การเดินหน้าป้องกันแชมป์ เอฟเอคัพ ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยังคงดำเนินต่อไป โดยพวกเขาจะเปิดบ้านรับการมาเยือนของฟูแล่ม ทีมจากพรีเมียร์ลีกเช่นกัน ในเกมรอบห้าที่สนามโอลด์ แทรฟฟอร์ด คืนวันอาทิตย์นี้
ทีมของรูเบน อโมริม ผ่านรอบที่แล้วมาแบบมีประเด็น หลังเฉือนเอาชนะเลสเตอร์ ซิตี้ 2-1 ขณะที่ฟูแล่มก็เบียดเอาชนะ วีแกน แอธเลติก อดีตแชมป์เก่ามาด้วยสกอร์เดียวกัน
สนามที่เคยเป็นจุดกำเนิดของ 'เฟอร์กี้ ไทม์' ได้กลายเป็นเวทีของ 'ออฟไซด์ ไทม์' เมื่ออดีตกองหน้าและผู้จัดการทีมแมนฯ ยูไนเต็ด อย่าง รุด ฟาน นิสเตลรอย แสดงความไม่พอใจกับการที่เลสเตอร์ต้องตกรอบจากความผิดพลาดของไลน์แมนในการตัดสิน
เกมที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา บ็อบบี้ เดคอร์โดว่า-รีด ยิงให้เลสเตอร์ขึ้นนำ ก่อนที่ โจชัว เซิร์กซี จะยิงตีเสมอให้ยูไนเต็ด จนกระทั่ง แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ทำประตูชัยจากจังหวะที่ล้ำหน้าแต่ไม่มี VAR มาตรวจสอบ ทำให้ปีศาจแดงผ่านเข้ารอบไปแบบมีดราม่า
อย่างไรก็ตาม แมนฯ ยูไนเต็ด กลับมาคว้าชัยอีกครั้งในพรีเมียร์ลีกกลางสัปดาห์ ด้วยการเฉือนอิปสวิช ทาวน์ 3-2 ซึ่งเป็นผลงานที่ช่วยเรียกความมั่นใจกลับมาได้ หลังจากก่อนหน้านี้พวกเขาเก็บได้เพียงแต้มเดียวจาก 3 เกมลีกที่ผ่านมา จนทำให้ทีมตกลงไปอยู่ที่อันดับ 14 ของตาราง
แม้ปีศาจแดงยังอยู่ในเส้นทางของยูโรปา ลีก แต่การป้องกันแชมป์เอฟเอ คัพ อาจเป็นเส้นทางที่ดีที่สุดในการคว้าตั๋วไปเล่นฟุตบอลยุโรปฤดูกาลหน้า โดยพวกเขามีสถิติที่ยอดเยี่ยมในรายการนี้ หลังจากผ่านเข้ารอบห้าได้ทุกครั้งตลอด 14 ปีที่ผ่านมา นับตั้งแต่ตกรอบในปี 2005-06 โดยลิเวอร์พูล ซึ่งคว้าแชมป์ในปีนั้น
ฟูแล่มเองก็หวังสร้างปาฏิหาริย์ คว้าแชมป์เอฟเอ คัพ เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ โดยผลงานที่ดีที่สุดของพวกเขาคือการเข้าชิงชนะเลิศในปี 1975 ซึ่งครั้งนี้ทีมของ มาร์โก ซิลวา เอาชนะทั้งวัตฟอร์ดและวีแกนในรอบที่ผ่านมาเพื่อเข้าสู่รอบนี้
ทีมของซิลวากำลังอยู่ในฟอร์มที่ยอดเยี่ยม โดยคว้าชัยชนะ 4 จาก 5 นัดหลังสุดในทุกรายการ รวมถึงเกมพรีเมียร์ลีกล่าสุดที่พวกเขาเอาชนะวูล์ฟแฮมป์ตัน 2-1 โดย โรดริโก้ มูนิซ ยิงประตูสำคัญพาทีมคว้าชัย
นอกจากนี้ ฟูแล่มยังทำผลงานได้ดีในการเล่นเป็นทีมเยือน พวกเขาคว้าชัยชนะ 4 นัดติดต่อกันนอกบ้าน และสามารถยิงได้อย่างน้อย 2 ประตูใน 7 เกมเยือนล่าสุด โดยครั้งสุดท้ายที่พวกเขาทำประตูไม่ได้ในเกมเยือนก็คือการพบกับแมนฯ ยูไนเต็ด ในเกมเปิดฤดูกาลพรีเมียร์ลีก 2024-25 และปีศาจแดงก็เคยเอาชนะพวกเขา 1-0 ที่คราเวน คอทเทจ รวมถึงการชนะ 3-1 ในรอบก่อนรองชนะเลิศเอฟเอ คัพ 2022-23 ซึ่งเป็นเกมที่ อเล็กซานดาร์ มิโตรวิช โดนใบแดงจากอารมณ์ร้อน
ต้องลงเล่นโดยไม่มี แพทริก ดอร์กู ที่ติดโทษแบน 3 นัดหลังโดนใบแดงจากการทำฟาวล์รุนแรงในเกมกับอิปสวิช นอกจากนี้ ลิซานโดร มาร์ติเนซ (เอ็นไขว้หน้า), อาหมัด ดิยัลโล่ (ข้อเท้า), ลุค ชอว์ (น่อง), จอนนี่ อีแวนส์ (หลัง) และ เมสัน เมาท์ (ต้นขา) ต่างก็ยังไม่พร้อมกลับมาช่วยทีม
นูสแซร์ มาซราวี มีโอกาสได้รับโอกาสลงตัวจริงแทนที่ ดอร์กู ส่วน อเลฮานโดร การ์นาโช่ ซึ่งโดนเปลี่ยนตัวออกกลางสัปดาห์เพราะอาการบาดเจ็บเล็กน้อย คาดว่าน่าจะพร้อมลงสนาม
ซาซ่า ลูคิช ติดโทษแบนจากการสะสมใบเหลืองครบ 10 ใบในพรีเมียร์ลีก แต่สามารถลงเล่นในเกมนี้ได้ ขณะที่ เอมิล สมิธ โรว์ ยังต้องรอเช็กอาการบาดเจ็บที่ข้อเท้า ส่วน รีสส์ เนลสัน (ต้นขา), แฮร์รี่ วิลสัน (เท้า) และ เคนนี่ เตเต้ (เข่า) ยังคงไม่พร้อมลงสนาม
โรดริโก้ มูนิซ มีลุ้นยึดตำแหน่งตัวจริงหลังฟอร์มร้อนแรงในเกมล่าสุด ขณะที่ อันเดรียส เปเรร่า อดีตกองกลางแมนฯ ยูไนเต็ด จะเป็นตัวปั้นเกมรุกให้ทีมในกรณีที่ สมิธ โรว์ ลงไม่ได้