อีลอน มัสก์ มหาเศรษฐีคนสนิทของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ให้สัมภาษณ์พิเศษกับฌอน แฮนนิตี ทางสถานีโทรทัศน์ฟ็อกซ์นิวส์เมื่อคืนวันอังคาร (18 มีนาคม) ว่า เขารู้สึกตกใจว่ามีกระแสความเกลียดชังและความรุนแรงจากฝ่ายซ้ายในระดับรุนแรงเช่นนี้ หลังจากมีการเผารถยนต์เทสลา ปาระเบิดเพลิงและยิงทำลายโชว์รูม ทำลายทรัพย์สินของเทสลา แม้ยังไม่มีหลักฐานยืนยันว่า ผู้ต้องสงสัยก่อเหตุสืบเนื่องจากแนวคิดทางการเมือง
รถยนต์หลายคันถูกจุดไฟเผาที่ศูนย์บริการเทสลาในนครลาสเวกัสในเช้ามืดวันอังคาร และสำนักงานสืบสวนกลางหรือเอฟบีไอ ไม่ตัดประเด็นความเป็นไปได้เกี่ยวกับการก่อการร้าย และเมื่อผู้สื่อข่าวซักถามถึงความเป็นไปได้ว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีแรงจูงใจทางการเมืองหรือไม่ เจ้าหน้าที่ยังไม่ยืนยันว่ามีการสืบสวนในประเด็นนี้
มัสก์ในฐานะผู้ก่อตั้งเทสลา โพสต์ใน X เกี่ยวกับเหตุการณ์ดังกล่าวด้วยว่า ความรุนแรงขนาดนี้ช่างไร้เหตุผลและผิดมาก เทสลาแค่ผลิตรถยนต์ไฟฟ้า และไม่ได้ทำอะไรที่สมควรถูกโจมตีร้ายแรงเช่นนี้
เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากเจ้าของรถเทสลา, โชว์รูม และสถานีชาร์จของเทสลา ตกเป็นเป้าโจมตีทั่วประเทศในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมาเพื่อต่อต้านมัสก์ และบทบาทของเขาในสำนักงานประสิทธิภาพรัฐบาล หรือ โดจ ที่มีหน้าที่ตัดรายจ่ายสิ้นเปลืองของรัฐบาลและลดขนาดของรัฐบาล
นอกจากนี้มัสก์ยังบอกด้วยว่า การตรวจสอบที่พบการทุจริต ทำให้คนเหล่านั้นอยากฆ่าเขาเพราะเขาหยุดยั้งการฉ้อโกง และต้องการทำลายเทสลา เพราะเขาสามารถหยุดั้งการสิ้นเปลืองและการคอร์รัปชันที่เลวร้ายในรัฐบาล
เขายืนยันว่า เหตุผลที่เขารับหน้าที่ในโดจ เพราะเขากังวลอย่างมากว่าอเมริกาจะล้มละลายเนื่องจากการคอร์รัปชันและการสิ้นเปลือง และหากไม่ทำอะไรเลย รัฐนาวาอเมริกาจะอัปปาง พร้อมทั้งบอกด้วยว่า ทุกคนอยู่บน “เรืออเมริกา” ด้วยกัน และควรทำทุกอย่างเพื่อให้อเมริกาแข็งแกร่งต่อไปในอนาคตข้างหน้า
มัสก์และทรัมป์เดินหน้าลดขนาดพนักงานในหน่วยงานรัฐบาลกลางที่มีราว 2.3 ล้าน และได้ปลดออกหรือจ้างลาออกมากกว่า 100,000 คน โดยการปลดส่วนใหญ่พุ่งเป้าพนักงานที่ทำงานในตำแหน่งปัจจุบันไม่ถึง 1 ปี