่องที่เกี่ยวข้องกับชีวิต จะต้องเรียงลำดับความสำคัญก่อนหลัง แต่แน่นอนว่าทุกปัญหา รัฐบาลจะต้องดำเนินการแก้ไขปัญหา ซึ่งเป็นสิ่งที่รัฐบาลยึดถือปฏิบัติและขอให้เชื่อมั่นว่าปัญหาทุกอย่างที่เกิดขึ้น รัฐบาลเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหา อย่างเช่น ปัญหาเรื่องฝุ่น PM 2.5 ทุกหน่วยงาน ทุกบุคลากร ได้ร่วมมือกันทำงานแก้ไขปัญหาอย่างแข็งขันมาตลอด” นายกรัฐมนตรี ระบุ

 

ทั้งหมดนี้เป็นลำดับเหตุการณ์ร้อนที่เกิดขึ้นบริเวณทำเนียบรัฐบาล ตั้งแต่เมื่อวันที่ 18 มีนาคม  หากแต่กำลังลุกลามบานปลายไปถึงสภาฯ

ตามสัญญาณที่ได้รับมาว่า การเคลื่อนไหวของสส.พรรคประชาชน อย่าง นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ต่อกรณีเดินทางมารับเรื่องร้องเรียนผู้เดือดร้อนจากผลกระทบปลาหมอคางดำ ถึงทำเนียบฯ พร้อมกับสาดวาทกรรม "นายกฯไม่รู้สี่รู้แปด"  ถือเป็นการโหมโรงก่อนถึงวันซักฟอกนายกรัฐมนตรีแพทองธาร ในวันที่ 24 - 26 มีนาคมนี้