"อาหมัด ดิยัลโล่" จากดาวรุ่งผู้ (เกือบ) ถูกลืม สู่ฮีโร่ศึก "ดาร์บี้ แมนเชสเตอร์"

ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก ในศึก ดาร์บี้แมตช์แห่งเมืองแมนเชสเตอร์ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (15 ธ.ค.) จบลงด้วยชัยชนะของ "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่รัว 2 ประตูในช่วงท้ายเกม ก่อนเฉือนชนะแชมป์เก่า "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์​ ซิตี้ หวุดหวิด 2-1

โดยในเกมนี้ แฟนบอลต่างชื่นชมผลงานของ "อาหมัด ดิยัลโล่" ปีกดาวรุ่งชาวไอวอรี่ โคสต์ ที่ทำผลงานโดดเด่นอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ทีมได้ รูเบน อโมริม มาเป็นกุนซือคนใหม่ และเชื่อมั่นว่าเจ้าตัวจะพัฒนาตัวเองจนก้าวขึ้นเป็นแกนหลักของทีมได้ในอนาคต

ก่อนหน้านี้ ชื่อของ อาหมัด ดิยัลโล่ หลายคนอาจลืมไปแล้วว่าเจ้าตัวย้ายมาร่วมทัพ "ปีศาจแดง" ด้วยค่าตัวมหาศาลถึง 37 ล้านปอนด์ตั้งแต่อายุยังไม่ถึง 18 ปีด้วยซ้ำ ทำเอาแฟนบอลต่างตั้งความหวังไว้ว่า ดิยัลโล่ จะก้าวขึ้นเป็นสตาร์คนใหม่ของทีมได้ในเร็ววัน

แต่ที่ผ่านมาในยุคของ เอริก เทน ฮาก ดิยัลโล่ กลับไม่ค่อยได้ลงสนามให้ทีมมากนัก จนชื่อของเขาค่อยๆเลือนหายไปจากความทรงจำของแฟนๆ โดยเพิ่งจะได้รับโอกาสอย่างจริงจังในช่วงไม่กี่นัดหลัง ในยุคของ อโมริม นี้เอง

เด็กหนุ่มจากกาฬทวีปที่ฝันอยากเป็นนักฟุตบอล
"อาหมัด ดิยัลโล่ ตราโอเร่" เกิดเมื่อวันที่ 11 ก.ค. 2022 ที่เมืองอาบีจาน ประเทศไอวอรี่โคสต์ ก่อนจะย้ายมาอยู่อิตาลีตั้งแต่ยังเป็นเด็ก เขาและพี่ชายเริ่มหัดเล่นฟุตบอลกับ "โบกา บาร์โก" ทีมสมัครเล่นท้องถิ่น ก่อนที่ โจวานนี่ กัลลี่ อดีตผู้รักษาประตูที่เคยเฝ้าเสาให้ฟิออเรนตินา, เอซี มิลาน และนาโปลี  จะชักชวนสองพี่น้องมาฝึกซ้อมกับทีม ลุคเคเซ่ สโมสรในลีกล่างของอิตาลี ซึ่งเขาเป็นโค้ชอยู่

แต่พอไปซ้อมได้แค่ 2 วัน กัลลี่ ก็พบว่าพี่น้องคู่นี้เก่งเกินกว่าจะมาเล่นให้ทีมของเขา จึงติดต่อพี่ชายให้ไปอยู่กับทีมอะคาเดมี่ของ เอ็มโปลี ส่วน อาหมัด น้องชาย ได้ไปทดสอบฝีเท้ากับยูเวนตุส, เอซี มิลาน และ อินเตอร์ มิลาน แต่สุดท้ายได้ไปอยู่กับ อตาลันต้า ด้วยวัยเพียง 13 ปี

ด้วยฝีเท้าที่เหนือชั้นกว่าเด็กรุ่นเดียวกัน ทำให้ อาหมัด ดิยัลโล่ ได้เล่นข้ามรุ่นมาตลอด ตอนอายุ 13 ได้ไปเล่นกับทีม U15 ขณะที่ตอนอายุ 16 ก็ขยับขึ้นไปเล่นชุด U19 แล้ว ส่งผลให้ จานปิเอโร่ กาสเปรินี่ กุนซืออตาลันต้าชุดใหญ่ หนีบดาวรุ่งรายนี้ไปร่วมปรีซีซั่น และส่งลงเล่นในแมตช์อุ่นเครื่องหลายหน ก่อนจะได้โอกาสลงเล่นใน เซเรีย อา นัดแรก ในเกมที่พบกับ อูดิเนเซ่ เมื่อวันที่ 27 ต.ค. 2019 แถมยังยิงประตูได้ในเกมนั้นด้วยวัยเพียง 17 ปี 109 วัน นั่นทำให้เขาเป็นผู้เล่นคนแรกที่เกิดในปี 2002 ที่ทำประตูได้ในเซเรียอา และเป็นผู้เล่นที่อายุน้อยที่สุดที่ทำประตูในการประเดิมสนามในลีกสูงสุดของอิตาลี

       "บางครั้งกองหลังในทีมชุดใหญ่ก็ไม่สามารถหยุดเขาได้" ปาปู โกเมซ กัปตันทีม อตาลันต้า กล่าว "การที่จะหยุดเขาในสนามซ้อมได้ เราต้องเตะเขาเลยล่ะ เขาเล่นเหมือนเมสซี่เลย"

ชีวิตเกือบพังเพราะเอเยนต์
จากดาวรุ่งพุ่งแรงแห่งวงการฟุตบอลอิตาลี แต่ใครหลายคนอาจไม่รู้ว่าการเป็นนักเตะอาชีพของ อาหมัด ดิยัลโล่ เกือบจะจบลงตั้งแต่ยังไม่ทันเริ่มด้วยซ้ำ เหตุเพราะมีการตรวจสอบพบว่าเอกสารที่เจ้าตัวใช้เดินทางมาพำนักที่อิตาลี รวมถึงประวัติของพ่อแม่ของเขานั้น เป็นเรื่อง "ปลอม" ทั้งหมด

โดยปี 2021 อาหมัด ดิยัลโล่ ถูก สหพันธ์ฟุตบอลอิตาลี (เอฟไอจีซี) ลงโทษด้วยการปรับเงิน 42,000 ปอนด์ (1.7 ล้านบาท) จากข้อกล่าวหาที่ว่าเขาใช้เอกสารปลอมในการเดินทางเข้าประเทศ ก่อนได้เซ็นสัญญากับ 2 สโมสร ทั้ง โบกา บาร์โก และ อตาลันต้า 

"เดลี่ เมล" สื่อดังของอังกฤษ รายงานว่ามีผู้ใหญ่ 5 คนที่ถูกกล่าวหาว่าร่วมกันพาตัว อาหมัด ดิยัลโล่ รวมถึง ฮาเหม็ด จูเนียร์ ตราโอเร่ พี่ชายของเขา และนักฟุตบอลเยาวชนจากแอฟริกาอีก 3 คนเข้าสู่ประเทศอิตาลีโดยผิดกฏหมาย ด้วยการใช้วีซ่าครอบครัว แต่พบว่าเอกสารทั้งหมดเป็นการปลอมแปลงขึ้น พ่อแม่ของเขาตามประวัติในเอกสารก็เป็นพ่อแม่ที่อุปโลกน์ขึ้นมา ยิ่งไปกว่านั้น ผลการตรวจดีเอ็นเอของ อาหมัด และพี่ชาย ก็พบว่าไม่มีความเกี่ยวข้องกันทางสายเลือด

โชคดีที่เรื่องราวทั้งหมดเกิดขึ้นในช่วงที่ อาหมัด ดิยัลโล่ ยังเป็นผู้เยาว์ จึงไม่ต้องรับโทษจำคุกแต่อย่างใด 

และทันทีที่เจ้าตัวอายุครบ 18 ปี เขาก็จัดการตัดชื่อ "ตราโอเร่" ที่เป็นนามสกุลของพ่อปลอมๆของเขาออกไป เหลือเพียง อาหมัด ดิยัลโล่ เท่านั้น ขณะที่ชื่อบนหลังเสื้อแข่ง ก็ใช้แค่คำว่า "อาหมัด" อย่างเดียวนับแต่นั้นเป็นต้นมา

ย้ายสู่ถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด
อาหมัด ดิยัลโล่ เพิ่งจะเล่นให้ อตาลันต้า ไปแค่ 4 เกมเท่านั้น แต่ฟอร์มของเขาก็ไปเข้าตาแมวมองของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จนมีการเจรจาย้ายทีมกันอย่างรวดเร็ว สุดท้ายแล้ว "ปีศาจแดง" ก็ประกาศการเซ็นสัญญาคว้าตัวดาวรุ่งรายนี้มาร่วมทีมได้สำเร็จ ด้วยค่าตัวมหาศาลถึง 37 ล้านปอนด์ ทำเอาแฟนบอลต่างตกตะลึงกันไปตามๆกันว่าทำไมเด็กคนนี้ถึงมีค่าตัวแพงได้ขนาดนี้

       "เราติดตามอาหมัดมาหลายปีแล้ว และจากการดูเขาด้วยตัวเอง ผมเชื่อว่าเขาคือหนึ่งในดาวรุ่งที่น่าตื่นเต้นที่สุดของวงการ"

       "มันจะต้องให้เวลาสำหรับเขาในการปรับตัว แต่ความเร็ว วิสัยทัศน์ และความสามารถในการเลี้ยงบอลที่ยอดเยี่ยมของเขา จะทำให้เขาอยู่ในตำแหน่งที่ดีในการพัฒนาตัวเอง เขาเป็นผู้เล่นที่มีคุณสมบัติทั้งหมดที่จำเป็นในการเป็นผู้เล่นที่สำคัญของทีมในอนาคต" โอเล่ กุนนาร์ โซลชา กุนซือ แมนฯยูไนเต็ด ในเวลานั้น กล่าว

หลังจากนั้น อาหมัด ดิยัลโล่ ก็มีโอกาสลงสนามให้ทีม U23 ไป 2 นัด ก่อนถูกดึงตัวขึ้นชุดใหญ่ และได้ลงเล่นให้ ปีศาจแดง นัดแรก ในเกมยูโรปาลีก ที่พบกับ เรอัล โซเซียดาด จากนั้นในฤดูกาล 2022/23 เจ้าตัวก็ได้ย้ายไปเก็บเกี่ยวประสบการณ์กับ กลาสโกว์ เรนเจอร์ส และ ซันเดอร์แลนด์ กระทั่งได้กลับมาสู่ทีมชุดใหญ่ของ แมนฯยูไนเต็ด ในฤดูกาลถัดมา แต่ก็ได้ลงสนามเพียงแค่ 12 นัด (ส่วนใหญ่เป็นตัวสำรอง) ก่อนก้าวขึ้นมาเป็นตัวหลักในยุค รูเบน อโมริม และกลายเป็นฮีโร่ในนัดล่าสุด