ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก ประจำวันเสาร์ที่ 13 เม.ย. 67 คู่ที่น่าสนใจ คู่แรก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เกมนี้ออกไปเยือน บอร์นมัธ ที่ไวทาลิตี้ สเตเดี้ยม ผลปรากฏว่า "ปีศาจแดง" แม้จะยึดผู้เล่นชุดเดิมที่ทำผลงานได้ดีในเกมแดงเดือดนัดล่าสุด และเกมนี้กลับต้องหืดจับต้องไล่ตามตีเสมอ 2 ครั้ง 2 ครา โดยเจ้าบ้านออกนำก่อนจาก โดมินิค โซลันกี้ นาทีที่ 16 และเป็นประตูที่ 17 ของอดีตดาวยิง ลิเวอร์พูล แล้วในซีซั่นนี้
จากนั้น บรูโน่ แฟร์นันด์ส มาตีเสมอให้ทีมเยือนไล่มาเป็น 1-1 นาทีที่ 31 ก่อนที่ จัสติน ไคลเวิร์ต จะมายิงให้เจ้าถิ่นออกนำอีกครั้งนาที 36 ครึ่งหลังนาที 65 แมนยู มาได้จุดโทษและเป็น บรูโน่ ที่สังหารเข้าไปช่วยให้ ปีศาจแดง บุกแบ่งแต้มหวุดหวิด และกลายเป็นสถิติไม่ชนะทีมใด 4 นัดติดต่อกัน ซึ่งเป็นผลงานที่แย่ที่สุดนับตั้งแต่เดือน ต.ค. ปี 2021 หรือในรอบเกือบ 3 ปีทีเดียว
หลังเกมกระแสการปลด เอริค เทน ฮาก กระพือขึ้นมาอีกครั้งหลังลูกทีมทำผลงานได้อย่างย่ำแย่และไม่มีความสม่ำเสมอ โดยการเจอกับบอร์นมัธ "ปีศาจแดง" ได้โอกาสยิงแค่ 8 ครั้ง เข้ากรอบ 2 ครั้งเท่านั้น ทั้งๆที่เป็นทีมชุดเดียวกับที่เจอ ลิเวอร์พูล แท้ๆ
นอกจากนี้ยังเหมือนจะมี "รอยร้าว" ในรั้วโอลด์ แทรฟฟอร์ด อีกด้วย หลังแฟนบอลพบว่า อเลฮานโดร การ์นาโช่ ปีกดาวรุ่งของทีม ไปกดไลก์โพสต์ข้อความโจมตีกุนซือดัตช์ที่เปลี่ยนตัวเขาออกในช่วงพักครึ่ง ทำให้มีความหวั่นใจว่าเรื่องราวอาจซ้ำรอย เจดอน ซานโช่ ที่มีความขัดแย้งกันผ่านโซเชียลมีเดียมาแล้ว
อีกคู่ที่น่าสนใจเป็นเกมที่ เอติฮัด สเตเดี้ยม แชมป์เก่า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ พบกับ ลูตัน ทาวน์ ที่กำลังหนีตกชั้น
เกมนี้เจ้าบ้านออกนำเร็วจากการทำเข้าประตูตัวเองของ ไดอิคิ ฮาชิโอกะ ตั้งแต่นาทีที่ 2 จากนั้นต้องรอถึงครึ่งหลังกว่าจะมีประตูเพิ่มและเป็น มาเตโอ โควาชิช ที่ยิงไกลสุดสวยให้ "เรือใบสีฟ้า" ออกนำ 2-0
หลังจากนั้นสกอร์ก็ไหลเป็นสายน้ำ เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ มายิงจุดโทษให้ทีมนำห่าง 3-0 ในนาทีที่ 76 จากนั้น รอสส์ บาร์คลีย์ มายิงตีไข่แตกให้ทีมเยือนไล่มาเป็นเป็น 1-3 ในนาที 81 อย่างไรก็ตาม แมนฯ ซิตี้ บวกเพิ่มได้อีกสองลูกจาก เฌเรมี่ โดกู นาที 87 และ ยอสโก้ กวาร์ดิโอล นาที 90+3 จบเกมชนะไปขาดลอย 5-1 ขยับขึ้นรั้งจ่าฝูง พร้อมเรียกความมั่นใจก่อนมีคิวเจอ เรอัล มาดริด ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก กลางสัปดาห์นี้
ส่วนผลคู่อื่นๆ
สรุปตารางคะแนนพรีเมียร์ลีก (13 เม.ย.)